16 ก.พ. 2021 เวลา 15:40 • สุขภาพ
แนะนำ 8 ขั้นตอนในการเลือกคลินิกและหมอเสริมหน้าอกในฉบับพื้นฐานเบื้องต้น ที่คนส่วนใหญ่มองข้าม
เป็นเทคนิคทั่วๆไป แต่ส่วนใหญ่มักมองข้ามด้วยเหตุผลที่ว่าจะไปเน้นแต่ในส่วนของ "ราคา" หรือไม่ก็ฟัง "คนรอบข้าง" แนะนำแบบงงๆ ไม่ได้ตัดสินใจเอง อย่าลืมว่าคนที่ทำศัลยกรรมคือตัวคุณเองไม่ใช่คนรอบข้าง การตัดสินใจต้องเป็นคุณเองไม่ใช่เชื่อใครก็ได้หรือดูแค่ราคา แล้วอะไรละที่จะใช้เป็นข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจของคุณ
1. หาข้อมูลเกี่ยวกับซิลิโคนและเทคนิคในการเสริมหน้าอก ซิลิโคน Silicone มีกี่ประเภท ผิวเรียบผิวทรายต่างกันอย่างไร มียี่ห้ออะไรบ้าง (Mentor Allergan Silimed Sebbin Euro ฯลฯ) รูปทรงซิลิโคนแต่ละยี่ห้อ หน้าอกเราเหมาะกับรูปแบบไหน เลือกซิลิโคนยี่ห้อไหนดี เทคนิคการผ่าตัดเสริมหน้าอกมีแบบไหนบ้าง อยากทำแบบไหน กรีดใต้ราวนม รอบหัวนม หรือใต้รักแร้ วางซิลิโคนไว้บนกล้ามเนื้อหรือใต้กล้ามเนื้อดี แบบไหนพักฟื้นนานกว่ากัน เป็นต้น
ข้อมูลพวกนี่อ๊อฟฟี่เขียนไว้ในโพสก่อนหน้านี้
2. คลินิกหรือแพทย์ศัลยกรรมเสริมหน้าอกมีที่ไหนบ้าง ใช้เทคนิคอะไร ก่อนอื่นเราต้องรวบรวมว่ามีคลินิกใดบ้างที่ให้บริการเสริมหน้าอก และเจาะจงลงไปว่าหมอที่เป็นคนลงมือทำชื่ออะไรเป็นหมอท่านใด หมอแต่ละท่านใช้เทคนนิคอะไร ผ่าตัดตรงไหน (กรีดใต้ราวนม รอบหัวนม หรือใต้รักแร้) ใส่สายเดนระบายเลือดหรือไม่ เย็บแผลด้วยไหมละลายหรือไหมธรรมดา มีวิสัญญี ควบคุมการนอนหลับหรือแค่ใช้ยาชา ยาสลบ เป็นต้น
3. ดูรีวิวผลงานของแพทย์เสริมหน้าอกที่เป็นผลงานของหมอเองโดยตรง ตามสื่อต่างๆ เช่น เว็บไซต์ เฟสบุค หรือขอรีวิวจากทางคลินิก เวลาดูรีวิวให้ดูรีวิวที่เป็นผลงานของหมอแต่ละท่านโดยตรง "ไม่ใช่เป็นผลงานที่ทางคลินิกรวบรวมไว้ แต่ไม่ทราบว่าหมอท่านใดเป็นคนทำ" เพราะบางคลินิกจะมีหมออยู่หลายท่าน ซึ่งแต่ละท่านผลงานจะไม่เหมือนกัน บางครั้งผลงานที่เราเห็นแล้วถูกใจอาจจะเกิดจากการทำของแพทย์ที่ไม่ได้ทำงานที่คลินิกนั้นแล้วก็ได้
4. หาข้อมูลผลตอบรับของลูกค้าเสริมหน้าอกของหมอท่านนั้นๆในอินเตอร์เน็ต เป็นการตรวจสอบเบื้องต้นที่ง่ายมากว่าแพทย์ที่เราสนใจจะเสริมหน้าอกด้วยนั้น เคยมีเคสหลุดมากน้อยแค่ไหน และมีคนพูดถึงมากเพียงใด พูดถึงในทางบวกหรือทางลบ หรือลองสอบถามคนที่เคยทำกับหมอท่านนั้นๆมาก่อน วิธีถามให้ถามถึงขึ้นตอนการผ่าตัด การดูแล ผลข้างเคียง เป็นต้น
