18 ก.พ. 2021 เวลา 08:34 • ท่องเที่ยว
ความทรงจำดีๆที่มุยเน่ เวียดนาม
มุยเน่ เวียดนาม
😉😉สวัสดีครับ ห่างหายไปนานเลยนะครับติดภาระกิจ ยุคโควิด-19 ก็ออกจะวุ่นๆมากมาย เพื่อนหลายๆคนก็คงเจอเหมือนกันเนอะ😂😂😂 เอาน่าทำไงได้ล่ะนะ โลกเปลี่ยนไป ใจเราก็เปลี่ยนตามใช่มั้ยครับ (ขอใช้ภาษาไม่เป็นทางการนะครับ 555)
✈เริ่มเดินทางไปกับผมนะครับถ้าเพื่อนๆชอบ...สถานที่อาจดู Basic ง่ายๆแต่มันทำให้ผม
ประทับใจกับการท่องเที่ยว พักผ่อนช่วงวันลาพักร้อนสั้นๆ ย้อนไปนะหลายปีมาแล้ว ตอนนี้
เกษียณซะแล้วไปไหนไม่ได้ ชีวิตติดเบรคด้วยโควิด 555 ...มุยเน่ครับ...เวียดนาม...เมืองแห่ง
ทะเลทราย
🚌มุยเน่ เมืองแห่งทะเลทราย ก่อนเดินทางค่อนข้างตื่นเต้นนะครับ เฮ้ย!เวียดนามมีทะเลทรายด้วย
โหว!เท่ห์อ่ะ เวียดนามก็ไม่ไหลกับบ้านเราเท่าไรเลยตื่นเต้นกันเป็นธรรมดา...อิอิ พวกเราใช้
เวลาเดินทางจากเมืองไทยตรงสู่เวียดนามก็ชั่วโมงเศษๆ เราไปลงที่โฮจิมินห์ก่อน ไปเตร็ดเตร่กันก่อนชิลชิล นั่งกินอาหาร นั่งจิบกาแฟในร้านจัดสไตล์น่ารักกันพักใหญ่ก่อนเดินทางต่อ...
โฮจิมินห์ดูทันสมัยอยู่ครับ ไปหลายครั้งครับชอบ ช๊อปปิ้ง เสื้อผ้าราคาถูกๆ ของกินติดไม้
ติดมือบ้าน 555 เพื่อนๆที่เคยไปแล้วคงทราบกันดีเนอะ แล้วแต่ชอบนะครับ ช่วงบ่ายๆพวกเราก็เริ่มออกเดินทางโดยรถทัวร์ประจำทางของเวียดนาม...เฉื่อยชาทัวร์ 555 .....ล้อเล่นนะครับ
เหตุผลง่ายๆที่บางคนอาจไม่รู้นะครับ ทำไมการเดินทางระหว่างเมืองยาวนาน ทั้งๆที่ดูว่าไม่
ไกลมากมายเลย...เวียดนามมีกฎหมายที่เข็มแข็งมากในเรื่องการใช้รถ การขับเร็วเกินกำหนดสามารถโดนกฎหมายที่ค่อนข้างรุ่นแรง ซึ่งแตกต่างกับบ้านเราสิ้นเชิง คนเวียดนามเขาจะ
กลัวกันมาก เช่นขับบนมอเตอร์เวย์ไม่เกิน 80 กม/ชม ประมาณนี้จำไม่ค่อยได้
🚎พวกเรามาถึงมุยเน่ก็มืดพอดีครับ รถวิ่งลัดเลอะตามชายฝั่งทะเลมาเรื่อยๆ มองแล้วรู้สึก
สดชื่น เหมาะกับการมาพักผ่อนจริงๆ ชาวต่างชาติลงตามจุดต่างๆ มากันแบบสบายๆเหมือนมาเกาะช้าง บางแสน พัทยาประมาณนั้น ดูง่ายๆเรียบๆ ไม่อลังการเหมือน ฮาลองเบย์ แต่ก็โอเครครับชอบๆ
โรงแรม Canary มุยเน่
🚎ถึงจุดหมายพวกเราก็ลงปลายทางสุดท้ายของรถทัวร์ประจำทาง เข้าเช็คอิน ค่อนข้างเงียบเรียบง่าย คนไม่ค่อยเยอะ นอกจากชาวต่างชาติ (ช่วงนั้นโควิด-19 ยังไม่เกิดนะครับ) เราแยกห้องกันไปห้องใครห้องมัน พักกันสักครู่นัดรวมพล หาอาหารเย็นกินกัน...
