23 ก.พ. 2021 เวลา 08:16 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
พูดถึงนักแสดงจีน หวังเป่าเฉียง 王宝强 คนไทยคงจะเริ่มคุ้นหน้าเขาดีในบทแสดงนำจากหนังเรื่อง Lost in Thailand 泰囧(2012) ที่ทำให้ประเทศไทยโด่งดังและมีส่วนให้เกิดกระแส “จีนเที่ยวไทย” ตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา รวมถึงตอนนี้เขาก็มีผลงานแสดงนำอีกเรื่องหนึ่งที่กำลังฉายในโรงคือ Detective Chinatown 3 唐人街探案3 หนังจักรวาลนักสืบฟอร์มยักษ์ภาคที่ 3 ในบท คุณลุงถังเหริน ตัวโจ๊กสร้างเสียงฮาประจำเรื่อง...
แต่รู้อะไรมั้ย? เบื้องหน้าที่เราเห็นบทตลกเฮฮาของหวังเป่าเฉียงนั้น กว่าเขาจะมาเป็นนักแสดงตลกแถวหน้าค่าตัวร้อยล้าน(หยวน)ของจีนแบบวันนี้ได้ เค้าผ่านอะไรมาเยอะมากๆ
อะไรทำให้นักแสดงตลกที่ตัวก็เตี้ย แถมดูบ้านๆแบบเขา ขึ้นสู่จุดสูงสุดในอาชีพนักแสดง และยังเคยได้รับการโหวตให้เป็น 1 ใน 10 นักแสดงจากยุค 80 ที่ทรงอิทธิพลในวงการบันเทิงจีนแล้วด้วย?
นี่คือเรื่องราวล้มลุกคลุกคลานของเด็กบ้านนอกที่ปั้นตัวเองจากดินสู่ดาว จากกรรมกรสู่ Top Star หวังเป่าเฉียง...
#เด็กชายหวังผู้อยากเป็นจอมยุทธ์
หวังเป่าเฉียง(ต่อไปนี้เรียก “หวัง”) เกิดปี 1984 ในครอบครัวชนบทห่างไกล ที่มณฑลเหอเป่ยทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน
ตอนเด็กๆ หวังเหมือนเด็กผู้ชายยุค 80 ของจีนทั่วไปที่โตมากับหนังแอคชั่นกังฟู โดยหวังชอบ เจ็ตลี(Jet Li 李连杰) มาก โดยเฉพาะเรื่อง Shaolin Temple 少林寺(1982) ที่เจ็ตลีแสดงนำ แล้วมีการโชว์ศิลปะการต่อสู้ของกังฟูวัดเส้าหลินตลอดเรื่อง
Shaolin Temple(1982) แสดงนำ เจ็ตลี
หวังฝันว่าตอนโตอยากแสดงหนังแอคชั่นที่ใช้กังฟูจีนแบบที่ดูในทีวี...
พอหวังอายุได้ 8 ขวบเข้าโรงเรียนได้แล้ว เลยขอพ่อแม่อยากไปเรียนที่วัดเส้าหลิน ซึ่งพ่อแม่ก็ตอบตกลง!!! เพราะตอนนั้นพูดตามตรง บ้านของหวังค่อนข้างจน และค่าเรียนของโรงเรียนประจำในวัดเส้าหลินตอนนั้นที่ถือเป็นโรงเรียนรัฐก็ถูกมากๆ อีกทั้งยังเป็นโรงเรียนประจำ ที่พ่อแม่หวังจะสะดวกกว่าเพราะต้องไปทำงานรับจ้างที่ต่างเมือง... ด.ช.หวังเลยเริ่มต้น Kung Fu Dream ของเขาที่วัดเส้าหลิน ในเมืองไคเฟิง มณฑลเหอหนาน
หวังเคยเล่าในรายการทีวีตอนสัมภาษณ์ชีวิตวัยเด็กว่า...
