20 ก.พ. 2021 เวลา 09:00 • ครอบครัว & เด็ก
มาเขียนต่อเรื่องข้อคิดจากคุณพ่อคุณแม่สามีชาวญี่ปุ่นค่ะ
 
👫🏻สามีภรรยานั้นอยู่ข้างเดียวกัน 👫🏻
เรามาอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ไดกิเป็นเดือนที่ 5 แล้ว
แต่เราไม่เคยเห็นทั้งสองท่านทะเลาะหรือเถียงกันเลย
ไดกิบอกว่า จำครั้งสุดท้ายที่เห็นพ่อแม่ทะเลาะกันไม่ได้แล้ว
 
แน่นอนว่าการอยู่ร่วมกันลิ้นก้บฟันยังไงก็ต้องมีอะไรที่ไม่ถูกใจบ้าง
แต่สิ่งที่เราเห็นทั้งสองท่านทำ คือการเลือกที่จะปล่อยมันผ่านไป
 
🥢ยกตัวอย่างเรื่องการทำกับข้าว🥢
เมื่อเทียบกันแล้ว คุณพ่อไดกิเป็นคนที่ชอบทำกับข้าวมากกว่าคุณแม่
มักทำอาหารที่มีขั้นตอนเยอะ หรือลองทำอาหารใหม่ๆ
ซื้อเครื่องปรุงใหม่ๆมาลอง
ในขณะที่คุณแม่ ถามว่าชอบทำกับข้าวหรือเปล่า
ก็บอกได้เลยว่าคงชอบน้อยกว่าคุณพ่อ
เราสังเกตว่า คุณแม่จะมีเมนูที่ทำอยู่ในหัวและจะทำเมนูวนไปแล้วแต่วัตถุดิบที่หามาได้
จะไม่ค่อยทำอะไรที่ยุ่งยาก หรือว่าที่ต้องใช้เครื่องปรุงอะไรที่ไม่เคยใช้มาก่อน
เพราะฉะนั้นคุณแม่จะพูดชมคุณพ่อตลอดว่าทำอาหารอร่อย
ไม่เหมือนตัวเอง ทำแต่อาหารบ้านๆ ทุกอย่างก็กะๆเอา
(เราชอบอาหารคุณแม่นะ มันเป็นอาหารที่ทำให้นึกถึงบ้าน)
 
🥢แต่เราไม่เคยเห็นคุณพ่อบ่นเรื่องอาหารที่คุณแม่ทำเลย
ไม่ว่าอาหารที่ทำวันนั้นรสชาติจะเป็นยังไง
คุณพ่อจะไม่บ่นอะไรทั้งสิ้น
หากวันไหนคุณพ่อรู้สึกว่า อาหารไม่พอ (หรือว่าท่านคิดว่าไม่ถูกปากเราก็ไม่รู้)
ท่านก็จะไม่พูดอะไร แต่จะเข้าไปในครัวเงียบๆ
และทำอาหารอย่างอื่นมาเพิ่มเองเผื่อทุกคนด้วย
 
🥢คุณแม่เมื่อเห็นแบบนั้น
ก็จะไม่มีการพูดเหน็บแนมว่าไม่ชอบอาหารที่ทำหรอ
แต่คุณแม่เลือกที่จะขอบคุณคุณพ่อ
ที่ทำอาหารอร่อยๆมาให้เพิ่ม
และท่านก็กินอย่างมีความสุข
 
🥢เราเคยได้ยินเรื่องครอบครัวญี่ปุ่นที่สามีจะบ่น
ในวันที่ภรรยาซื้ออาหารที่ทำสำเร็จมา
มองว่าภรรยาขี้เกียจ ไม่ยอมทำอาหารดีๆให้กิน
หรือว่า วันไหนที่รสไม่ถูกปากก็จะบ่นว่าจืดไป เค็มไป ต่างๆนานา
สามีกินข้าวอย่างไม่พอใจ ภรรยาที่ฟังก็คงไม่ได้รู้สึกดี
และก็เก็บความเสียใจ ความไม่พอใจไว้
สุดท้ายแล้วความไม่พอใจเล็กๆน้อยๆแบบนี้แหละ
ที่เป็นสาเหตุของการหย่าร้าง
 
👫🏻สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะไม่พอใจอีกฝ่ายยังไง
เราก็ต้องไม่ลืมว่า สามีภรรยานั้นอยู่ฝ่ายเดียวกัน
เราไม่ต้องมีใครเอาชนะใครให้ได้
ทุกเรื่องไม่จำเป็นต้องมีคนผิด
อะไรที่ปล่อยผ่านไปได้ก็ปล่อยผ่านไป
ถ้อยทีถ้อยอาศัยเพื่อให้อยู่ร่วมกันได้อย่างที่ต่างคนต่างมีความสุข
และพ่อแม่ของไดกิเป็นตัวอย่างนี้ให้เราค่ะ
 
😃 ความสุขเริ่มได้จากสิ่งเล็กๆรอบตัว 😃
ที่บ้านไดกิทุกวันจะได้ยินเสียงหัวเราะของคุณแม่
คุณแม่เป็นคนอารมณ์ดี
เราไม่เคยตื่นมาวันไหนแล้วเจอคุณแม่อารมณ์ไม่ดี
ไม่มีวันไหนที่คุณแม่หงุดหงิดเลย
เอาจริงเราไม่เคยเห็นคุณแม่หรือคุณพ่อโมโหเลย
ส่วนหนึ่งเราคิดว่าเป็นเพราะชีวิตที่เรียบง่ายของการอยู่ชนบท
ถึงไม่มีอะไรตื่นเต้นมากมาย แต่ก็ไม่มีอะไรต้องวุ่นวายใจเหมือนกัน
 