เราเรียกแท็กซี่🚕 ตะลุยหาร้านที่น่าสนใจ เพราะไม่เคยมีใครมากันก่อนหน้านี้เลย เอาว๊ะร้านไหนคนเยอะ น่าจะอร่อยก็เดาๆกันเอานะ เหมือนหาของกินบ้านเราแหละ 555 ไปถึงร้านมีฝนตกนิดหน่อย แต่ร้านนี้ส่วนใหญ่คนเวียดนามทั้งผู้ใหญ่และวัยรุ่นกลุ่มใหญ่ๆเขามานั่งกินกันจากการสังเกตุเอานะ พวกเราก็เริ่มปฎิบัติการสั่งอาหาร
 
...ผัดหอยลาย...ขอบอกตัวใหญ่มากๆเนื้อแน่นๆ ส่วนใหญ่เราก็สั่งอาหารทะเลกันแหละแหมก็ติดทะเลซะขนาดนั้น จะกินอย่างอื่นได้ไง แต่ก็พอสังเขปนะ เพราะเรายังอยู่อีก 2 วัน เด็วกินซ้ำ 555 ปลาทอด ปลาหมึก กุ้ง ปูไม่กินไม่มีคนแกะ 555 ขาดไม่ได้ไข่เจียวหอยนางรม อิ่มมากๆ ฝนตกเดินต่อไม่ได้เรียกรถกลับโรงแรม ซื้อเบียร์ไปนั่ง Drink กันต่อเม้าท์มอยกันไปตามเรื่องตามราว เมาแล้วเข้านอน...
วันรุ่งขึ้นพวกเราตื่นกันแต่เช้าครับ น้ำไม่มีใครอาบเดี๋ยวไม่ทันชมพระอาทิตย์ขึ้น ผมเป็นคนนึงล่ะที่ไม่ศึกษาสถานที่ที่จะไปเที่ยว เพราะมันจะไม่น่าตื่นเต้น มันไม่สนุกว่างั้น เอาเป็นว่าพวกเราลงมาจากห้องพัก ซึ่งรถจี๊บมารออยู่ด้านหน้าแล้ว พวกเราขึ้นรถไปกันอย่างรวดเร็ว
ด้วยความรีบเร่งของโชเฟอร์ที่พาเราเดินทาง มีการใช้ภาษาอังกฤษกันนิดหน่อย จริงๆเขาต้องการพาไปอีกสถานที่หนึ่ง แต่เขาบอกน่าจะไม่ทัน จึงแวะสถานที่ที่ใกล้กว่าเพื่อชมพระ
อาทิตย์ขึ้น
ขอเล่านิดนึงนะครับ โชเฟอร์บอกว่าที่มุยเน่จะมีทะเลทรายสีแดง และทะเลทราย
สีขาว เขาบอกว่าทะเลทรายสีขาวน่าจะสวยกว่า แต่ไปไม่ทันเลยต้องแวะทะเลทรายสีแดงแทน
พวกเราก็ตัดสินใจตรงไหนก็ได้ยังไงทะเลทรายก็แปลกสำหรับเราแล้ว 555 ขอชมหน่อย
เป็นบุญตา
ทะเลทรายสีแดง
ทะเลทรายสีขาว
เป็นอันว่าเราได้ไปทั้ง 2 ที่ล่ะครับ ทั้งแดงและขาว กว่าเราจะขึ้นไปเราต้องขึ้นรถเอทีวีกัน
ไปต่อคิวเยอะเชียวล่ะ 2คนต่อคัน นั่งสะท้านสะเทือนสนุกสนานกันครับ สำหรับเรา 555 (ใครอยากไปต้องขึ้นมันส์ดี) พวกเราอยู่แค่ช่วงเช้า พวกเรากลับเดินทางกันต่อ ก็เมาท์กันไปคิดว่ามันเป็นทะเลทรายกว้างใหญ่ แต่จริงๆมันคือทรายที่สูงขึ้นเป็นเนินสูงซึ่งก็กว้างใหญ่พอตัว สำหรับด้านข้างๆก็มีต้นไม้ขึ้นเขียวขจี จะถ่ายรูปก็ต้องใช้มุมกล้องช่วยกันหน่อยจะได้ดูเป็นทะเลทรายอย่างที่เราคิด 555 แต่สนุกครับน่าเที่ยวมันส์ดี...