“ตอนนั้นผมจำได้มาถึงวัดเส้าหลินวันแรก มีพระอาจารย์คนนึงถามว่าทำไมมาเรียนที่นี่? ผมตอบแบบซื่อๆไป ผมดูเรื่อง Shaolin Temple มา อยากมาเรียนกังฟู โตขึ้นจะไปแสดงหนัง ผมตีลังกาได้ด้วยนะครับ ดู!!! แล้วผมก็ไปทำตัวกลิ้งๆที่พื้นแบบภูมิใจ 555 คิดถึงตอนนั้นแล้วอายมากเลยครับ ทำไปได้ไงไม่รู้...”
2
ชีวิตการเรียนในวัดเส้าหลินไม่ง่ายแบบที่คิดเลย นักเรียนที่นี่ต้องตื่นนอนตี 5 ฝึกกังฟูอย่างเข้มข้นวันละ 8 ชั่วโมงในความดูแล(เคี่ยวเข็ญอย่างหนัก)ของพระอาจารย์ แล้วยังต้องเรียนวิชาทั่วไปแบบโรงเรียนปกติอีก เรียกว่าเป็นอะไรที่หนักหนาสำหรับเด็กเล็กๆที่ห่างไกลจากพ่อแม่แบบหวังมากๆ
“ต้องฝึกหนักมากครับ เดือนแรกนี่ปวดระบมไปทั้งตัวเลย เวลานอนแต่พลิกตัวยังเจ็บ เหงาก็เหงาครับ เดือนนึงโทรคุยกับที่บ้านครั้งเดียวไม่กี่นาทีด้วย แต่ก็ดีใจที่ผ่านมันมาได้”
มีเพื่อนรุ่นเดียวกับหวังไม่น้อยที่ขอลาออกจากโรงเรียนกลางคันเพราะทนกับการฝึก+การเรียนอย่างเข้มข้นแบบนี้ของวัดเส้าหลินไม่ได้ แต่หวังก็อดทนจนเรียนจนครบหลักสูตร 6 ปีของทางวัด ซึ่งวิชากังฟูที่เขาเล่าเรียนมาทั้งหมด 6 ปีรวมถึงการฝึกฝนตนเองอย่างเข้มงวดและอดทน ถือเป็นพื้นฐานสำคัญของอาชีพแสดงและเป็นใบเบิกทางสู่ดาวในอนาคตของเขาต่อไปเลยด้วย...
#ก้าวแรกสู่สังเวียนของตัวประกอบไร้ชื่อ
1
หลังเรียนจบจากวัดเส้าหลิน หวังที่อายุ 15 ปี ตัดสินใจเดินตามความฝัน ไปเสี่ยงดวงเป็นนักแสดงหนังแอคชั่นที่เมืองหลวงปักกิ่ง หวังขอเงินที่บ้านมา 500 หยวนแล้วนั่งรถเดินทางไปปักกิ่งคนเดียวครั้งแรก...
เหมือนกับคนธรรมดาที่ฝันอยากเป็นดาราในจีนเวลานั้น...ตั้งแต่เช้ามืดตี 4 หวังต้องไปเข้าคิวรอหน้า “โรงถ่ายหนังกรุงปักกิ่ง” 北京电影制片厂 เพื่อรอกองถ่ายมาคัดตัว(Recruit)นักแสดงตัวประกอบหน้าโรงถ่ายในตอนเช้า ซึ่งทุกวันก็จะมีคนหลั่งไหลมาเสี่ยงโชคแบบหวังหลักร้อยถึงพัน
1
บทส่วนใหญ่ที่เค้ามาคัดตัวจะเป็นพวกหน้าม้าตัวประกอบที่ไม่ต้องโชว์หน้าหรือไม่ต้องพูดในหนัง เช่น บทชาวบ้าน ทหาร คนรับใช้ ผู้ติดตาม คนมุง ฯลฯ แล้วด้วยความที่หวังตัวเตี้ย บทตัวประกอบแบบเดียวกันที่คนอื่นได้ค่าแรง 20 หยวนต่อวัน หวังจะโดนกดเหลือเพียง 15 หยวน...
