สังขละบุรี หนึ่งในที่สุดเมืองงาม
ภาพที่เห็นใบแรกคือภาพล่าสุดสั่งตรงมาจากสังขละบุรี คุณเรืองกิจแห่งบ้านแม่น้ำเป็นคนถ่าย ผมเห็นภาพนี้แล้วสะดุดตาสะดุดใจทำให้คิดถึงสังขละขึ้นมาทันที หากถามว่าเมืองที่มีเสน่ห์สุดๆ ในเมืองไทยคือเมืองใด ตอบกันตรงๆว่ามีหลายเมือง เป็นหลายเมืองที่ผมชอบเป็นหลายเมืองที่ผมรัก เช่น ปาย ปัว ปอน ปาน ประจวบฯ ด่านซ้าย นาแห้ว เอาเท่านี้ก่อนความจริงมีอีกหลายสิบเมือง ซึ่งเมืองในหัวใจย่อมมีสังขละบุรีรวมอยู่ด้วย ผมไปสังขละครั้งแรกเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ไปปั้บรักปุ๊ป เป็นรักแรกพบที่รักแล้วรักเลย ไม่เคยเปลี่ยนแปลง งามด้วยวิถีชีวิต
ทำไมถึงรักขนาดนั้น “งาม” ใช่เมืองนี้เป็นเมืองงามด้วยทิวทัศน์ งามด้วยม่านประเพณี งามวิถีชีวิต งามวัฒนธรรมแม่น้ำสามสายแห่งเมืองสังขละบุรี หากบอกว่าสังขละบุรีเป็นเมืองพิเศษเมืองหนึ่งของไทยคงไม่ผิด พิเศษในที่นี้หมายถึงเมืองที่มีลักษณะเฉพาะตั้งแต่ชุมชน วิถี ภูมิศาสตร์ เป็นเมืองท่องเที่ยวที่งดงาม เงียบสงบ มีบุคลิกเฉพาะตัว
“ชุมชน” สังขละเป็นเมืองที่หลอมรวมคน 4 เผ่าพันธุ์อยู่ในพื้นที่เดียวกัน คือคนไทย มอญ พม่า และปากาเก่อญอ (กระเหรี่ยง)
“ภูมิศาสตร์” สังขละบุรีเป็นเมืองน้ำเมืองขุนเขา คือมีแม่น้ำสามสายไหลมารวมกันที่สามประสบ ได้แก่ แม่น้ำบีคลี่ แม่น้ำซองกาเรีย และแม่น้ำรันตี แต่เดิมตัวเมืองสังขละตั้งอยู่ในหุบเขา ต่อเมื่อทางการได้สร้างเขื่อนเขาแหลมที่ อ.ทองผาภูมิ ทำให้ก่อเกิดทะเลสาบขนาดใหญ่ น้ำท่วมเมือง ท่วมวัด จึงย้ายเมืองขึ้นมาอยู่ด้านบนตามเชิงเขา
“วิถี” เมื่อสังขละบุรีกลายเป็นเมืองน้ำอาชีพที่ผุดขึ้นมาในคือการทำประมง ส่วนการเกษตรยังมีอยู่ไม่ได้หายไปไหน สำหรับอาชีพใหม่ล่าสุดคือการท่องเที่ยว เมื่อมีนักท่องเที่ยวเข้าไปเยือนมากขึ้น สังขละจึงมีร้านค้ามากขึ้น รีสอร์ตที่พักก็มีมากขึ้นเช่นกัน
“ประเพณี” เนื่องจากสังขละบุรีมีคนหลายเผ่าพันธุ์จึงมีประเพณีก่อเกิดให้เห็นหลายรูปแบบ แต่ที่นักท่องเที่ยวทั่วไปสามารถสัมผัสได้ เข้าร่วมได้ คือประเพณีส่งกรานต์มอญ ประเพณีลอยเรือของชาวมอญ ส่วนชนชาวปกาเก่อญอมีประเพณีเล็กๆ ทำกันเฉพาะกลุ่มในพื้นที่ของตัวเอง นักท่องเที่ยวเข้าร่วมได้แต่ต้องเช็ควันเวลาให้ดี เช่น ประเพณีตีข้าว
“แลนด์มาร์ค” จุดที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวในเมืองสังขละบุรีมีสะพานมอญซึ่งเป็นสะพานไม้ยาวที่สุดในประเทศไทย ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอื่นๆ คือน้ำตกเกริงกะเวีย น้ำตกไทรทอง น้ำตกไดช่องถ่อง ล่องเรือดูอุโบสถวัดวังก์วังวิการามหลังเก่าที่ถูกน้ำท่วม ไหว้เจดีย์พุทธคยาจำลองและหุ่นขี้ผึ้งหลวงพ่ออุตะมะในวัดวังก์วิเวการาม ล่องแพไม้ไผ่ในแม่น้ำซองกาเรีย เที่ยวชายแดนไทยพม่า "ด่านเจดีย์สามองค์"
ทั้งหมดนั้นเป็นภาพรวมของเมืองสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เมืองชายแดนไทย-พม่าที่มากมนตรามากเสน่ห์ สามารถไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี สะดวกช่วงไหนไปช่วงนั้น แต่ถ้าไปหน้าฝนจะได้รางวัลเป็นหมอกฝนปกคลุมแผ่นน้ำ ไปหน้าหนาวจะได้อากาศหนาวเย็นรวมถึงหมอกหนาปกคลุมขุนเขา ไปหน้าร้อนน้ำแห้งลงจะพบโบสถ์กลางน้ำแบบเต็มหลัง มีคำเตือนนิดนึงใครไปสังขละบุรีแล้วมักหลงใหลต้องกลับไปเยือนอีกครั้งและอีกครั้ง กี่ครั้งก็ไม่รู้เบื่อ
เที่ยวธรรมดาแบบคนธรรมดาเที่ยว
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