ช่วงขากลับพวกเราแวะชายหาดมีของทะเลขาย พ่อค้าแม่ค้าชาวเวียดนามนั่งกันบ้างเดินขายกันบ้างดูแล้วเหมือนตลาดสดริมทะเล เพื่อนชอบมากต้องแวะชัวร์ ซึ่งก็ไม่ไกลจากฝั่ง
ทะเลทรายเท่าไร หน้าตา หัวหู น้ำไม่ได้อาบฟันไม่ได้แปรง 555 เอาน่าสนุกๆ ขำๆไม่มีใครรู้
หรอก
พอไปถึงจุดหมายพวกเราก็เดินครับ ดูเขาขายอะไรกัน เป็นของทะเล กุ้ง หอย ปู ปลา กุ้งล๊อบสเตอร์ ที่สำคัญแม่ค้า จะนำมาให้เราเลือกซื้อกันแบบเป็นๆ แม่ค้ามีด้ำราคากันจะๆ 555 ถ้าเป็นบ้านเราคงตบกันด้วยกาละมังแล้ว โดนใจเราเลยไม่ต้องต่อเขาแย่งกันขายเอง
.....กุ้งล๊อบสเตอร์สุดแล้วแต่เราจะเลือกขนาดที่เราต้องการ มี 1 กาละมัง 5 - 6 ตัว เล็กใหญ่ พวกเราไป 4 คนเลือกไซด์ 5 ตัว ตัวใหญ่ๆ ตกตัวละ 152 บาท เงินไทยนะ เงินดองจำไม่ได้ว่า
เท่าไร กี่แสนดองไม่แน่ใจ 4 แสนกว่าดองมั้ง พวกเราพกกันไปคนละหลายล้าน กินอะไรก็ได้น่า 555 รวยกันทริปนั้น จำกันแบบง่ายๆ มีไปคนละ 5,000 บาท กินอยู่สบายๆ ลืมบอก
พวกเราไปกันเองนะไม่ได้ไปทัวร์ ก็มีพบลูกทัวร์ไทยที่ไปแวะที่นั่น แต่เขาทำแบบเราไม่ได้ไป
ทัวร์เวลาจำกัด ไปเองฟรีสไตล์ครับ...เขาย่างให้เลยเรานั่งรอเลยคิวเยอะ เขาใช้เนยทาที่กุ้ง
ด้วย ถ้าไม่ชอบควรบอกเขานะ เราพลาดไม่ได้บอกเพราะเราไม่รู้ โ-ค-ต-ร-ะ เอียน 55
ไม่มีใครกินหัวมันเลยเสียดายอิ้ววว... เรานำกลับมากินกันที่โรงแรมพร้อมอาหารเช้าครับ
ชิล ชิล หรูๆดูแพง
อิ่มหนำสำราญ อาบน้ำซิครับจะรออะไร ออกไปเดินเล่นกันต่อ ก็เดินกันไปเรื่อยๆ ดูนั่นชมนี่ไป แวะทานอาหารกลางวันกัน ส่วนใหญ่ก็เป็นเฝ๋อ ไก่ทอด เสน่ห์อย่างนึงที่ดูจะสบายใจกับการเดินเล่น คนพื้นเมืองจะรู้จักคนไทยดี บางคนพูดไทยได้บ้าง บางคนเคยมาทำงานที่เมืองไทย
มีร้านกาแฟอยู่ร้านหนึ่ง เราเห็นแต่สวยดูวัยรุ่นหน่อย มีขายกาแฟ เบเกอรี่ มีวัยรุ่นเข้าไปนั่งกันแต่เป็นคนเวียดนามนะ แต่งตัวทันสมัยวัยรุ่นไม่แตกต่างจากเด็กๆบ้านเราหรอก เราก็สั่งกาแฟตามชอบ เด็กเจ้าของร้านเดินมารับออเดอร์เห็นเราพูดไทยกัน เลยแนะนำเป็นภาษา
ไทย เข้าทางคุยกันยาวเลย พูดไทยคล่องปรืด เขาเคยมาทำงานอยู่ท่าเรือที่ระยองหลายปีเลยพูดไทยได้ หาเงินได้ก็มาเปิดร้านที่บ้านเขา ไม่น่าล่ะดูเป็นแนวทันสมัยมากๆเลย เม้าท์กันพักนึงแล้วเราก็ออกมาเขายกมือไหว้แบบไทยเลย 555...