1
แน่นอน งานแสดงก็ไม่ได้มีทุกวัน วันไหนไม่มีงานแสดง หวังก็จะไปตระเวนหาไซต์งานก่อสร้างเพื่อไปรับจ้างทำงานแบกหาม ค่าแรงต่อวันก็จะได้ 25 หยวน
ต้องบอกว่าชีวิตในปักกิ่งที่หวังเจอต่างกับที่ฝันไว้ราวฟ้ากับเหว เป็นประจำที่เงินที่หามาจะชักน้าไม่ถึงหลัง หวังต้องเช่าหอพักแคบๆเท่ารูหนูที่ถูกที่สุดและห่างไกลย่านชานเมือง การอดมื้อกินมื้อเป็นเรื่องปกติของทุกวัน หลายปีเลยที่ตรุษจีนหวังไม่ได้กลับบ้านเกิด เพียงเพราะไม่มีเงินค่ารถกลับบ้าน...แต่หวังก็ไม่กล้าบอกที่บ้าน
1
#ถ้าไม่สำเร็จผมจะไม่กลับบ้าน
จนปีที่สามในปักกิ่ง ตอนนั้นหวังลำบากที่สุด งานแสดงไม่มีเลย งานรับจ้างอะไรก็หาไม่ได้ ไม่มีเงินเหลือติดตัวสักแดงเดียว หวังเลยต้องขอยืมโทรศัพท์จากคนใจบุญโทรขอเงินที่บ้านเป็นครั้งแรก...
แล้วที่บ้านก็รีบส่งเงินมาให้พร้อมจดหมาย 1 ฉบับจากพ่อ
“ตอนนั้นพ่อผมส่งเงินมาให้ 300 หยวนครับ แล้วมีจดหมายมาด้วย เนื้อความเขียนให้ผมใช้จ่ายอย่างประหยัดนะ พ่อรู้ว่าลูกลำบากมากช่วงนี้ เงินจำนวนนี้ถึงไม่มาก แต่ก็เป็นทั้งหมดที่พ่อพอจะหามาให้ได้ จะโทษก็โทษที่พ่อกับแม่เองมันไม่ได้เรื่อง เลยทำให้ลูกทุกคนสุขสบายไม่ได้...ผมอ่านถึงตรงนั้นน้ำตาก็ไหลไม่หยุดเลยครับ แบบหยดลงบนจดหมายจนเปียกชุ่ม ผมอ่านมัน...อ่านแล้วอ่านอีก อ่านไปร้องไห้ไป แล้วก็ขดตัวนอนซึมอยู่ในผ้าห่มทั้งวันไม่ออกไปไหน...”
1
คำพูดของพ่อในจดหมายจุดไฟในใจหวังให้กลับมาลุกโชนอีกครั้ง
หวังสาบานกับตัวเองว่า...ถ้าไม่สำเร็จหรือมีผลงานอะไรให้ที่บ้านภูมิใจ จะไม่ขอแบกหน้ากลับไปให้พ่อแม่เห็นอีก!
แล้วในที่สุด โอกาสของหวังก็มาถึง
ผู้กำกับหนังเรื่อง Blind Shaft 盲井(2003) ต้องการแคสนักแสดงหน้าใหม่มารับบทเป็นหนุ่มบ้านนอกจากชนบทที่ร่อนเร่มาทำงานในเมืองใหญ่ ซึ่งหวังก็ไปแคสบทและได้รับบทแสดงแบบเห็นหน้าและมีบทพูดจริงจังเป็นครั้งแรก
บทตัวประกอบนำบทแรกที่ หวังเป่าเฉียง ได้รับใน Blind Shaft(2003)
หวังตั้งใจและทุ่มเต็มร้อยกับบทที่ได้รับมาก ซึ่งคาแรคเตอร์ที่เป็นคนใสซื่อแต่จริงใจของเขาก็สอดรับกับบทตัวละครในเรื่องได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ ตัวละครที่หวังเล่นกลายเป็นตัวละครที่เรียกน้ำตาจากผู้ชมอย่างล้นหลาม...
