20 ก.พ. 2021 เวลา 10:59 • การตลาด
Internal Data vs External Data ข้อดีของ Big Data ทั้ง 2
จาก Podcast หมีเรื่องมาเล่า Ep.70
ในทุกวันนี้ Data เป็นส่วนหนึ่งของตัวช่วยทางการตลาด การนำ Data จากการเก็บเกี่ยวพฤติกรรมของแบรนด์ต่างๆ มาวิเคราะห์เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคจึงเป็นสิ่งที่ทุกแบรนด์ต้องหันมาศึกษาทั้งในเรื่องของประเภทและประโยชน์ของ Data ชนิดต่างๆ
ใน Podcast “หมีเรื่องมาเล่า Ep.70” ได้มีกล่าวถึงประเภทของ Data ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทเรียกว่า Internal Data และ External Data รวมไปถึงประโยชน์ของ Data ทั้ง 2 ประเภทนี้ ซึ่งนับว่าน่าสนใจมาก
แอดเลยคิดว่าอยากจะนำประโยชน์ของเนื้อหาส่วนนี้มาแนะนำให้เพื่อนๆ นักโฆษณาและการตลาดได้ทำความเข้าใจใน Data ทั้ง 2 จวบจนนำไปสู่การใช้งานของ Data ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาดูกันว่า Data ทั้ง 2 นี้จะมีประโยชน์ต่อการทำการตลาดอย่างไรบ้างไปอ่านต่อเลย
Internal Data คือ???
จะว่าด้วยความหมายง่ายๆ ก็คือข้อมูลที่เก็บรวบรวมมาจากช่องทางภายในองค์กรของเราเอง ไม่ว่าจะมาจากการเก็บข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภค ข้อมูล KPI ทั้งจากช่องทาง Social Media หรือ Website ของเราเองในเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นและวนเวียนอยู่ในองค์กร หากต้องการทำความเข้าใจความหมายเพิ่มเติมที่ลึกลงไปอีกสามารถเข้าไปฟังได้ที่ Podcast “หมีเรื่องมาเล่า Ep.70”
เป็นประโยชน์ต่อการตลาดระดับ Personalization
โดย Internal Data นั้นเมื่อเราเก็บเกี่ยวข้อมูลที่เข้ามามีปฏิสัมพันธ์ในช่องทางธุรกิจของเรา ทำให้เราสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นไปวิเคราะห์เพราะทำการตลาดในระดับ Personalization ได้ หรือก็คือการตลาดที่เฉพาะเจาะจงในกลุ่มเป้าหมายได้โดยไม่ต้องคาดเดาข้อมูลวงกว้างอย่าง เพศ อายุ อาชีพ ฯลฯ แต่สามารถรับรู้ถึงพฤติกรรมอย่างการเลือกดูหนัง การใช้ชีวิตกับบางสิ่ง พฤติกรรมต่างๆ ในวิถีชีวิตได้เลย
โดยการทำการตลาดระดับ Personalization นี้จะทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาในการคาดการณ์ความต้องการในกระบวนการซื้อขายเลย Data นี้จะทำให้เรารู้สิ่งที่เราต้องทำและแสดงประสิทธิภาพในการตอบสนองความต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพมาขึ้นกว่าแต่ก่อน ยกตัวอย่างในเคสของ Netflix ที่มีการแนะนำคอนเทนต์จากพฤติกรรมการดูของแต่ละบุคคล จึงสามารถแนะนำคอนเทนต์ที่เหมาะสมเพื่อตอบสนองความต้องการของแต่ละคนได้อย่างเหมาะสมนั่นเอง
เป็นประโยชน์ในการ Retargeting Ads
มันคือการใช้ Data ในการเรียนรู้ความสนใจของผู้บริโภคแล้วใช้ประโยชน์จากข้อมูลเหล่านี้ในการยิงโฆษณาให้ตรงกับความต้องการในช่องทางต่างๆ (เอาง่ายๆ คือหลอกหลอนนั่นแหละ)
ในการยิงโฆษณาด้วย Data เหล่านี้จะมีความละเอียดมาก ยกตัวอย่างถ้าเราสนใจเสื้อ Nike ตัวหนึ่งแต่ในตอนแรกเราแค่มีความสนใจเฉยๆ ระบบก็จะทำการยิงโฆษณาด้วยข้อความที่แนะนำสินค้า เมื่อเราไปเห็นโฆษณาอีกครั้งหนึ่งครั้งนี้เรามีความต้องการที่จะเปรียบเทียบสินค้าที่ชอบ ระบบก็จะยิงโฆษณาด้วยข้อความเปรียบเทียบสินค้าและโปรโมชั่นต่างๆ จวบจนยิงโฆษณาปิดการขายในระดับตัดสินใจซื้อของเรา
Internal Data สามารถทำได้ถึงระดับนั้นจากพฤติกรรมที่ Data ได้บอกเรา และจะทำให้การตลาดของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้นจนน่าตกใจเลยทีเดียว
เป็นประโยชน์ต่อ Automation Marketing
หรือก็คือเราจะนำ Data เหล่านี้มาวิเคราะห์เพื่อหาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการสื่อสาร เช่น ส่งอีเมล, แชทบอท, การแจ้งเตือน ไปจนถึงการโพสต์คอนเทนต์เพื่อการตลาดในเวลาที่เหมาะสม ข้อมูลเหล่านี้จะวิเคราะห์ช่วงเวลาในการกระทำสิ่งพวกนี้เพื่อเข้าถึงความต้องการในช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการสื่อสารการตลาด
External Data คือ???
