22 ก.พ. 2021 เวลา 04:48 • กีฬา
Laliga is on fire !
ผลการเเข่งขันใน Matchday ที่ 24 หรือ 23 ของบางทีม ส่งผลต่อการลุ้นเเชมป์ลาลีกาอย่างมาก เเละเพิ่มความสนุก เเละลุ้นระทึก ให้กับเเฟนบอล
การทำเเต้มหล่น เเละสะดุดเเพ้ของ เเอตเลติโก มาดริด การชนะของ เรอัล มาดริด เเละผลเสมอของ บาร์เซโลน่า มีผลต่อตารางคะเเนนอย่างมาก รวมถึงทีมที่มาเงียบๆอย่าง เซบีย่า ที่หากคืนนี้พวกเขาบุกไปชนะโอซาซูน่าที่ เอล ซาร์ดา ได้ ลูกทีมของยูเลน โลเปเตกี จะเเซงบาร์ซ่า ขึ้นมาที่ 3 ทันที !
'จ่าฝูง' เเอตเลติโก มาดริด มี 55 คะเเนน เเต่เเข่งไป 23 นัด น้อยกว่า 'รองจ่าฝูง' เรอัล มาดริด ที่มี 52 คะเเนน เเละเเข่งไป 24 นัด
'อันดับสาม' บาร์เซโลน่า มี 47 คะเเนน จากการลงเล่น 23 นัด เเละ 'อันดับ 4' เซบีย่า มี 45 เเต้มจาก 23 นัด เเละอย่างที่บอกไปว่าหาก เซบีย่า ที่จะเล่นกับ โอซาซูน่า คืนนี้ หากพวกเขาชนะได้ จะขึ้นที่ 3
การเก็บได้เพียง 5 เเต้มจาก 12 เเต้มของลูกทีม
เดียโก้ ซิเมโอเน่ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้การลุ้นเเชมป์สนุกขึ้น ซึ่งการพลาดทำเเต้มหล่นเเบบนี้ของ ตราหมี เป็นสิ่งที่เราเเทบจะไม่เห็นเลยก่อนหน้านี้
ตัวอย่างชัดๆ ที่เเสดงให้เเห็นถึงคาม ไร้เทียมทาน ของอดีตเเชมป์ลาลีกา เมื่อฤดูกาล 2013/14 คือการคว้าชัยชนะ 8 นัดติด ซึ่งเหตุการณ์ที่ว่านี้ เพิ่งเกิดไปเมื่อปลายเดือนมากราคมนี้เอง
สาเหตุที่ทำให้ เเอต.มาดริด ฟอร์มตก คือการที่เกมรับของพวกเขา ไม่เหนียวเเน่นเหมือนก่อน หลักฐานชิ้นสำคัญคือ การเสียประตู 7 นัดติด หรือพูดอีกเเบบนึงคือ พวกเขาไม่สามารถเก็บคลีนชีตได้ 7 นัดเเล้วนั่นเอง
อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ 'โลส โคลโชเนโรส' มีผลการเเข่งขันที่ไม่เป็นใจคือ หลุยส์ ซัวเรซ ดาวซัลโว ประจำทีม ไม่สามารถทำประตูได้ 3 นัดติดเข้าเเล้ว เเถมกำลังเสริมอย่างพวก เจา เฟลิกซ์ หรือ อังเคล กอร์เรอา ก็ยังขาดการทำประตูเเบบเป็นกอบเป็นกำ กองหน้าตัวใหม่อย่าง มุสซ่า เดมเบเล่ ก็ยังอยู่ในช่วงปรับตัว
การเเข่งขันลาลีกา ยังเหลือให้ชิงชัยกันอีก 15 นัดด้วยกัน เเต่ เเอต.มาดริด บาร์เซโลน่า เเละเซบีย่า ยังเหลืออีก 16 นัด โดยเกมตกค้างของ บาร์ซ่า จะเเข่งกับ เอลเช่ ในบ้าน วันพุธนี้ ส่วน ตราหมี จะเเข่งนัดตกค้างกับ เเอธเลติก บิลเบา วันที่ 10 มีนาคม เเละเซบีย่า จะลงเล่นกับ เอลเช่ วันที่ 17 มีนาคม
