19 ก.พ. 2021 เวลา 04:51 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ได้ฟังคุณนภนาง เศรษฐกรอาวุโสจากธนาคารแห่งประเทศไทยหรือแบงค์ชาติออกมาให้สัมภาษณ์เรื่อง คนไทยหนี้ทั่วหัวแล้วรู้สึกอยากจะมาเหลาให้แฟนเพจฟังมากครับ เพราะถ้าใครทำธุรกิจหรือทำงานเรื่องนี้จะเกี่ยวพันกับตัวเราไม่มากก็น้อย ยังไงคนไทยทุกคนก็ต้องได้รับผลกระทบเต็มๆ ไม่ว่าจะกระทบทางตรงทางอ้อมเรื่องสังคม
2
ขนลุก น่าตกใจมาก น่ากลัวมาก — -เป็นคำกล่าวของผู้บริหารแบงค์ชาติในเรื่องกำหนดนโยบายเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในไทย (policy maker) ใน podcast ตลอดทั้งคลิปกล่าวแต่คำว่าหนักมาก น่ากลัวมาก ขนลุก
ถ้าไม่ฟังผู้กำหนดนโยบายแล้วผมก็ไม่รู้จะไปฟังหรือเชื่อใครได้แล้วครับ เพราะเค้ามีข้อมูลในมือหมด ซึ่งปกติแบงค์ชาติจะไม่มาล้วงลูกหรือล้วงลึกแบบนี้ถ้าสังเกตมาตลอดสิบๆปี แบงค์ชาติจะนั่งคุมอยู่บนภูผาที่สูงชันมองลงมาเฉยๆ แต่นี่ลงมาเองแสดงว่าปัญหาหนี้ของคนไทยมันหนักหนาสาหัสขนาดไหน
2
รู้หรือไม่ครับ ตามสถิติปี 2562 ของศาลยุติธรรม มีคดีที่เข้าสู่กระบวนพิจารณาของศาลทั้งสิ้น 1.8 ล้านคดี เป็นคดีแพ่งและคดีผู้บริโภครวมกันอยู่ที่ประมาณ 1.2 ล้านคดี คดีประเภทสินเชื่อส่วนบุคคล (Personal Loan) บัตรเครดิต และกู้ยืมมีจำนวนมากถึง 600,665 ข้อหา ฉะนั้นหากพิจารณาถึงความเป็นไปได้เกี่ยวกับจำนวนคดีที่เกิดขึ้นในช่วงปีนี้ ตัวเลขของข้อพิพาททางการเงินที่เกิดขึ้นจะเป็นเสมือนคลื่นสึนามิที่รอวันซัดเข้าหาฝั่งอย่างแน่นอนและหนักหน่วงในปี 2564 ขณะที่มีศาลชั้นต้นรองรับคดีอยู่ทั่วประเทศ 262 แห่ง เป็นศาลชั้นต้น (ศาลแขวง ศาลแพ่ง และศาลจังหวัด) ที่มีอำนาจเหนือคดีทางเศรษฐกิจเหล่านี้เพียง 150 กว่าแห่งเท่านั้น
2
ยังไม่นับรวม ‘หนี้ก้อนโต’ ที่กำลังรอวันปะทุของกลุ่มครู กยศ. และสหกรณ์ทั่วประเทศ จากข้อมูลบริษัทข้อมูลเครดิตพบว่าในระบบการเงินมีบัญชีที่อยู่ในวังวนของหนี้ ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อธุรกิจ เกษตร และอื่นๆ มากถึง 78 ล้านบัญชี มูลค่ากว่า 12 ล้านล้านบาท และเมื่อรวมหนี้สหกรณ์และหนี้ กยศ. จะมีมูลค่ารวมอยู่ที่ประมาณ 15 ล้านล้านบาท สะท้อนภาพความจริงของหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ของไทยที่เพิ่มขึ้นกว่า 25% ภายใน 10 ปี