😃หนึ่งวันของคุณแม่ก็คือดูแลบ้าน ทำกับข้าว
บางวันก็จะไปหาคุณยาย ช่วยคุณยายทำความสะอาดบ้าน
ว่างๆก็ทำงานอดิเรก หรือนัดเพื่อนออกไปกินข้าว
เป็นชีวิตวัยเกษียณที่เรารู้สึกว่า มันสงบดีมากๆ
ความสุขของคุณแม่ได้มาง่ายๆจากการกินนั่งดื่มชากินขนมในโต๊ะอุ่นขาหลังจากทำงานบ้านตอนเช้า
จากการนั่งดูละครที่อัดไว้ จากพุดดิ้งที่กินตอนบ่าย
หรือแค่การออกไปกินข้าวเย็นข้างนอกแล้ววันนั้นไม่ต้องล้างจานที่บ้าน
หลายๆอย่างที่คนเมืองอย่างเรามองข้าม
แต่คุณแม่กลับสามารถมีความสุขกับมันได้ค่ะ
 
🏠เพื่อนบ้านอยู่ได้ด้วยการเกื้อกูลกัน🏠
ช่วงสองอาทิตย์แรกที่ย้ายกลับมาโออิตะ
เพื่อความปลอดภัย พวกเราให้คุณพ่อคุณแม่ไปอยู่บ้านคุณน้า
วันนึงเรากำลังชงชาอยู่ในห้องครัว
ก็ได้ยินเสียงเครื่องตัดหญ้าอยู่ด้านนอกหน้าต่าง
มองออกไปเราก็เห็นคุณตาคนนึงกำลังตัดหญ้าในสวนในบ้านเรา
 
🏠เรารีบเรียกไดกิมาถามว่านี่ใคร
อยู่ดีๆทำไมมาตัดหญ้าที่บ้าน
ไดกิเห็นแล้วก็บอก อ๋อ นั่นคุณตาข้างบ้าน
มาตัดหญ้าให้ตลอดแหละ
คนกรุงเทพแบบเรางงทันทีค่ะ
คือเป็นระบบยังไง?
แบบไปขอให้เค้ามาทำให้หรอ?
แล้วต้องให้ค่าตอบแทนอะไรยังไง?
 
🏠ไดกิมองหน้าเราแบบถามอะไรอ่ะ
ก็เนี่ยคุณตาเค้ามีเครื่องตัดหญ้า
เค้าเห็นบ้านเราไม่มี เค้าก็เลยอาสามาตัดให้
ไม่ใช่แค่ที่บ้านไดกิ เพื่อนบ้านแถวนี้เค้าก็ไปตัดให้หมด
เค้าเห็นบ้านไหนหญ้าเริ่มขึ้นเค้าก็มาตัดให้ แค่นั้นเอง
ทำมาให้ตั้งแต่ตอนไดกิยังเป็นเด็กเลย
ไม่มีใครให้ค่าตอบแทนอะไรหรอก
 
🏠มันทำให้เราเห็นว่า
เพื่อนบ้านที่นี่อยู่ด้วยการเกื้อกูลกันจริงๆ
บ้านคุณยายไดกิปลูกต้นหอมญี่ปุ่น
เวลาคุณแม่ไปบ้านคุณยายก็จะเอาต้นหอมมาฝากเพื่อนบ้าน
วันดีคืนดีก็จะมีคนเอาผักกาดขาว แครอท หัวไชเท้ามาให้
หรือบางทีก็มีปลา มีปลาหมึกมาให้
ใครทำกับข้าวแล้วขาดเครื่องปรุงก็ไปยืมเพื่อนบ้าน
อาทิตย์ที่แล้วไข่ไม่พอ 2 ฟอง คุณแม่ก็วิ่งไปบ้านข้างๆ
เพื่อขอยืมไข่ เพื่อนบ้านก็แถมผักดองที่เค้าดองเองมาให้กินด้วย
บางทีเรากับไดกิกลับมาจากโตเกียว
คุณแม่ก็จะฝากซื้อของฝากมาเผื่อเพื่อนบ้านด้วย
 
🏠ในขณะที่เรากับไดกิอยู่โตเกียว
เคยคุยกับห้องข้างๆครั้งเดียวตอนย้ายมาแล้วไปแนะนำตัว
หลังจากนั้นก็ไม่เคยคุยกันอีกเลย
พอมาเห็นความสัมพันธ์น่ารักๆแบบนี้ก็แอบอิจฉาเหมือนกันนะ
มีใครอยู่ต่างจังหวัดที่ไทย เพื่อนบ้านน่ารักแบบนี้เหมือนกันมั้ยคะ
 
💁🏻‍♀️นี่เราสองคนยังต้องอยู่ที่นี่อีกเป็นเดือน
คิดว่าวันหลังจะลองสัมภาษณ์ชีวิตคู่ของคุณพ่อคุณแม่
เผื่อจะมีข้อคิดให้ชีวิตคู่ของเรากับไดกิอีกแหละ😁
เด็กน้อยไดกิที่ตอนเด็กโดนเรียกว่าหัวล้าน เพราะผมน้อยมาก 555
#ชีวิตในญี่ปุ่น #คุณแม่ไดกิ
โฆษณา