23 ก.พ. 2021 เวลา 09:06 • การศึกษา
เลี้ยงปลา แต่มาขายหอย 😄
จากที่เคยเล่าว่าในบ่อที่เลี้ยงปลานอกจากจะได้ปลาแล้วยังได้ปูนา นอกจากนี้ยังมีกุ้งฝอยและหอยขมอีกด้วย
10
โดยปกติเราเพาะลูกปลาซึ่งใช้เวลาเลี้ยงแค่ประมาณ 45 วัน หลังจากจับลูกปลาแต่ละรุ่นก็จะสูบน้ำออกจนหมดบ่อ ตากบ่อให้แห้ง และโรยปูนขาวเพื่อฆ่าสิ่งมีชีวิตที่หลงเหลือที่อาจจะมากินลูกปลาให้หมดไปรวมถึงหอยและอื่น ๆ ด้วย
1
แต่บ่อที่เราเลี้ยงปลาเนื้อหรือใส่พ่อแม่พันธุ์ซึ่งใช้เวลาเลี้ยงหลายเดือนหรือไม่ก็ไม่มีการสูบน้ำออก โดยเฉพาะบ่อปลานิลจะพบว่ามีกุ้งฝอย ปูนาและหอยขมอยู่เยอะ และที่จับได้โดยไม่ต้องสูบน้ำให้แห้ง คือ หอยขม
"หอยขม" เป็นหอยฝาเดียวที่อาศัยอยู่ในน้ำจืด มีอวัยวะเพศผู้และเพศเมียอยู่ในตัวเดียวกัน ออกลูกเป็นตัวและผสมพันธุ์ได้ด้วยตัวของมันเองเมื่ออายุได้ 60 วัน โดยจะออกลูกครั้งละประมาณ 40-50 ตัว
กินอาหารพวกสาหร่าย ใบไม้ใบหญ้าที่ผุ รวมถึงซากอินทรีย์ที่เน่าเปื่อยอยู่ตามผิวดินในน้ำ
ตอนแรกเราก็ไม่ได้สนใจ เก็บไว้ทำอาหารในครอบครัวบ้าง ให้เพื่อนบ้านมาเก็บบ้าง ตอนหลังเริ่มมีเยอะขึ้นก็เลยเก็บไปขาย ปรากฏว่าขายดีเพราะหอยในแหล่งน้ำธรรมชาติเริ่มหายากขึ้นทุกวัน
และหอยในบ่อปลาจะตัวโต เนื้อเยอะ เพราะได้อาหารที่สมบูรณ์จากอาหารปลาและซากพืชซากสัตว์ในบ่อ และไม่มีกลิ่นสาบ เพราะมีหอยจากบางแหล่งที่รสชาติออกขม ๆ เพราะเกิดจากอาหารที่กินเข้าไป
วิธีการ คือ ใส่ทางมะพร้าวลงไปในบ่อ หอยจะมาเกาะตามใบมะพร้าว เวลาเราจะเก็บก็ดึงทางมะพร้าวขึ้นมา เลือกเก็บหอยที่ตัวโต ส่วนตัวเล็ก ๆ ก็ปล่อยให้โตต่อไป
ขอบคุณภาพจาก https://www.sanook.com/money/543965/
ทางมะพร้าวนอกจากจะเป็นที่เกาะของหอยขมแล้ว ส่วนที่ผุ ๆ ก็ยังเป็นอาหารของหอยได้อีกด้วย นอกจากนี้หอยขมก็ยังกินตะไคร่น้ำที่เกาะตามทางมะพร้าวเป็นอาหารอีกทาง
นอกจากทางมะพร้าวแล้วเรายังสามารถใช้ยางรถจักรยานยนต์เก่า ๆ ใส่ในบ่อ เพื่อให้หอยไปเกาะได้อีกด้วย
1
เราสามารถเลี้ยงหอยขมร่วมกับปลากินพืช เช่น ปลานิล ปลาตะเพียนได้ โดยให้อาหารปลาตามปกติ ส่วนหอยก็จะกินเศษอาหารและมูลของปลาเป็นอาหาร
นับว่าเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย ไม่ต้องดูแลอะไรมาก สิ่งสำคัญที่ต้องระวัง คือ รักษาคุณภาพน้ำให้ดี อย่าให้น้ำเสีย โดยการเติมน้ำหมักจุลินทรีย์ (EM) เป็นระยะ ๆ
ศัตรูของหอยขมในช่วงวัยอ่อน คือ ปลาบางชนิด เช่น ปลาไหล ปลาดุก และพวกตะพาบน้ำ รวมถึงสารเคมีจากยาฆ่าแมลงหรือยาปราบศัตรูพืชที่ถูกชะล้างลงไปในแหล่งน้ำ
1
และถ้าน้ำตื้น นกบางชนิด เช่น นกปากห่าง ถือเป็นศัตรูสำคัญที่ต้องระวัง เพราะนกปากห่างสามารถกินได้ทั้งหอยขมตัวเล็กและตัวใหญ่ กินได้ในปริมาณเยอะ ๆ และมักหากินกันเป็นฝูง
