18 ก.พ. 2021 เวลา 02:32 • หนังสือ
เรื่อง การหมั้น 💍
ในตอนแรกเริ่มของการที่ชายหญิงจะทำการสมรสกันตามขนบธรรมเนียม ประเพณีของสังคมไทยนั้น จะต้องมีการหมั้นกัน ระหว่างฝ่ายชาย และฝ่ายหญิงก่อนที่จะทำการสมรส เพื่อที่จะแสดงให้เห็นว่าได้มีการจับจอง และนัดหมายกันว่า ต่อมาจะได้มีการแต่งงานกันระหว่างชาย และหญิงนั้นต่อไป
 
โดยประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ได้กำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการ ของการหมั้นไว้ดังนี้
๑. ชาย และหญิงที่จะทำการหมั้นกัน ต้องมีอายุไม่น้อยกว่า ๑๗ ปี
บริบูรณ์
๒. หรือหากชาย และหญิงที่หมั้นกันมีอายุไม่ถึง ๒๐ ปี (ผู้เยาว์) จะต้องได้รับความยินยอมจากบิดามารดา หรือผู้ปกครอง “ส่วนบุตรบุญธรรม” ที่ทำการหมั้นจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้รับบุตรบุญธรรมด้วยเช่นกัน
๓. การหมั้นต้องมี ของหมั้น ตามกฎหมาย ไม่ว่าของหมั้นดังกล่าวจะเป็นสิ่งของที่มีราคา หรือไม่มีราคาก็ได้ เช่น แหวน เงินสด ทองคำ หรือแม้แต่กระทั่งพานใส่หมากพลูก็ตาม ล้วน แล้วแต่ถือว่าเป็นของหมั้นทั้งสิ้น “หากฝ่ายหญิงและฝ่ายชายมีเจตนา ที่จะใช้เป็นของหมั้น”
📃 การหมั้นเป็นสัญญาชนิดหนึ่งที่ตกลงว่าทั้งสอง ฝ่าย ตกลงที่จะทำการสมรสกันตามกฎหมาย (มีเจตนาที่จะสมรสกัน ซึ่งหมายถึงการจดทะเบียนสมรส)
** ถ้าหากว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดผิดสัญญาไม่ยอมทำการสมรส (จดทะเบียนสมรส) หรือมีเหตุที่ทำให้ไม่อาจจะสมรสกันได้ “จะต้องชดใช้ค่าเสียหายให้กับอีกฝ่าย”
เมื่อทำการหมั้นกันโดยชอบแล้ว ของหมั้นจะตกเป็นของฝ่ายหญิงทันที ถึงแม้จะไม่ได้ทำการสมรสกัน โดยมิได้เป็นความผิดของฝ่ายใด เช่น ฝ่ายชายถึงแก่ความตาย ฝ่ายหญิงก็ไม่ต้องคืนของหมั้นให้แก่ความชาย
บุคคลใด ที่ไม่สามารถหมั้นได้ตามกฎหมาย ?
 
คือ บุคคลที่กฎหมายกำหนดว่าไม่สามารถจะทำการ
หมั้นได้ เพราะถ้าหากหมั้นกันแล้วจะถือว่าการหมั้นเป็นโมฆะ และไม่มีผลทางกฎหมาย คือ
๑. คู่หมั้นชาย และหญิงที่อายุยังไม่เกิน ๑๗ ปีบริบูรณ์
๒. คู่หมั้นชาย หรือหญิงที่เป็นคนวิกลจริต
๓. คู่หมั้นชาย และหญิงที่เป็นญาติสืบสายโลหิตกันมาโดยตรง ว่าจะเป็นบิดามารดา กับบุตร หรือปู่ย่าตายายกับหลาน เป็นต้น!
๔. คู่หมั้นชาย และหญิงที่เป็นพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน หรือเป็นพี่น้องร่วมบิดา หรือมารดาเดียวกัน
เมื่อฝ่ายหนึ่งผิดสัญญาหมั้นโดยไม่สามารถที่จะสมรสกับอีกฝ่าย ได้แล้ว “อีกฝ่ายหนึ่งสามารถที่จะเรียกร้องค่าเสียหายเอาจากอีกฝ่ายที่ผิดได้” โดยมีดังต่อไปนี้ คือ
๑. ค่าทดแทนความเสียหายต่อชื่อเสียง และร่างกายของฝ่ายหญิง ในกรณีที่มีการร่วมประเวณีกันแล้วหรือความอับอายของคู่หมั้นอีกฝ่ายจากการไม่ได้สมรสกัน
๒. ค่าทดแทนความเสียหายจากการเตรียมงานแต่งงาน หรืองานหมั้นที่ได้จ่ายไปซึ่งต่อมาไม่ได้สมรสกัน ไม่ว่าจะเป็น ค่ามัดจำ หรือค่าจัดงานเลี้ยงงานแต่งงาน หรืองานหมั้น ค่าชุดแต่งงาน ตลอดจนค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตามสมควรที่ได้จ่ายไปจริง สามารถจะเรียกจากฝ่ายผิดสัญญาได้
๓. ค่าทดแทนความเสียหายเกี่ยวกับอาชีพ หรือหน้าที่การงาน ของคู่หมั้นตามสมควร ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายจากการที่คู่หมั้น อีกฝ่าย ลาออกจากงานเนื่องจากหวังว่าจะทำการสมรส ต่อมาไม่ได้ สมรสกันก็สามารถเรียกจากฝ่ายที่ผิดสัญญาได้
๔. หากหญิงเป็นฝ่ายผิดสัญญาหมั้นจะต้องคืนของหมั้นให้ แก่ฝ่ายชาย !
๕. ฝ่ายชายสามารถที่จะเรียกค่าทดแทนจากชายที่ได้ร่วมประเวณีกับคู่หมั้นของตนเอง “โดยทราบว่าหญิงนั้นมีคู่หมั้นแล้ว”
ถ้าหากคู่หมั้นฝ่ายหนึ่งถึงแก่ความตาย หรือคู่หมั้นทั้งสองฝ่าย ตกลงถอนหมั้นกันเองแล้ว ย่อมจะไม่สามารถที่จะเรียกค่าเสียหายในระหว่างกันได้
“เพราะมิได้เป็นความผิดของฝ่ายใด”
สวัสดี เดือนกุมภาพันธุ์ ครับ 🌸
โฆษณา