ส่งผลให้ในปี 2003 หวังได้รับรางวัล “นักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม” จากงานประกาศรางวัลม้าทองคำครั้งที่ 40 ที่ไต้หวัน (40th Golden Horse Award 第四十届台湾电影金马奖) นี่ถือเป็นความสำเร็จครั้งแรกที่ยิ่งใหญ่มากๆสำหรับหวัง หลัง 4 ปีที่ระเห็ดร่อนเร่อยู่ที่ปักกิ่งอย่างยาวนาน และเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความตั้งใจและพยายามทั้งหมดที่หวังได้ทุ่มเทมานั้นคุ้มค่า แถมเล่นเรื่องแรกก็ได้รางวัลเลย!
แต่แล้ว...อนาคตที่สดใสก็ยังไม่มาถึง
หลังงานมอบรางวัล ชื่อของหวังอยู่หน้าสื่ออยู่สามสี่วัน จากนั้นก็เงียบหายไปตามกาลเวลา ไม่ได้ดังเปรี้ยงปร้างแบบที่คาดไว้แต่อย่างใด หวังยังคงต้องกลับไปทำงานไซต์งานก่อสร้างและรับบทตัวประกอบในโรงถ่ายอยู่ เพื่อประทังชีวิตตามเดิม
#ไฟแห่งความสำเร็จจุดติด
จนครึ่งปีผ่านไป โอกาสที่เปลี่ยนชีวิตหวังครั้งใหญ่โตในที่สุดก็มาถึง... เมื่อผู้กำกับจีนชื่อดัง เฝิงเสี่ยวกัง 冯小刚 ได้มาทาบทามหวังให้มารับบทตัวประกอบในหนังฟอร์มยักษ์เรื่อง A World without Thieves 天下无贼(2005) ที่แสดงนำโดยซุปเปอร์สตาร์แนวหน้า หลิวเต๋อหัว หลิวโจอิง หลี่ปิงปิง รวมถึงนักแสดงจีนแถวหน้าอีกคับคั่ง
A World without Thieves(2005) โดยผู้กำกับ เฝิงเสี่ยวกัง
ด้วยคาแรกเตอร์เฉพาะตัวที่สะท้อนความเป็นหนุ่มใสซื่อสู้ชีวิตจากชนบท มีการเรียกเสียงหัวเราะจากผู้ชมเป็นระยะๆ ขณะเดียวกันก็สร้าง Contrast ให้จดจำด้วยบทของคนชายขอบที่ถูกสังคมกระทำ
หวังเป่าเฉียงกับการตีบทแตกและสร้างชื่อเสียงให้เป็นที่จดจำ
หลังหนังเรื่องนี้ฉาย ชื่อของหวังเป่าเฉียงก็เริ่มเป็นที่กล่าวถึงอย่างจริงจัง คนจดจำหวังได้มากขึ้น มีการจัดตั้งกลุ่มแฟนคลับของหวัง และเขาได้เริ่มไปโชว์หน้าผ่านสื่อและมีการถ่ายปกขึ้นนิตยสาร ถือว่าไฟแห่งความสำเร็จของหวังในที่สุดก็จุดติดแล้ว!!!
