22 ก.พ. 2021 เวลา 02:10 • การเกษตร
คำว่า “ผักออร์แกนิก” แม้จะเคยได้ยินมาหลายต่อหลายครั้ง แต่เชื่อว่าก็ยังมีหลายคนอาจไม่เข้าใจในความหมายคำเรียกผักประเภทนี้ได้อย่างชัดเจน บางคนเข้าใจว่าผักออร์แกนิกคือผักปลอดสารพิษ บางคนบอกว่ามันก็คือผักไฮโตรโปรนิกส์ วันนี้เราจึงหาข้อมูลของผักออร์แกนิกมาให้ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง และเพื่อการบริโภคที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด​
“ผักออร์แกนิก” คือผักที่มีความเป็นธรรมชาติสุดๆ
ถ้าจะพูดให้เข้าใจได้ไม่ยาก ‘ผักออร์แกนิก’ คือผักประเภทที่มีความเป็นธรรมชาติสูงมาก เพราะในการเพาะปลูกผักในกลุ่มนี้จะไม่มีการใช้สารเคมีใดๆ แต่จะปลูกโดยดัดแปลงสภาพการเพาะปลูกเลียนแบบธรรมชาติ เช่น ปุ๋ยในดิน การบำรุงดิน อากาศ ความชื้น น้ำ ฯลฯ เพื่อให้พืชผักเจริญเติบโตได้ด้วยวิธีแบบธรรมชาติโดยอาหารจากธรรมชาติ
การเลียนแบบธรรมชาติที่ว่านี้ หมายถึงการให้พืชผักค่อยๆ เติบโตขึ้นโดยมีระยะเวลาการเติบโตตามธรรมชาติของพืชผักชนิดนั้นๆ การเพาะปลูกผักออร์แกนิกจึงมีการลงทุนที่สูงและใช้เวลาในการเพาะปลูกนาน รวมถึงมีการใช้วิธีสร้างสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการดูแลโรคและแมลงในแบบไม่ทำร้ายธรรมชาติ จึงจะเห็นได้ว่าในบางแห่งอาจกางมุ้งปลูกผักหรือดูแลใกล้ชิดในโรงเรือนแบบปิด โดยมีหัวใจสำคัญคือการห้ามไม่ให้ใช้สารเคมีใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าสารนั้นจะไม่เป็นอันตรายต่อพืชและสัตว์ก็ตาม จะใช้ได้แต่เพียงอินทรีย์ที่มาจากธรรมชาติเท่านั้น จึงจะเรียกว่าเป็น “ผักออร์แกนิก” ขนานแท้
องค์ประกอบพื้นฐานของการเพาะปลูกผักออร์แกนิก ได้แก่
‘ผักออร์แกนิก’ จะไม่มีการใช้สารเคมีหรือสารสังเคราะห์ใดๆ เลยในการปลูกและการเพาะเลี้ยง จะโตด้วยอาหารจากธรรมชาติล้วนๆ ปลูกในดินบ้านๆ ที่ปลอดสารเคมี ใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกจากธรรมชาติในการเพาะปลูกและเมล็ดที่ใช้ไม่มีการตกแต่งพันธุกรรม
ดินที่ใช้ปลูก ‘ผักออร์แกนิก’ ต้องทำให้ปลอดสารพิษไม่น้อยกว่า 3 ปี หรือต้องเป็นแปลงที่ไม่มีการใช้สารเคมีมาแล้ว 5 ปีและมีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยแร่ธาตุและสารอาหาร สามารถอุ้มน้ำและระบายน้ำได้ดี มีจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์อยู่ในดินมากเพื่อช่วยในการย่อยสลายสารอาหาร และทำให้รากสามารถดูดซึมสารอาหารได้ง่าย