3
จะเห็นได้ว่าหนี้ทั้งหมดของคนไทยเพิ่มขึ้นมากๆๆๆๆๆๆ เน้นว่ามาก ซึ่งที่จริงมันขึ้นมามากตั้งแต่ก่อนโควิด และโควิดกระทืบซ้ำให้ธุรกิจไทยแย่และล้มทั้งเป็น หนี้เลยทะยานมากขึ้นไปอีก
2
เมืองไทยเป็นเมืองท่องเที่ยว เราเคยชินว่าเศรษฐกิจดีมาตลอดมีการท่องเที่ยวมาช่วย แต่ตอนนี้โควิดทำให้การท่องเที่ยวพัง เหมือนเช่นทุกวันนี้
มีอีกเรื่องที่สำคัญมากในเรื่องหนี้ที่ต้องบอกกันคือ สัดส่วนหนี้สินในประเทศไทยที่มากที่สุดอันดับสามคือ หนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล คิดเป็น 34% ของหนี้ทั้งหมด
4
ตรงนี้แบงค์ชาติออกไปวิจัยมาหมดแล้วครับ ว่าสัดส่วนหนี้บัตรเครดิตเรามากกว่าหลายๆประเทศเช่นสิงคโปร์มีแค่ 3% อังกฤษมีไม่ถึง 10% ซึ่งหนี้บัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคลมันเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ดอกเบี้ยสุดแสนจะแพงมาก แต่เพราะธนาคารทุกธนาคารอยากได้กำไรจากบัตรเครดิตจึงต้องออกโปรให้คนใช้จ่ายกันเยอะ บางรายไปรอหน้ามหาลัย รอเด็กจบใหม่มาสมัคร และวาดภาพทำโฆษณาของมันต้องมียั่วกิเลสให้คนรูดบัตรคนไม่มีสติ ถึงเวลาก็โดนยึดทรัพย์
2
แบงค์ชาติรู้หมดครับ ว่ารากของปัญหาคืออะไรซึ่งส่วนใหญ่หลักๆก็มาจากโครงสร้างที่ไม่เป็นธรรม แบงค์ชาติออกมาบอกเองว่าบางอย่างเช่นดอกเบี้ยของธนาคารคิดแบบไม่เป็นธรรมเกินไป ทุกธนาคารเวลาพักชำระหนี้และมีเงินมาโปะ จะตัดแค่ดอกเบี้ย ไม่เคยตัดเงินต้นเลย โปะแค่ไหนก็ตัดแค่ดอก เงินต้นไม่ลด
2
ผู้บริหารแบงค์ชาติบอกว่า ไม่น่าแปลกใจช่วงโควิดทุกอุตสาหกรรมขาดทุนแต่ธนาคารมีกำไร กำไรดีมหาศาลด้วย
2
เรื่องหนี้ของคนไทยยังมีส่วนสำคัญอีกอย่างๆอย่าง เชนโครงสร้างทางการเงินที่ไม่เป็นธรรม คนรากหญ้าไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้หรือกู้ดอกเบี้ยถูกแบบคนรวยๆได้ เป็นต้น อันนี้แบงค์ชาติบอกว่าจะค่อยๆแก้ปัญหาโครงสร้างกันต่อไปในระยะยาว
1
ผมนั่งฟัง podcast นี้แล้วรู้สึกดีที่แบงค์ชาติเห็นปัญหา เรียกทุกธนาคารมาคุยว่า ถ้าคุณยังคิดดอกเบี้ยหรือทำธุรกิจแบบนี้ ไม่ช่่วยเหลือกัน ลูกหนี้ไม่ไหว ธนาคารก็พังกันหมดนะ ลดกำไรลงกันมาบ้าง เพิ่มความเห็นอกเห็นใจกันมากขึ้น ซึ่งหลายๆธนาคารก็เข้าใจลงมาร่วมมือกับแบงค์ชาติ แต่ก็มีอีกไม่น้อยที่ไม่ลงมาร่วมมือ