งานแสดงเริ่มหลั่งไหลเข้ามาหาหวังเรื่อยๆ ทั้งงานหนังงานซีรี่ย์ เขาเริ่มได้รับบทที่ได้ใช้วิชากังฟูที่เขาร่ำเรียนมาจากวัดเส้าหลินในซีรี่ย์สงครามเรื่อง Soldier Sortie 士兵突击 (2006) ที่รับบทเป็น พลทหาร ที่เชี่ยวชาญวิชากังฟู หรือบทแสดงนำในซีรี่ย์รักชาติแนวตลกเรื่อง My Brother Name’s is 我的兄弟叫顺溜(2009) ที่ในเรื่องหวังต้องเล่นเป็นทหารที่มีคาแรคเตอร์โปกฮา แต่ก็รักใช้ชาติยิ่งชีพ
ครั้งแรกในบทบาทตลก+แอคชั่นที่หวังเป่าเฉียงได้ใช้วิชากังฟูที่เรียนมาในซีรี่ย์ Soldier Sortie(2006)
ซึ่งในปี 2007 หวังได้รับการโหวตให้เป็น 1 ใน 10 นักแสดงยุค 80 (ปีเกิด) ที่ทรงอิทธิพลที่สุดของจีน
#สู่ท๊อปสตาร์ดาวตลกสายบู๊
ในปี 2011 เมื่อค่าตัวแสดงหนังต่อเรื่องของหวังอยู่ที่หลัก 20-30 ล้านหยวน หวังก็สร้างความฮือฮา เมื่อไปรับบทแสดงนำในหนัง Art ทุนต่ำไม่ถึงล้านหยวนเรื่องหนึ่ง คือ Mr.Tree (Hello 树先生)(2011) โดยหวังเคยให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องดังกล่าวนำเสนอปรัชญาของการใช้ชีวิตและตีแผ่การพัฒนาชนบทจีน ซึ่งเป็นบทที่หวังอยากเล่นมานาน เรื่องค่าตัวเขาไม่สนใจเลย
ผลงานกวาดรางวัลจากนักวิจารณ์หนังทั่วโลกกของหวังเป่าเฉียง Mr. Tree(2011)
และด้วยเรื่อง Mr. Tree หนังทุนต่ำนี้เอง กลับทำให้หวังได้รับรางวัล “นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม” ถึง 5 สาขาจากนักวิจารณ์หนังในเวทีรางวัลภาพยนตร์ทั้งจีนและนานาชาติ เป็นครั้งแรกที่มีการขานชื่อ หวังเป่าเฉียง ในเวทีระดับโลก
...ซึ่งนี่ก็ปูทางให้หวังมาถึงจุดพีคสูงสุดที่คนจีนทั้งวัยเด็ก-ผู้ใหญ่รู้จักหวังทั่วโลกในปี 2012 ก็คือบทของ หวังโป ไอ้หนุ่มผู้ฝันว่าสักครั้งจะมาเที่ยวเมืองไทยใน Lost in Thailand 泰囧(2012) ซึ่งหนังเรื่องนี้ หวังได้แสดงกับอีก 2 นักแสดงตัวท๊อปเจ้าบทบาทคือ สวีเจิง 徐峥 และหวงป๋อ 黄渤 เรียกว่าเรื่องนี้คาแรคเตอร์ตลกแต่จริงใจของหวังสร้างชื่อเสียงให้หวังไปอยู่บนจุดสุดยอดของบทดาวตลกแห่งวงการ และค่าตัวก็พลิกจากหลักสิบล้านเป็นร้อยล้านหยวน เลยทีเดียว!!!
หวังเป่าเฉียง ใน Lost in Thailand(2012) หนังที่ปลุกกระแสจีนเที่ยวไทย!!!
แล้วในปี 2014 ก็เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นฝีไม้ลายมือด้านกังฟูที่หวังเล่าเรียนและหมั่นฝึกฝนมาอย่างจริงจัง ในหนังแอคชั่นไซไฟฟอร์มยักษ์ Ice Man 冰封: 重生之门(2014) ที่หวังเป่าเฉียงรับบทเป็นตัวร้ายและได้ปะทะฝีมือด้านกังฟูอย่างดุเดือดกับ สุดยอดซุเปอร์สตาร์แอคชั่น ดอนนี่ เยน(Donnie Yen 甄子丹)!!!
