เกาหลีพยายามแก้ไข "ปัญหาเด็กชอบบุลลี่" ด้วยการมีบทลงโทษอย่างหนัก ถ้าใครโดนจับได้ว่าสมัยเรียนเคยกลั่นแกล้งเด็กคนอื่น จะโดนสังคมรุมโจมตีจนไม่มีที่ยืน ที่คือกรณีศึกษาที่ร้อนแรงที่เกิดขึ้นในเกาหลีใต้
สังคมเกาหลี โดยเฉพาะในระดับมัธยม ขึ้นชื่ออย่างมากเรื่องการบุลลี่ คือที่ไทยเราก็เห็นการบุลลี่เยอะอยู่ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นคำพูด หรือไม่ก็การกีดกันคนที่ไม่ชอบหน้าให้ออกจากกลุ่ม ซึ่งเกาหลีเรื่องแบบนี้ก็มี แต่เพิ่มดีกรีด้วยการทำร้ายร่างกายไปด้วย
ถ้าเราไปดูในสื่อเกาหลี จะเห็นว่ามักจะถ่ายทอดมุมของการบุลลี่ทั้งนั้น ใน webtoon มีเป็นสิบๆเรื่องที่พระเอกโดนแกล้งตอนเด็ก หรือในซีรีส์ทีวี เราก็เห็นจากอีแตวอนคลาส ตั้งแต่ ep.1 เลย ที่ลูกชายของประธานชาง กลั่นแกล้งเพื่อนในโรงเรียน เพราะคิดว่าตัวเองมีอำนาจมากกว่า
แน่นอน ทางเกาหลีย่อมรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องดีที่เกิดการกลั่นแกล้งในโรงเรียนขึ้น จึงมีการสร้างสรรค์สื่อ (การ์ตูน-หนัง-ซีรีส์) เพื่อชี้นำสังคม ให้รู้ว่าการบุลลี่มันผิด
แต่ถึงจะมีสื่อเยอะแยะก็เถอะ การบุลลี่ก็ยังคงอยู่ ดังนั้นจำเป็นต้องใช้มาตรการทางสังคมเพื่อโจมตี คนที่ทำผิดไม่ให้มีที่ยืนได้
คนที่คิดจะออกสตาร์ตแกล้งใคร ต้องรับรู้ว่า ถ้าอนาคต เรื่องนี้โดน "แฉ" ขึ้นมาเมื่อไหร่ ชีวิตของคุณก็พังได้เลยเหมือนกัน
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เราคงเห็นเรื่องราวของคู่แฝดเกาหลีใต้ อี แจ-ยอง และ อี ดา-ยอง กันไปแล้ว สำหรับคนในวงการวอลเลย์บอลจะรับรู้ว่า สองคนนี้คือผู้เล่นที่มีพรสวรรค์สูงมาก
อี แจ-ยอง เป็นตัวตบ ย้อนกลับไปในเกมคัดโอลิมปิกที่เจอกับไทย ก็เป็นเธอนี่แหละ ที่ทำแต้มได้กระจุยถึง 18 แต้ม ขณะที่ อี ดา-ยอง ก็เป็นตัวเซ็ตอัจฉริยะ
สองฝาแฝด นอกเหนือจากจะเก่งแล้ว ยังหน้าตาน่ารักมากๆ ทำให้เธอกลายเป็นโลโก้สำคัญของวงการวอลเลย์บอลเกาหลีใต้ ถ้าลองเปิดยูทูบ เสิร์ชคำว่า Lee jae yeong dance จะเห็นสองพี่น้อง โชว์เต้นเซ็กซี่ปนน่ารัก กลางคอร์ทวอลเลย์ เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนๆได้ทั้งสนาม
ด้วยความที่หน้าตาดี เก่ง มีคาแรคเตอร์ ทำให้คู่แฝดได้รับความนิยมสูงมาก ออกรายการทีวีเป็นว่าเล่น นอกจากนั้นผู้คนก็คาดหวังว่าพวกเธอจะเป็นกำลังหลัก ช่วยเกาหลีใต้ไปได้ไกลที่สุด ในโอลิมปิกเกมส์ที่โตเกียว
แต่ก็นั่นแหละ สุดท้ายสวรรค์ของฝาแฝดก็ล่มสลายจนได้ เมื่อพวกเธอถูกแฉว่า สมัยมัธยมต้นชอบบุลลี่ กลั่นแกล้งเพื่อนร่วมทีม