น้ำที่ใช้ปลูก ‘ผักออร์แกนิก’ จะต้องไม่มาจากแหล่งน้ำลำคลองทั่วไป บางแห่งจะใช้น้ำที่ขุดลึกภายในไร่ที่มีความลึกถึง 150 เมตร หรือน้ำที่อยู่ใต้ดิน
ปุ๋ยหมักบางแห่งอาจได้มาจากการนำขี้วัวหรือขี้ไก่มาเป็นวัตถุดิบในการทำปุ๋ยหมัก
ในการเพาะปลูก ‘ผักออร์แกนิก’ บางแห่งจะไม่กำจัดวัชพืชออกไปทั้งหมด เพราะวัชพืชยังมีประโยชน์สำหรับการเกษตรคือมีกากใยบนดินมาก จะทำให้เกิดการระบายน้ำได้ดี ในตอนฝนตกหนัก จึงช่วยรักษาพื้นดินไว้ได้ และวัชพืชยังช่วยในเรื่องการขยายของรากพืชได้อีกด้วย
‘ผักออร์แกนิก’ ไม่ก่อให้เกิดมลพิษในกระบวนการผลิต เพราะนอกจากจะมุ่งเน้นให้คนกินมีสุขภาพที่ดีแล้ว จุดประสงค์ที่สำคัญอีกอย่างคือการลดมลพิษให้กับธรรมชาติ เพราะการใช้สารเคมีต่างๆ จะทำให้เกิดสารพิษตกค้างในดิน ในอากาศและในน้ำ
ผักปลอดสารพิษและผักไฮโดรโปนิกส์ ไม่ใช่ “ผักออร์แกนิก”
ผักปลอดสาร คือ ผักที่มีการใช้สารเคมีในระหว่างการเพาะปลูกจนกระทั่งใกล้เก็บเกี่ยว จะมีการเว้นการใช้สารเคมีในช่วงการเก็บเกี่ยว แต่จะมากน้อยขึ้นอยู่กับผู้เพาะปลูกเป็นคนกำหนดเวลา ซึ่งผักที่ว่าอาจเป็นผักปลอดสารในช่วงการเก็บเกี่ยวผลผลิต แต่ไม่ได้ปลอดสารในระหว่างการเพาะปลูก จึงไม่ถือว่าเป็นผักออร์แกนิก
ผักไฮโดรโปนิกส์ คือ ผักที่ไม่ได้ปลูกกับดินแต่ใช้น้ำแทนดิน จึงเป็นผักที่จำเป็นต้องพึ่งสารเคมี ไม่ว่าจะทางใบหรือทางน้ำ เพราะผักไร้ดินจะไม่มีดินที่เป็นตัวสะสมธาตุอาหาร แต่เปลี่ยนจากดินเป็นน้ำให้เป็นตัวสะสมธาตุอาหารแทน การใส่ปุ๋ยก็จะให้ทางน้ำและปุ๋ยก็ยังคงต้องมีสารเคมี จึงไม่ถือว่าเป็นผักออร์แกนิก เพราะปุ๋ยอินทรีย์บางชนิดจะไม่สามารถผสมลงในน้ำได้
ผักที่ขึ้นชื่อว่าเป็น ผักออร์แกนิกไม่ต่างอะไรกับการได้กินผักในสมัยก่อนที่การเกษตรยังไม่มีเครื่องมืออำนวยความสะดวกมากมายเช่นทุกวันนี้ รวมถึงไม่มีตัวช่วยพิเศษอย่างสารเคมีต่างๆ ความเป็นผักออร์แกนิกคือในยุคนี้ ก็คือการสร้างสภาพแวดล้อมในการเพาะปลูกรวมถึงการดูแลให้เหมือนในยุคก่อน แต่เพิ่มเติมคือความรู้ทันโรคและแมลง รู้ถึงปัญหาที่จะต้องเจอ และหาทางป้องกันและดูแลด้วยวิถีธรรมชาตินั่นเอง
มาถึงตรงนี้ เชื่อว่า หลายคนได้รู้จัก “ผักออร์แกนิก” มากขึ้นแล้วใช่ไหมคะ ครั้งหน้า เราจะมาเล่าให้ฟังค่ะว่า การบริโภคผักออร์แกนิกมีดีอย่างไรบ้าง
โฆษณา