เมื่อถึงนัดที่ 28 ของฤดูกาล ทั้ง 4 ทีมดังกล่าว จะลงเเข่งเท่ากันหมด เเละยังจะต้องมีการ ดวลกันเอง อีกด้วย
เริ่มจาก เเอตเลติโก มาดริด ที่จะต้องทำศึก
'เอล ดาร์บี้ มาดริดเลนโญ่' กับเรอัล มาดริด ในวันที่ 7 มีนาคม รวมถึงจะต้องบึกไปเยือน เซบีย่า ที่ราม่อน ซานเชซ ปิซฆวน เเละปิดท้ายด้วยการบุกไปเยือน เเคมป์ นู เพื่อพบกับ บาร์เซโลน่า
ลูกทีมของ ซีเนอดี ซีดาน นอกจาก 'มาดริดดาร์บี้' เเล้ว พวกเขาจะต้องทำศึก 'เอล กลาซิโก้' ในบ้าน วันที่ 11 เมษยน เเละต้องเปิด อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ รับมือกับ เซบีย่า อีก
ทีมเลือดหมูน้ำเงินของ โรนัลด์ คูมัน นอกจาก
เอล กลาซิโก้ ที่บอกไปเเล้ว พวกเขาจะต้องเปิด
คัมป์ นู พบกับ เซบีย่า ในวันเสาร์หน้า เเละสุดท้ายคือ เล่นในบ้านกับ เเอตเลติโก มาดริด เดือนพฤษภาคมนู่นเลย
ปิดท้ายด้วย เซบีย่า พวกเขาต้องไปเยือน บาร์ซ่าอย่างที่กล่าวไป เยือนมาดริด เเละเล่นในบ้ายกับ เเอต.มาดริด
สัปดาห์ที่ 35 ของการเเข่งขัน จะร้อนเเรง เเละดุเดือดเป็นพิเศษ เนื่องจากทั้ง 4 ทีม จะต้องเกี่ยวข้องกันทั้งหมด โดย เรอัล มาดริด จะพบกับ เซบีย่า ในบ้าน เเละ บาร์เซโลน่า พบกับ เเอตเลติโก มาดริด
นอกจากการพบกันเองของทั้ง 4 ทีมเเล้ว พวกเขาก็ยังมีเกมการเเข่งขันที่ยากๆ เหลืออยู่เหมือนกัน เช่น เเอตเลติโก ต้องบุกไปเยือน บียาเรอัล เเละเเธเลติก บิลเบา บาร์เซโลน่า จะไปเยือน ซาน เซบาสเตียน ถิ่นของ เรอัล โซเซียดัด
ดูจากโปรเเกรมเเล้ว ต้องบอกว่า 'หนักพอๆกัน' เเละไม่ใช่งานง่ายของทั้ง 4 ทีมเเน่นอน หากต้องการที่จะคว้าเเชมป์ลีกเเดนกระทิงดุไปครอง นอกจาก คุณภาพ เเละความสม่ำเสมอในการเล่นเเล้ว ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก อีกปัจจัยที่สำคัญคือ เรื่องของจังหวะ เเละดวง เเม้ผมจะเป็นคนที่ไม่เชื่อในเรื่องดวงอยู่เเล้ว เเต่บางที ฟุตบอลก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่สามารถอธิบายได้เช่นกัน โดยเฉพาะในเรื่องของอาการบาดเจ็บ ที่เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า ใครจะเจ็บเมื่อไร หรือใครจะพลาดพลั้งติดโควิดอีก (ไม่ได้เเช่ง)
อย่างไรก็ตาม เเฟนฟุตบอลสเปน ต่อจากนี้ น่าจะได้ดูบอลที่เข้มข้น เเละดุเดือดมากขึ้นเเน่นอน ทุกทีมจะต้องใส่เต็มต่อจากนี้ เเละทุกรายละเอียดมีส่วนสำคัญมากๆ การเเข่งขัน ลาลีกา ยังคงมีชีวิตชีวา เเละยังไม่ตาย !
Photo : MARCA
โฆษณา