เพื่อนสมัย ม.ต้น แฉพฤติกรรมของฝาแฝดทั้งหมด 21 เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นด่าทอ ทำร้ายร่างกาย รีดไถเงิน รวมถึงทำให้คนอื่นรวมหัวกันรุมเกลียดคนที่หมั่นไส้ เคยแม้กระทั่งเอามีดมาใช้ขู่ คือต้องนึกภาพว่า ฝาแฝด มีชื่อเสียงในฐานะนักกีฬา คนแบบนี้โรงเรียนก็จะชื่นชม และไม่เชื่อว่าจะเป็นเด็กไม่ดี ทำให้สามารถใช้ข้อได้เปรียบตรงนี้ ไปเล่นงานคนที่อ่อนแอกว่าได้ง่ายๆ
เมื่อมีคนแรกที่แฉ ก็มีหลายๆคน โพสต์ต่อไปอีกว่า 'ฉันก็โดนเหมือนกัน' บางคนโดนสั่งให้ไปซักเสื้อผ้าให้คู่แฝด บางคนโดนด่าพ่อด่าแม่ โดยเหยื่อรายหนึ่งพิมพ์ว่า "ฉันเคยคิดอยากจะฆ่าตัวตายเพราะโดนแกล้ง แต่สุดท้ายพวกเขาก็ย้ายโรงเรียนหนีไป โดยไม่กล่าวคำขอโทษเลยด้วยซ้ำ"
เมื่อโดนคนแฉมากมายขนาดนี้ คุณจะหลบเลี่ยงแล้วบอกว่าโดนใส่ร้ายไม่ได้หรอก สุดท้ายแฝดทั้งสองคน จึงตัดสินใจว่า การสารภาพและขอโทษในตอนนี้ น่าจะเป็นทางออกที่เซฟที่สุดแล้ว จึงเขียนแถลงการณ์ขอโทษลงในอินสตาแกรม โดยบอกว่าเธอทำจริง และขอโทษกับการกระทำอันไร้ผิดชอบของตัวเองในสมัยยังเด็ก แต่ตอนนี้ก็โตขึ้นแล้วและอยากจะขอโทษเพื่อแก้ไขในความผิดพลาด
อย่างไรก็ตาม เมื่อยอมรับว่าเคยเป็นพวกชอบบุลลี่คนอื่น เธอจึงโดนพลังสังคมลงทัณฑ์ ชาวเน็ตเกาหลีโพสต์ว่า "แผลที่โดนทำร้ายมันไม่เคยจากหายไป คนแกล้ง แกล้งเสร็จก็จบไป แต่คนที่โดนกระทำ ไม่รู้เมื่อไหร่จะลืม" ขณะที่แฟนคลับจำนวนไม่น้อยกล่าวว่าผิดหวัง ที่นักกีฬาที่พวกเขาชื่นชมกลับทำตัวเลวร้ายแบบนี้
เมื่อคุณถูกตีตราว่าเป็นพวกชอบบุลลี่ ก็ไม่มีใครอยากจะข้องเกี่ยวนัก รายการทีวีที่คู่แฝดไปออก ก็ลบ ep นั้นทิ้งไปจากระบบดูย้อนหลัง ขณะที่รถยนต์ KIA ที่พวกเธอเป็นสปอนเซอร์ก็โดนประชาชนกดดันให้ถอนตัวจากการเป็นสปอนเซอร์ซะ
สโมสรฮึงกุกไลฟ์ พิงค์สไปเดอร์ ที่ทั้งคู่สังกัดอยู่ออกมา "พักการเล่น" ของทั้ง 2 คนอย่างไม่มีกำหนด ตามด้วยสมาคมวอลเลย์บอลเกาหลีใต้ ประกาศแบนทั้งคู่จากการเล่นทีมชาติอย่างไม่มีกำหนดเช่นกัน
ซึ่งในจุดนี้น่าสนใจ เพราะทีมชาติเองก็รู้ทั้งรู้ว่า สองฝาแฝดเป็นคีย์แมนในการพาเกาหลีใต้ไปโอลิมปิก ถ้าไม่มีสองคนนี้ ศักยภาพในการต่อสู้จะลดลงฮวบไปเลย แต่ถึงกระนั้น พวกเขาก็ไม่สนใจ สั่งแบนอยู่ดี เพราะพลังสังคมชั่วโมงนี้รุนแรงจริงๆ ถ้าสมาคมฯ ไม่เทกแอ็กชั่นอะไรสักอย่าง จะโดนด่าเละไปด้วย