3
วิกฤตครั้งนี้ หนี้ทั้งหมดในตอนนี้มันจะส่งผลกระทบในวงกว้างในอนาคต มันจะลุกลามไปถึง วิกฤตสังคม ยกตัวอย่างเช่น หนี้ระเบิดขึ้นมาหลายๆธุรกิจก็ต้องล้มหายตายจาก พนักงานลูกน้องก็ต้องโดนเลิกจ้าง หลายๆคนทนไม่ไหวพอล้มหรือถูกเลิกจ้าง บางคนจิตใจรับไม่ไหว ก็เกิดการฆ่าตัวตาย บางคนไม่มีอะไรจะเสียก็ไปขายยาเสพติด บางคนก็ไปปล้นจี้ฆ่าชิงทรัพย์
2
ปัญหานี้แบงค์ชาติศึกษาร่วมกับหลายๆหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วรู้สึกน่ากลัว จึงต้องลงมาเป็นเจ้าภาพในการแก้ปัญหาเองก่อนที่มันจะสายเกินแก้ซึ่งแบงค์ชาติยอมรับว่าแก้ยากมากๆ แต่จะลองทำดูเพื่อคนไทยและสังคมไทย ผมก็ขอชื่นชมแบงค์ชาติมากๆครับ
เห็นไหมครับ ปัญหาหนี้ของคนไทยมันหนักหนาแค่ไหน ทำไมเราถึงต้องระวังตัวกัน ผมมีเสริมเรื่องการแก้ปัญหาคนมีหนี้ในตอนนี้นะครับ เผื่อช่วยใครได้บางไม่มากก็น้อย
2
1. ใครมีหนี้แล้วหาทางออกไม่เจอ อย่าคิดสั้นนะครับ ให้โทรปรึกษา คลินิกแก้หนี้ และ Debtclinicbysam หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 02–610–2266 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30–17.00 น.
โทรหาและเล่าปัญหาให้เค้าฟังให้หมดอย่าปกปิด เค้ายินดีและอยากจะช่วยเหลือทุกคนจริงๆครับ
2. หรือใครไม่อยากโทรหาคลินิกแก้หนี้ ให้เดินเข้าไปเจรจากับธนาคารเจ้าหนี้เลยครับ อย่าเกรงใจ ต่อรองธนาคารเรื่องขำระหนี้ลดต้นลดดอกเบี้ยแบบสุดๆไไปเลย อย่าไปกลัวครับ ชนกับธนาคารเพื่อผลประโยชน์เราเลย
คิดไว้เสมอ ธนาคารก็ไม่อยากฟ้องเราหรอกครับ ต่อรองได้ต่อรองเลย
3. บัตรเครดิตถ้าไม่มีเงินสดหรือศักยภาพพอที่จะใช้ อย่าไปใช้มันเลยครับ มันเล่นกับจิตใจเรา ส่วนใหญ่จิตใจเราจะแพ้มัน ยิ่งมีเฟสให้อวดโชว์แล้วด้วย ยังไงเราก็แพ้เกิน 80% ในการยับยั้งชั่งใจ
3
4. ถ้าไม่จำเป็นอย่าก่อหนี้เลยครับ อันนี้เล่าจากประสบการณ์ส่วนตัว ตอนนี้ไม่มีหนี้ มีโอกาสรอเต็มเลยครับ
สุดท้าย ไม่รู้จะแนะนำดีไหมว่า ไอ้คำว่าของมันต้องมี ของมันต้องโชว์มันไว้ใช้กับคนรวยหรือคนที่พ่อแม่สร้างฐานะไว้ให้ คนชั้นกลางธรรมดา พ่อแม่ไม่รวย แบบเรามันใช้คำนี้ไม่ได้จริงๆครับ หลงไปใช้ติดกับดักหนี้กันหมดทุกคนครับ
มันคือเกมส์ระบบทุนนิยม ใครคุมตัวเองไม่อยู่ก็พ่ายแพ้
โฆษณา