ครั้งแรกที่ ดอนนี่เยน มาปะทะ หวังเป่าเฉียง!!! ใน Ice Man(2014)
นี่เป็นอีกครั้งที่ทำให้แฟนๆหนังทั่วโลกถึงกับร้องว้าว ที่ฝีมือกังฟูของหวังไม่ได้ด้อยเลย เพราะหลายๆฉากต่อสู้ ไม่มีการใช้สตั๊นท์! หวังเล่นเองเกือบหมด
1
ปี 2015 หวังก็เปิดจักรวาลหนังนักสืบแห่งไชน่าทาวน์ที่กรุงเทพ ใน Detective Chinatown 唐人街探案 โดยแสดงนำคู่กับนักแสดงหนุ่มหล่อ หลิวเฮ่าหราน 刘昊然 ในบทคุณลุง ถังเหริน เชอร์ล๊อคโฮลม์เซินเจิ้น ผู้มาพร้อมความฮา แต่ก็เป็นสายแอคชั่นพร้อมปะทะกับเหล่าวายร้ายแห่งไชน่าทาวน์ และมีนักแสดงบู๊แอคชั่นไทย จา พนม ในบทสารวัตร แจ๊ค จา มาแจมในจักรวาลหนังนักสืบนี้ด้วย!
ตามมาด้วยภาคต่อ Ice Man :The Time Traveller 冰封 : 时空行者(2018) ที่ครั้งนี้หวังพลิกจากตัวร้ายมาเป็นคู่หูของดอนนี่เยนในเรื่อง ซึ่งใน Ice Man ทั้ง 2 ภาค...หวังตีบทแตกทั้งส่วนของแอคชั่นและบทตลกได้เป็นที่จดจำในใจผู้ชมได้เป็นอย่างดี
ตามมาด้วยปีเดียวกัน หวังก็กลับมาอีกครั้งกับบทลุงนักสืบสายฮา ใน Detective Chinatown 2 唐人街探案 2 (2018) ที่ครั้งนี้ใช้ฉากหลังของเรื่องราวคือที่ นิวยอร์ค
แล้วในปีนี้จักรวาลหนังนักสืบ Detective Chinatown 3 唐人街探案 3 (2021) หรือชื่อไทย “แก๊งป่วนม่วนโตเกียว” แน่นอนว่าหวังในบท คุณลุงถังเหริน จะต้องกลับมาเพื่อสร้างประวัติการณ์ใหม่ๆให้เกิดขึ้นในวงการภาพยนตร์จีนอีก และยังมี จา พนม มาแจมเช่นเคย
ซึ่งล่าสุดหนังเรื่อง Detective Chinatown 3 ที่หวังแสดงนำ...ก็กวาดรายได้เฉพาะในจีนไปแล้วกว่า 4,000 ล้านหยวน(ราว 19,000 ล้านบาท) โดยหนังเรื่องนี้กำลังฉายในจีนและหลายประเทศอยู่ และคาดการณ์ว่าหลังจากหนังออกโรงแล้ว น่าจะทำรายได้ทั่วโลกรวมๆอย่างต่ำก็ 5,000 ล้านหยวน(ราว 24,000 ล้านบาท)
2
คิดดู!!! จากเด็กคนนึงรูปไม่หล่อ พ่อไม่รวย หน้าไม่หล่อ ตัวไม่สูง
แต่ไต่เต้ากว่า 10 ปี สร้างชื่อ จนได้มาเล่นหนัง 5 พันล้านได้
ถามว่าโชคช่วยเหรอ? ไม่ใช่!!!
แต่เพราะความทุ่มเท, สามารถและใจล้วนๆ สุดยอดมั้ย?
เมล็ดพันธุ์ที่หว่านในวันนี้
เราไม่มีวันรู้ได้เลยว่าจะเติบใหญ่เป็นต้นสูงหรือไม่...
ถ้าเราไม่อดทนดูแลมันให้ถึงวันนั้น
“เราเลือกเกิดไม่ได้
สิ่งที่ฝันไว้อาจไม่สมหวัง
แต่ใครจะรู้ว่าทำได้มั้ย
ถ้าชีวิตยังไม่ลองทุ่มเทดูสักครั้ง”
...นี่น่าจะเป็นออร่าที่ดาวตลกสายบู๊แบบ หวังเป่าเฉียง เปล่งประกายออกมาให้เราเห็น...
อย่าหยุดฝัน...
Fight for Dream
ดินก้อนนี้จะเปล่งประกายจนแสบตาทั้งกาแลคซี่!!!
Cr. แปลและเรียบเรียงจาก Youtube - 锦鲤娱塘
โฆษณา