แค่นี้ยังไม่พอ ประชาชนมากกว่า 1.2 แสนคน ร่วมลงชื่อให้รัฐบาลตั้งทีมสอบสวนย้อนหลัง ว่ามีการกระทำรุนแรงในสมัยมัธยมจริงหรือไม่ เพราะแค่คำขอโทษยังไม่เพียงพอ แต่คู่แฝดควรโดนลงโทษเพื่อไม่ให้นักกีฬาคนอื่นทำพฤติกรรมแบบนี้อีกในอนาคต
สถานการณ์ของคู่แฝด อี ดา-ยอง และ อี แจ-ยอง บอกได้คำเดียว "เละ" ตอนนี้พวกเธอโดนขุดแล้ว ขุดเล่า หยิบยกทุกคำพูด ทุกการกระทำมาแฉย้อนหลัง คือนึกไม่ออกจริงๆว่า จะหลุดรอดจากเรื่องนี้ไปได้อย่างไร
แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้รับการสงสารมากนัก โดยชาวเน็ตบอกว่า ถ้าไม่มีใครเอาเรื่องนี้มาแฉ ทั้งคู่ก็คงคิดว่าจะรอดตัวไปได้สบายๆ และใช้ชีวิตอย่างมีความสุข โดยฝากแผลใจให้คนอื่นไปตลอดกาล ดังนั้นการที่ต้องมารับกรรมตอนนี้ก็สมควรแล้ว
อีกหนึ่งเคส ที่ถือเป็นข่าวใหญ่มากๆ ไม่แพ้กันคือ คิม ยู-ซอง นักเบสบอลอัจฉริยะ ที่ว่ากันว่า มีพรสวรรค์พอจะได้ไปเล่นใน MLB หรือลีกอาชีพที่สหรัฐฯ ในอนาคต
ในปี 2020 คิม ยู-ซอง มีอายุ 18 ปี แต่มีจุดเด่นที่ร่างกายอันแข็งแรง และส่วนสูงถึง 191 เซนติเมตร เขาเล่นในตำแหน่งพิชเชอร์ และขว้างบอลได้เร็วถึง 148 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม้ตายของเขาคือลูกบอลเร็วที่ร้ายกาจมาก จนสามารถทำ 66 สไตรค์เอาต์ ได้ในปีเดียว ซึ่งถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยม สำหรับนักเบสบอลเยาวชน
คิม ยู-ซอง อยู่ที่โรงเรียนมัธยมปลายกิมแฮ เขาพาโรงเรียนคว้าแชมป์ระดับประเทศ รายการโกลเด้นไลออน (เทียบกับญี่ปุ่นคือโคชิเอ็ง) พร้อมคว้ารางวัลพิชเชอร์ยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์
ในเกมนัดชิง ที่ม.ปลายกิมแฮ เอาชนะคู่แข่งไปได้อย่างสุดมันส์ 4-3 คะแนน โค้ชทีมดังๆในลีกเกาหลี (KBO) เข้ามาดูเกมในสนามอย่างคับคั่ง และทุกคนตีค่า คิม ยู-ซองไว้สูงมาก
สำหรับเส้นทางของนักเบสบอลเกาหลีนั้น การจะก้าวไปสู่ระดับอาชีพได้ มีสองทาง ทางแรกคือ พอจบ ม.ปลาย ก็ถูกดราฟต์ตัวเข้าลีกเลย
ตัวอย่างเช่น ริว ฮยอน-จิน นักเบสบอลระดับโลกที่เคยติดทีม MLB ออลสตาร์มาแล้ว เคสนั้นพอจบ ม.6 เขาถูกทีมฮันหวา อีเกิลส์ ดราฟต์ตัวมาทันที และเล่นอาชีพตั้งแต่ตอนนั้น ก่อนจะได้ย้ายไปอยู่อเมริกา เล่นให้แอลเอ ดอดเจอร์ส ในเวลาต่อมา
ถ้าคุณมีพรสวรรค์สูง แต่ละทีมก็จะแย่งดราฟต์กันตั้งแต่ จบ ม.ปลายแล้ว แต่ถ้าคุณยังฝีมือไม่เท่าไหร่ ก็ต้องไปเรียนต่อมหาวิทยาลัย และไปลงเล่นกับชมรมเบสบอล ซึ่งถ้าสโมสรเห็นว่าคุณยังพอมีแววก็อาจดราฟต์เข้าทีมในอนาคต