ขอบคุณภาพจาก www.oknation.net/blog/plains-wanferer
การเลี้ยงหอยขมสามารถเลี้ยงได้หลายแหล่ง เช่น
📍บ่อดิน
โดยการปล่อยพันธุ์หอยขมที่มีขนาดโตเต็มที่ลงไปในบ่อ วิธีสังเกตว่าหอยยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ โดยสังเกตจากการนำหอยขมไปแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน ถ้าหอยขมคว่ำตัวติดกับภาชนะ แสดงว่ายังมีชีวิตอยู่
จากนั้นใส่ทางมะพร้าวหรือยางรถจักรยานยนต์ให้หอยได้เกาะ ให้อาหารปลาผสมรำข้าวหรือรำละเอียดปั้นเป็นก้อนก็ได้ อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ขึ้นอยู่กับปริมาณหอยที่ปล่อย
ส่วนมากหอยจะหาอาหารกินตามธรรมชาติในบ่อได้เองอยู่แล้ว จึงไม่ต้องให้อาหารมาก เพราะอาจทำให้น้ำเสียได้
📍กระชัง
ใช้การผูกกระชังไนล่อนตาถี่ในแหล่งน้ำเหมือนกับการเลี้ยงปลา โดยขอบบนอยู่เหนือน้ำประมาณ 20-30 ซ.ม. ถ้าขอบบนอยู่เหนือน้ำไม่มากจะทำให้หอยหนีออกจากกระชังได้
และอย่าให้ก้นกระชังถึงพื้นดินเพราะจะทำให้จมโคลน จัดการยาก
📍บ่อปูนหรือท่อซีเมนต์
ขอบคุณภาพจาก http://postnoname.com/how-to-farm-bitter-shells/
เหมือนก็บการเลี้ยงปลา คือ ต้องทำท่อไว้ระบายน้ำด้วย เพราะต้องมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำสม่ำเสมออย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง
ถ้าเป็นบ่อใหม่ต้องแช่น้ำ ใส่หยวกกล้วยทิ้งไว้อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อล้างสารเคมีที่ตกค้างและเป็นการปรับสมดุลในบ่อ
จากนั้นใส่ดินเหนียวที่ก้นบ่อ เติมน้ำประมาณครึ่งเมตร ถ้าน้ำประปาซึ่งมีคลอรีน ควรพักน้ำไว้ก่อนประมาณ 1 สัปดาห์
ควรใส่พืชน้ำ เช่น ผักตบชวาและเศษไม้ลงไปในบ่อด้วย เพื่อให้ซากพืชและตะไคร่ที่เกาะตามไม้เป็นอาหารของหอยด้วย
นอกจากนี้ยังมีการเลี้ยงหอยขมในเเหล่งอื่น ๆ เช่น ร่องสวน ในนา กระชังบก บ่อพลาสติก ซึ่งการจัดการก็คล้าย ๆ กัน
ราคาขายหอยขมทั้งเปลือกอยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 40 บาท ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดเพราะยังมีคนเลี้ยงกันน้อยและหอยขมตามธรรมชาติมีน้อยลงทุกวัน
ส่วนวิธีนำมาปรุงอาหาร เราต้องนำหอยมาแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน ให้หอยคายเศษดินและโคลนออกมา ถ้าจะแกงทั้งเปลือกต้องล้างเปลือกหอยให้สะอาด แล้วสับท้ายออก
เคล็ดลับความอร่อยก็อยู่ตรงความสนุกในการจุ๊บหอยนี่แหละ แกงทีไร หมดหม้อทุกที 😄😄
ขอบคุณภาพจาก https://youtu.be/1EGsW2yJytc
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้สนใจเลี้ยงหอยขมบ้างนะคะ ❤️❤️
โฆษณา