กลางวันค่อนข้างร้อนไม่อยากเดินไปไหนแล้วกลับเข้าโรงแรมกัน ลงเล่นน้ำกันครับ ต่างคนต่างขึ้นไปเปลี่ยนกางเกงว่ายน้ำลงสระกัน เอาเป็นแบบใช้ชีวิตดูหรูหรา อย่าไปพูดถึงราคาล่ะ มันถูก บ้่านเราเที่ยวแบบนี้แพงกว่าเยอะ...
ที่โรงแรมมีเคาน์เตอร์บาร์ขายอาหาร ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ทุกแบบ สบายเราครับ ปลักหลักกันจนเย็นครับ ร้อนก็ลงน้ำ หิวก็สั่งอาหารกินกันริมสระนั่นแหละ ชิลมั้ยล่ะครับ สนุกครับ...
ตกเย็นหน่อยเปลี่ยนบรรยากาศขึ้นจากสระ ออกไปเดินต่อชายทะเล แต่ทะเลไม่สวยเหมือนบ้านเรานะ ออกดำๆ แต่ก็สบายๆกันครับไม่ซีเรียส
การพักผ่อนทริปนี้อาจจะสั้นๆ ซึ่งมันก็เหมาะสมกับเวลาพักร้อนที่เรามีอยู่ เบาๆไม่รีบร้อน แต่ทริปก็ยังไม่ได้สุดแค่นี้นะครับ...กลางคืนเราก็ไปหาข้าวทานกันต่อ...
มื้อนี้ขอเน้นอาหารทะเลเบาๆ ตามด้วยผัดผักบุ้งไฟแดงสไตล์เวียดนาม ร้านนี้คนเยอะมากสั่งนาน เอาแค่นี้แหละนะ 555 ข้างๆมีขายไอศครีมผัด ยืนรอนานมากแต่ก็อร่อยดีแฮะ...จบมื้อนี้กลับโรงแรม ตบแอลกอฮอล์ก่อนนอน...
เราเดินทางกลับโอจิมินท์อีกครั้ง ถึงก็ประมาณเย็นๆซักบ่าย 3 โมง มีเวลาอีกเยอะ เดิน
เล่นไปเรื่อยๆ แวะนั่นโน่นนี่ กลับสถานที่ใหม่ๆ
สถานที่วัยรุ่นมาพบปะสังสรรค์ ตึกหลายชั้นแบบเป็นห้อง ร้านกาแฟ ร้านเบเกอรี่ อื่นๆ
สถานที่วัยรุ่นมาพบปะสังสรรค์
หลังจากอิ่มเต็มที่ เรากลับช๊อปปิ้งกันต่อ เสื้อยืด กระเป๋า รองเท้า เอาที่ชอบ ละลายเงิน
ดองซะ เหลือกันนิดหน่อย แวะร้านประจำ 555
พิซซ่าหน้าร้านนี้อร่อยนะ ชิมหลายหนแล้ว มีหลายหน้าให้ลิ้มลอง
คืนนี้เราพักที่โอจิมินท์กัน 1 คืนก่อนเดินทางกลับเมืองไทย สนุกครับ ถ้าเราเลือกใช้ช่วง
เวลาได้เหมาะสม เลือกที่ชอบรักที่ใช่ เราก็สนุกได้แบบไม่ฟุ่มเฟือยจนเกินไป เมืองไทยพวกเราก็เที่ยวนะครับ ไม่ใช่จะใช้ชีวิตช่วงวันพักผ่อนต่างประเทศอย่างเดียว จบทริปเดินทางมุยเน่
เมืองแห่งทะเลทราย ว่างๆผมจะมาเล่าใหม่นะครับ ติดตามกันครับว่าผมไปที่ไหนต่ออีกเมื่อถึงช่วงเวลาพักร้อน หรือหยุดยาวๆ...
โฆษณา