สำหรับเคสของ คิม ยู-ซองเป็นแบบแรก สโมสร NC Dinos ประกาศว่าจะดราฟต์ตัวเข้าทีมเป็นเบอร์หนึ่งในปี 2020 กะจะให้เป็นสตาร์คนต่อไปของวงการ ซึ่งชีวิตของคิม ยู-ซอง กำลังจะโรยด้วยกลีบกุหลาบ เรียนจบ ม.ปลาย ก็ได้เล่นให้ทีมอาชีพ รับทรัพย์หลายล้านวอนทันที อนาคตสดใสรอเขาอยู่ข้างหน้า
24 สิงหาคม 2020 NC Dinos ดราฟต์ตัว คิม ยู-ซองเข้าทีม โดยสโมสรประกาศว่า "เราเลือกคิม ยู-ซองพิชเชอร์ถนัดขวาจาก ม.ปลายกิมแฮ เข้าสู่ทีม เพราะเขามีร่างกายแข็งแกร่ง และขว้างบอลได้เร็วมาก เขาแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้เก่ง และมีความเยือกเย็นเสมอ"
ขณะที่ตัวคิม ยู-ซองกล่าวว่า "ผมดีใจอย่างมาก ที่ได้เข้าลีกอาชีพ ผมจะพยายามอย่างหนัก เพื่อประสบความสำเร็จให้ได้"
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางบรรยากาศชื่นมื่น ก็มีระเบิดลง เมื่อคนออกมาแฉในโลกออนไลน์ว่า จริงๆ คิม ยู-ซอง ไม่สมควรจะได้รับสิ่งดีๆในชีวิต เพราะตอน มัธยมยังกลั่นแกล้งชาวบ้านอยู่เลย
คนโพสต์นิรนามชื่อย่อ A กล่าวว่า ด้วยความที่ คิม ยู-ซอง เป็นสตาร์ของทีมก็จะมีคนยกยอปอปั้น แล้วก็ชอบกลั่นแกล้งคนในทีมที่ด้อยกว่า ซึ่งตัวเขาโดนแกล้งเป็นประจำ แต่ที่หนักที่สุดคือครั้งหนึ่ง คิม ยู-ซอง กำลังจะขึ้นลิฟท์ ลิฟท์กำลังจะปิด เขากำลังวิ่งมากดปุ่มเพื่อขอไปด้วย ทันทีที่ประตูลิฟท์เปิดออก เมื่อคิม ยู-ซองเห็นหน้าว่าเป็นใครเขาพูดขึ้นมาว่า 'ฉันจะไปสายก็เพราะว่าแก' จากนั้นต่อยเต็มแรงไปที่ลิ้นปี่ จนเขาล้มกลิ้งไปดิ้นลงกับพื้น
ซึ่งหมัดที่ต่อยมีความรุนแรงมาก จนคนอื่นที่อยู่ในเหตุการณ์ต้องตามรถพยาบาลกันมาเลยทีเดียว และหลังจากที่เขาหายกลับมา ก็ยังโดนคิม ยู-ซองกลั่นแกล้งอยู่เรื่อยๆ ทั้งการกระทำ และคำพูด อย่างเช่น 'เล่นละครได้เก่งดีนี่หว่า' ไม่เพียงแค่นั้น พ่อของคิม ยู-ซอง ยังขู่อีกว่าถ้าเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร จะบีบไม่ให้ได้เล่นเบสบอลอีกเลย
เขาให้พ่อแม่แจ้งเรื่องไปที่โรงเรียนแล้ว แต่โรงเรียนก็ลงโทษแบบขอไปที บอกให้คิม ยู-ซอง ไปทำความสะอาด และถอนหญ้าที่โรงเรียนเป็นเวลา 3 วัน คือด้วยความที่คิม ยู-ซองเป็นดาวเด่น โรงเรียนก็ไม่อยากให้ข่าวฉาวแบบนี้หลุดออกไปเหมือนกัน
สุดท้าย ตัวคนโพสต์ที่โดนแกล้ง ต้องย้ายโรงเรียนหนี โดยไม่เคยได้รับคำขอโทษ และกลายเป็นมีจิตใจหลอนไปเลย ไม่กล้าเล่นเบสบอลอีก ซึ่งตรงข้ามกับ คิม ยู-ซอง ที่ก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ และกำลังจะได้เล่นเบสบอลอาชีพ
