16 ก.พ. 2021 เวลา 12:37 • หนังสือ
“รักหมดใจ ต้องทำยังไงไม่ให้เจ็บ”
เรื่องราวต่อไปนี้จะเล่าถึง แนวคิดทฤษฎีหนึ่ง ที่ได้เปลี่ยน Mind set มุมมองเรื่องความรักของผมไปตลอดการ และเป็นจุดเริ่มต้นของ การปลดล็อก “สกิลพิเศษ” ที่โดนกดไว้อยู่ในตัวเราทุกๆคน
เมื่อถึงวัยที่เหมาะสม ความรักจุติอยู่ในใจ เมื่อถึงวัยที่เราเริ่มรู้จักรักใครสักคน นี่เป็นจุดเริ่มต้นของความคาดหวัง และความผิดหวัง หากความรักนั้นไม่เป็นดั่งใจ หากเราต้องเจ็บ แต่เราก็ยังตั้งใจที่จะรักเค้า ไม่ว่าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
เรามาทำ Mission กันไหม?
เสียงในใจผมมันเรียกร้อง สมองเริ่มประมวลผล ผมตั้งใจว่าจะทำมัน ภารกิจนี้คือ “รักเค้า จนกว่าเราทั้งสองจะแยกทางกันไป แต่ผมจะไม่แสดงออกหรอกนะ เก็บความรู้สึกไว้ในใจแบบนี้ก็ดีแล้ว ดีกว่าบอกไปแล้วเขารังเกียจเรา”
การมาตกหลุมรักเค้า ผมรู้ตัวแน่ๆว่าถ้ายังรักเค้าต่อไป ผมจะต้องเจ็บปวด มันมาสะกิดปมในใจผมตั้งแต่เด็ก “หน้าตาแบบนี้ นิสัยแบบนี้ ไม่มีเสน่ห์เอาซะเลย ยังไงซะก็ไม่มีใครมารักหรอก ผมเลยพยายามกดตัวเองตั้งแต่เด็ก กดความเป็นตัวเอง กดความรู้สึกไว้ ไม่ให้ตัวเองได้แสดงออกในแบบที่ต้องการ กดความเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด ไม่ให้ใครรับรู้ กดตัวเองไม่ให้มีโอกาสได้รักใคร แม้กระทั่งไม่เปิดโอกาสให้ใครเข้ามารักเรา เพราะเรามันไม่ได้ดีพอสำหรับใครเลย แม้แต่ตัวเราเอง เรายังดีพอในมาตรฐานของตัวเองยังไม่ได้เลย
เมื่อเราทั้งคู่เรียนอยู่ที่มหาลัยเดียวกัน เราจึงต้องเจอเค้าทุกวัน ไปทานข้าวด้วยกัน ชีวิตประจำวันของผมมีเค้าวนเวียนอยู่ตลอดเวลา ผมก็ยิ่งรักเขา แต่เมื่อผมยิ่งรัก ผมก็ยิ่งทุกข์ ผมจึงพยายามหาทางออก ด้วยการละทิ้งเงื่อนไขบางอย่างไป เมื่อรักเค้าไปแล้วหมดใจ จะทำยังไงให้ใจเราไม่เจ็บ
เงื่อนไขความรักของผม
เขาต้องชอบเรา
เขาต้องสนใจเรา
เขาต้องเป็นแฟนเรา
เขาต้องไม่ไปเป็นของคนอื่น
เงื่อนไขความรักแบบนี้ มันทำให้ผมอยู่ไม่ได้ ในความรู้สึกที่เรายังรักเขาอยู่ ผมยอมทิ้งเงื่อนไขทุกอย่างแล้ว แต่ในใจก็ยังตั้งมั่นที่จะรักเขา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
แล้ววันนั้นก็มาถึง วันที่สิ้นสุดภารกิจของผม วันที่ผมกับเขาต้องแยกทางกันไปตามเส้นทางของตัวเอง เราก็แทบไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย แต่สิ่งที่ยังค้างอยู่ในใจของผม ก็คือ ความรู้สึก “รักไม่รู้จบ” ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ไม่ว่าเราจะไม่ได้คุยกันแล้ว แยกทางกันไป จนเราทั้งคู่ไม่ได้อยู่ในชีวิตของกันและกันเลย แต่ผมก็หยุดรักเขาไม่ได้เลย ผมยังคงฝึกที่จะละทิ้งเงื่อนไขไปเรื่อยๆ จนผมค้นพบ ความรักที่มันบริสุทธิ์ มันมีความเรียบง่าย มันเป็นความรักที่เย็น แล้วมันปลดล็อกสกิลหนึ่งให้ตื่นขึ้นมา ผมจะขอเรียกมันว่า Awekening คือการรักตัวเองมาก รักผู้อื่นเป็น และจะมีพลังในการทำนั่นทำนี่ ทำในสิ่งที่รัก ทำตาม passion ของตัวเอง
แล้วมีโอกาสที่เขาจะรักเรามั๊ย?