5. ต้องได้คุยและปรึกษากับหมอโดยตรงก่อนตัดสินใจชำระเงิน ***ข้อนี้สำคัญมาก*** ต้องได้ปรึกษาพูดคุยกับแพทย์โดยตรงก่อนที่จะตัดสินใจเสริมหน้าอก ไม่ใช่แค่คุยกับเซลหรือพนักงานขาย คุยกับเพื่อน คนรอบข้างแนะนำเท่านั้น ต้องได้เห็นหน้าหมอตัวเป็นๆ สอบถาม ปรึกษาให้ชัดเจน อย่าลืมว่า เสริมหน้าอก คุณคนเดียวเท่านั้นที่ ทั้งเจ็บตัวและเสียตัง (เสียเยอะด้วย) คุณจะแค่ฟังใครก็ไม่รู้มาบอกแค่ว่าหมอคนนั้นดี หมอคนนี้ทำสวย แล้วก็เชื่อเสียตังทำเลยเหรอ คุณต้องเป็นคนตัดสินใจเองจากข้อมูลที่ชัดเจนที่สุด นั้นคือคำอธิบายจากปากแพทย์ที่ทำเท่านั้น
6. ต้องมั่นใจว่าซิลิโคนที่ใส่เข้าไปในร่างกายเป็นของแท้ตามที่เราเลือก ***เป็นอีกข้อที่สำคัญมาก*** เราต้องสอบถามถึงความมั่นใจในการผ่าตัดด้วย เพราะตอนที่เราผ่าตัดเสริมหน้าอก เราอาจจะต้องสลบหรือไม่ก็สะลึมสะลือ เบลอๆ ดังนั้นต้องมีหลักฐานค้ำประกันให้เรามั่นใจได้ว่าเราจะได้ซิลิโคนของแท้ใส่เข้าไปนมของเรา ต้องได้เห็นของแกะกล่องใหม่ๆก่อนทำ แนะนำให้ถ่าย Serial Number ทั้ง 2 กล่องไว้ก่อนเข้าผ่าตัด ต้องได้ใบรับประกัน ต้องได้กล่องซิลิโคนกลับบ้านและต้องได้ 2 กล่อง Serial Number เดิมที่ถ่ายรูปไว้ ไม่ใช่ตื่นขึ้นมาไม่รู้เลยว่าที่อยู่ในนมเราใช้ซิลิโคนของแท้หรือยี่ห้อตามที่เลือกไว้ไหม ไม่มีอะไรให้เราเลยสักอย่าง
7. สถานที่ผ่าตัดเสริมหน้าอกต้องได้มาตรฐานเชื่อถือได้ สอบถามสถานที่ผ่าตัดว่าทำที่ไหน เสริมหน้าอกที่คลินิกเลยหรือที่โรงพยาบาล (ถ้าที่โรงพยาบาลจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มตามมาอีกเยอะ) ถ้าเป็นการทำที่คลินิกเลยเราต้องให้แน่ใจได้เห็นคลินิกก่อน สะอาดไหม เป็นระเบียบเรียบร้อยหรือเปล่า เดินทางสะดวกไหม ผ่าตัดเสร็จสามารถนอนพักได้ไหม มีห้องรับรองหรือเปล่า หรือทำเสร็จต้องรีบกลับบ้านทันทีเพราะต้องทำลูกค้าคิวต่อไป แพทย์ พยาบาล พนักงานพร้อมแค่ไหน
8. บริการหลังการขายดูแลติดต่อง่าย แจ้งอาการ ประสานงานได้เร็ว การทำศัลยกรรมทำนม เสริมหน้าอก ไม่ใช่ว่าเสริมนมเสร็จแล้วจะจบทันที่ เราทำศัลยกรรมนะไม่ใช่ซื้อสินค้าที่ขายแล้วเสร็จสิ้นกระบวนการ ต้องมีการคอยดูอาการหลักการทำไปแล้ว นัดถอดสายเดน นัดปรึกษาดูผลงาน นัดตัดไหม หรือแจ้งอาการต่างๆ ดังนั้นคนที่ต้องคอยประสานงานต้องพร้อมทุกครั้งที่ลูกค้าติดต่อเข้ามา ไม่ใช่ขายเสร็จแล้วหายติดต่อยาก พร้อมให้คำปรึกษาพูดคุยเป็นกำลังใจได้ด้วย ไม่ทิ้งกัน
......เลือกคนให้คำปรึกษาและประสานงาน ก็สำคัญไม่ต่างกับการเลือกแพทย์และคลินิก......
เสริมหน้าอกหมอทำดีแค่ไหน แต่พอทำเสร็จเจ็บปวดมีปัญหาขึ้นมาติดต่อคนที่ประสานงานยาก หรือให้ข้อมูลไม่ดี แนะนำไม่ได้ ติดต่อแพทย์ได้ลำบาก ลูกค้าต้องมาปวดหัวเรื่องประสานงานกับทางคลินิกเองก็คงไม่ดีแน่จริงไหม อย่าลืมว่าคุณผ่าตัดศัลยกรรมนะ ไม่ใช่ซื้อสินค้า ที่จะเลือกใครก็ได้ซื้อแล้วก็จบกัน
โฆษณา