ดังนั้นเมื่อเห็นคิม ยู-ซอง กำลังจะไปได้ดี ด้วยความแค้นที่สุมในใจ ทำให้เขาเอาเรื่องนี้มาแฉ โดยกล่าวว่าสังคมควรได้รับรู้ตัวตนจริงๆ ว่า ยู-ซอง เป็นคนแบบไหน
เมื่อข่าวนี้หลุดออกมา ก็เริ่มมีคนออกมาเปิดเผยขึ้นเรื่อยๆ ว่าเรื่องที่คิม ยู-ซอง ทำร้ายร่างกาย นักเรียน A เป็นเรื่องจริง ซึ่งสุดท้าย คิม ยู-ซอง ก็ต้องออกมากล่าวว่า ถ้ามีโอกาสเขาอยากจะขอโทษอย่างจริงใจสักครั้ง "ผมไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร ผมเสียใจกับพ่อแม่ และกับเขาที่ต้องรู้สึกเจ็บปวด ถ้าเขาให้โอกาสผมสักครั้ง ผมจะไปคุกเข่าขอโทษเขาหน้าบ้าน"
อย่างไรก็ตาม นักเรียน A ไม่รับฟัง บอกว่าถ้าจะขอโทษ ไม่มาขอโทษเมื่อ 3 ปีก่อนล่ะ ตอนนี้มันสายไปแล้ว
และอย่างที่เราทราบกัน ถ้าสังคมเกาหลีได้รู้ว่าคุณเป็นพวกชอบบุลลี่คนอื่นสมัยเรียน จะมีบทลงโทษอย่างหนักแน่นอน สโมสร NC Dinos ทั้งๆที่เพิ่งดราฟต์ตัวมาได้ แต่ยืนยันว่า จะไม่ขอเซ็นสัญญากับ คิม ยู-ซอง แม้จะเสียสิทธิ์ดราฟต์รอบแรกไปแบบฟรีๆก็ไม่เป็นไร ขณะที่ทีมอื่นๆในลีก ก็ไม่มีใครกล้ายุ่งด้วย เพราะถ้ารับคนชอบบุลลี่เข้ามาในทีม สโมสรก็จะโดนสังคมประณามเสียเปล่าๆ
กลายเป็นว่า จากที่คิม ยู-ซอง จะได้กลายเป็นสตาร์ เขาจึงหมดโอกาสไปเลย และต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ ด้วยการเข้าเรียนมหาวิทยาลัย และหวังว่าผ่านไปหลายๆปี คนจะลืมเรื่องนี้ และให้โอกาสเขาได้เล่นอาชีพสักครั้ง
การกระทำในสมัยมัธยม ที่คิดว่าทำแค่สะใจเอาสนุก เขาไม่ได้ตระหนักเลยว่ามันจะส่งผลเลวร้ายมาจนถึงปัจจุบันด้วย
ที่เกาหลี เรื่องบุลลี่ เรื่องใช้ความรุนแรง ถ้าโดนรู้เมื่อไหร่ นั่นคือเกมโอเวอร์ทันที คุณจะโดนบทลงโทษที่หนักมาก จนบางคนไม่มีที่ยืนในสังคมอีก
ในปี 2018 อัน วู-จิน พิชเชอร์ของทีม เน็กเซ่น ฮีโร่ โดนจับได้ว่าเคยทำร้ายร่างกายรุ่นน้องในชมรมเบสบอล สมัย ม.ปลาย ซึ่งทำให้ อัน วู-จิน โดนคำสั่งห้ามลงเล่น 50 เกมในลีก และสั่งแบนจากทีมชาติ 3 ปี ทั้งโอลิมปิก และเอเชียนเกมส์ ก็หมดสิทธิ์เข้าร่วม
อัน วู-จิน ก็ถือว่าเป็นสตาร์ในระดับชาติ แต่ที่เกาหลีก็ไม่เกรงกลัวที่จะลงโทษ หรือแม้แต่ในเคสของ ซิม คยอง-ซับ และ ซอง มยอง-กึน สองนักวอลเลย์บอลชาย จากทีมโอเค ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ที่โดนเปิดเผยว่า ไปแกล้งเพื่อนสมัยอยู่มัธยม ก็โดนสโมสรสั่งแบนทั้งฤดูกาลทันที แม้สโมสรจะมีลุ้นเพลย์ออฟก็ตาม แต่ก็ไม่สน สั่งแบนอย่างรวดเร็วโดยไม่แคร์ว่าทีมขาดตัวหลักไป แล้วทีมจะยวบหรือไม่