ผมได้มีโอกาส work ในความสัมพันธ์แบบ Twin Flame หรือเปลวไฟคู่ ผมก็จะเชื่อมั่นว่ามันมีโอกาสที่เขาจะรักเรานะ ซึ่งในแนวคิดทฤษฎี Reunion Twin Flame บอกว่ามันมีโอกาส มีความเป็นไปได้ ขอแค่เราเชื่อมั่นในความคิดตนเอง การที่เรายอมละทิ้งเงื่อนไข เพื่อเรียนรู้ความหมายของ “รักไร้เงื่อนไข - Unconventional Love” จะทำให้ปลคลอคสกิล Awekening แล้วเราก็ต้องรู้จักพัฒนาตนเองดูแลตนเองให้สวยหล่อขึ้นให้เพียงพอที่เปลวไฟคู่ จะรักเราได้ นั่นคือ เราพัฒนาตนเองดูแลตนเองให้ดีพอในมาตรฐานของเราเองให้งดงามดั่งงานศิลปะที่เราตั้งใจสร้าง
เมื่อเราพร้อม มันถึงเวลาแล้ว ที่เราต้องไปแสดงความรักต่อหน้า เปลวไฟคู่ อย่างถูกวิธี แล้วเขาจะรักเราคืน เวลาเราถูกใครสักคนรัก ถ้ามันรู้สึกโอเค เราก็จะรักตอบ เมื่อเรารักใคร เราก็ต้องยอมเปลี่ยนเพื่อเขา ต้องปรับต้องจูนต้องพัฒนาตัวเอง ดูแลตนเองให้ดี และสุดท้าย การ Reunion Twin Flame ก็เป็นเพียงแนวคิดทฤษฎี หรือความเชื่อหนึ่ง ที่เกิดขึ้นจริงกับผู้คน และถูกบันทึกเล่าต่อกันมาเรื่อยๆ แต่ทฤษฎีก็เป็นสิ่งที่ล้มล้างได้เสมอ อยู่ที่ว่าจะเชื่อหรือไม่ เชื่อ 99% เท่ากับ ไม่เชื่อ
เพื่อนๆคนไหนที่กำลัง work ในความสัมพันธ์แบบ Twin Flame มาแชร์เรื่องราวความรักผ่านบทความบนเพจนี้ได้นะ ผมและเพื่อนรออ่านเรื่องราวของทุกๆคนอยู่นะ ใครมีคำถามอะไรหรืออยากให้ผมเขียนบทความเรื่องอะไร สามารถถามหรือบอกกันเข้ามาได้เลย ถ้าผมรู้ ผมจะเล่า แต่ถ้าผมไม่รู้เราจะพยายามหาคำตอบมาให้นะ ขอบคุณทุกคนที่ให้ความสนใจ และเป็นพลังงานดีๆให้กันต่อไปเรื่อยๆนะ
เขียนโดย ซาลาเปา -*-
โฆษณา