ก็คือข้อมูลภายนอกที่มาจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะจากการซื้อข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายหรือการจ้างทำรีเสิร์ช หากต้องการทำความเข้าใจความหมายเพิ่มเติมที่ลึกลงไปอีกสามารถเข้าไปฟังได้ที่ Podcast “หมีเรื่องมาเล่า Ep.70”
ประโยชน์ในการหา Why จาก What ของ Internal Data
Internal Data เป็นภาพรวมของข้อมูลจากพฤติกรรมผู้บริโภค และนำมาตั้งคำถามเพื่อหาความต้องการก็คือ What แต่ในส่วนของ External Data นั้นเป็นการหา Why ของ What เหล่านั้นด้วยปัจจัยภายนอกองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจพฤติกรรมการรีเสิร์ช เพื่อทำให้เราได้รู้ว่าเราจะตอบสนองความต้องการเหล่านั้นไปทำไม
เป็นประโยชน์ในการเปรียบเทียบ “คู่แข่ง”
หากเรามี Data ของตัวเองแล้วแต่อีกสิ่งสำคัญของการตลาดก็คือการรู้เขารู้เรา ซึ่งเกิดจากการเปรียบเทียบคู่แข่งหมายความว่าเราจะเปรียบเทียบจาก Data ของคู่แข่งหรือก็นับเป็น External Data นั่นเอง
เมื่อเรามีข้อมูลของคู่แข่งในมุมมองต่างๆ แล้วเราก็จะสามารถนำมาเปรียบเทียบถึงข้อดีข้อเสียของแบรนด์เราได้ หลังจากนั้นก็จะนำไปสู่การปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาในจุดที่เราแข็งแรงและพัฒนาในจุดที่เราอ่อนแต่คู่แข่งมีเป็นจุดแข็ง ซึ่งจะทำให้กระบวนการพัฒนาๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ข้อมูลทั้ง 2 ประเภทนี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังต้องการสร้างแบรนด์ของตัวเอง ในวันที่เราเริ่มประกอบการเราสามารถเริ่มเก็บ Internal Data ได้เลย หลังจากนั้นก็เริ่มวิเคราะห์พฤติกรรมจาก Data เมื่อเข้าใจข้อดีข้อเสียแล้ว ก็ทำการรวบรวม External Data เพื่อพัฒนาด้วย Data ภายนอกต่อไป
หากเพื่อนๆ สามารถทำความเข้าใจใน Data ทั้ง 2 ประเภทนี้ได้ดีและหาวิธีในการใช้งานได้อย่างเหมาะสม เชื่อว่าองค์ความรู้นี้จะเป็นประโยชน์ต่อการประกอบธุรกิจเป็นแน่
หากเพื่อนๆ ที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วยังไม่เข้าใจในเรื่องของ Data ทั้ง 2 ประเภทนี้อย่างไร สามารถเข้าไปฟังรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่รายการ Podcast “หมีเรื่องมาเล่า Ep.70” จาก Ad Addict Podcast นะครับ
โฆษณา