หรือถ้าใครยังจำกันได้ กับกรณีของชเว ซุก-ฮยอน นักไตรกีฬาสาว ที่โดนรุมบุลลี่ จนฆ่าตัวตาย ล่าสุดบทลงโทษโค้ชและรุ่นพี่ออกมาแล้ว โดยถูกศาลลงโทษจำคุกคนละ 7 ปี และ 4 ปีตามลำดับ ซึ่งกระแสสังคมบอกว่า บทลงโทษยังเบาไปด้วยซ้ำ
เราจะเห็นว่าที่เกาหลี อาจมีวัฒนธรรมไม่ดีบางอย่างซ่อนอยู่ก็จริง แต่อย่างน้อยพวกเขาก็พยายามจะแก้ไข
ซีรีส์ การ์ตูน หนัง พยายามสร้างภาพให้คนบุลลี่คือตัวร้าย และเป็นที่น่ารังเกียจของคนส่วนใหญ่ ใช้สื่อเป็นการปรับเปลี่ยนทัศนคติของผู้คน อย่ามองเรื่องการทำร้าย และการกลั่นแกล้งเป็นเรื่องปกติ
ขณะที่บทลงโทษทางสังคม ก็รุนแรงมากๆ ต่อให้คุณจะโด่งดังแค่ไหนไม่สน ทันทีที่คิดจะรังแกคนอ่อนแอกว่า คุณก็จะโดนเอาคืนอย่างหนักชนิดไม่ให้ผุดไม่ให้เกิดกันเลยทีเดียว
วิธีนี้ของเกาหลี จากเท่าที่เห็นในปัจจุบันก็ได้ผลอยู่ เพราะแน่นอนว่า เราไม่สามารถทำให้คนทุกคนคิดดีทำดีได้ แต่อย่างน้อย คนที่คิดชั่ว ก็จะได้ตระหนักให้รอบคอบว่าถ้าทำลงไป แล้วสุดท้ายกลับมาโดนแฉความเลวของตัวเองในอดีต ถึงตรงนั้นชีวิตก็จะพังพินาศได้เลยเหมือนกัน
จริงๆก็น่าเหลือเชื่อว่า ในยุคนี้ ยังมีคนเห็นว่าการบุลลี่คนอื่นว่าเป็นเรื่องเจ๋ง ยังมีอยู่บนโลก สงสัยมากเลยว่า การแกล้งคนอื่น มันจะทำให้ตัวเองรู้สึกภาคภูมิใจตรงไหน
ในโลกยุคปัจจุบัน ที่ต่างยอมรับในความ "เป็นตัวตน" ของแต่ละคน คุณจะเก่ง จะไม่เก่ง จะรวย จะไม่รวย จะหน้าตาดี หรือหน้าตาไม่ดี ก็แล้วยังไง ตราบใดที่ไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรม แค่นั้นก็โอเคแล้ว
แต่คนที่บุลลี่คนอื่นเพียงเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายด้อยกว่าตัวเอง มันคือการแสดงออกว่า เห็นคุณค่าของความเป็นมนุษย์ไม่เท่ากัน ฉันดีกว่าแก แกด้อยกว่าฉัน เพราะฉะนั้นแกสมควรโดนกลั่นแกล้ง
นี่คือวิธีคิดที่ล้าหลัง และตามโลกไม่ทัน ยุคนี้ถ้าอยากโดดเด่น เด่นด้วยความสามารถ ไม่ใช่เด่นด้วยการกดหัวอีกฝ่ายลงไปแล้วหัวเราะเยาะเขาอย่างนั้น
และที่สำคัญ ถ้าหากไม่คิดถึงจิตใจคนอื่น คนที่บุลลี่ ก็ควรคิดถึงอนาคตของตัวเองบ้าง เพราะช้างตายทั้งตัว เอาใบบัวมาปิดไม่มิดหรอก สักวันมันก็ต้องโดนแฉอยู่ดี และยิ่งคุณประสบความสำเร็จมากเท่าไหร่ ความผิดที่เคยทำ มันจะเป็นบาดแผลที่คอยกระชากให้คุณให้ร่วงได้อย่างรุนแรงเท่านั้น
ชีวิตพังพินาศ เพราะเคยสนุกกับการแกล้งเพื่อนสมัยเรียน ... แค่คิดดูก็น่าจะรู้แล้วนะว่ามันไม่คุ้มกันเลยสักนิดเดียว
#Korean #Bully
- 80
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
