24 ก.พ. 2021 เวลา 13:26 • ไลฟ์สไตล์
Sustainable fashion สวยมีสไตล์แต่ไม่ทำร้ายโลก
ประเด็นด้านรักษ์โลกไม่ได้สะเทือนเฉพาะอุตสาหกรรมใหญ่ๆ อย่างอุตสาหกรรมโรงงาน หรืออุตสาหกรรมรถยนต์เพียงเท่านั้น ที่ต้องหันมาปรับตัวกันอย่างลุกลน แต่เชื่อหรือไม่ว่าอุตสาหกรรมแฟชั่นสร้างผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อมมากเป็นอันดับ 2 ของโลก!
Fast Fashion ตัวการร้ายทำลายโลก
‘ชุดนี้ใส่ไปแล้ว ใส่อีกไม่ได้’
‘ชุดนี้ใส่ถ่ายรูปไปแล้วนี่’
‘เธอไม่มีเสื้อผ้าแบบอื่นเลยหรอ แบบนี้มันไม่มีใครนิยมใส่แล้วนะ’
คำพูดที่ใครหลายๆคนอาจจะเคยพูดกับตัวเอง หรือมีคนกล่าวถึงเสื้อผ้าที่ “ใส่ซ้ำ” แล้วทำให้กลายเป็นว่าเครื่องซักผ้าที่บ้านอาจไม่ได้ทำหน้าที่ของมันเองอีกต่อไป
ทุกวันนี้อายุการใช้งานเสื้อผ้าของเรานั้นสั้นลงไปเรื่อยๆ จนอาจเรียกได้ว่า “ใช้แล้วทิ้ง” ก็เป็นได้ ซึ่งเป็นผลพวงของ Fast Fashion ที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน ที่กว่าจะรู้ตัวอีกทีของอาจสายไปเสียแล้ว
Fast fashion คืออะไร
Fast fashion คือ เสื้อผ้าหรือสินค้าแฟชั่นต่างๆที่ถูกผลิตออกมาด้วยต้นทุนที่ต่ำในปริมาณมาก เพื่อตอบสนองเทรนด์ที่มาไวไปไว ที่ผู้ซื้อต้องการซื้อมากๆ เพื่อใส่ไม่กี่ครั้งก็ทิ้งและไปซื้อใหม่ แต่เบื้องหลังแฟชั่นที่สวยงามอาจไม่สวยอย่างที่คิด เพราะนอกจากจะไม่แฟร์ต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังไม่แฟร์กับคุณภาพชีวิตของแรงงาน หรือแม้แต่ตัวผู้สวมใส่เองด้วย
อุตสาหกรรมแฟชั่น กำลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้นกับผลกระทบที่มีต่อโลกใบนี้ ในขณะที่อุตสาหกรรมแฟชั่นเติบโตอย่างต่อเนื่อง ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นกับสภาพแวดล้อมก็ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น แม้กระทั่งนักออกแบบแฟชั่นชาวอังกฤษอย่าง Phoebe English ยังบอกว่าอุตสาหกรรมนี้เป็น “อุตสาหกรรมที่ใช้แล้วทิ้งอย่างมหึมา” ในช่วง London Fashion Week ก็ได้มีการตรวจสอบหลักฐานที่รวบรวมไว้ในการสอบสวนของคณะกรรมการตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวกับ Fast Fashion
รูปภาพจาก https://www.thenationalnews.com/lifestyle/comment/i-can-t-quit-fast-fashion-as-a-student-but-i-can-change-how-i-shop-1.962849
เสื้อผ้าก็ทำมาจากใจธรรมชาตินี่ จะทำร้ายโลกได้อย่างไร
กระบวนการผลผลิตเสื้อยืดจากผ้าฝ้าย 1 ตัว ต้องใช้น้ำกว่า 2,700 ลิตร ซึ่งเป็นปริมาณน้ำที่ร่างกายมนุษย์ต้องการสำหรับ 2-3 ปีเลยทีเดียว ซึ่งฝ้ายเป็นพืชที่ต้องใช้น้ำในปริมาณที่สูงมากในการปลูก โดยต้องใช้น้ำจืดถึง 85% ของปริมาณการใช้ทั้งหมดในการปลูกฝ้าย แต่คนอินเดียกว่า 100 ล้านคนกลับไม่สามารถเข้าถึงน้ำดื่มได้
นอกจากนี้กระบวนการฟอกย้อมสีผ้า ต้องใช้สารเคมีและน้ำจำนวนมหาศาลในการลงสีผ้า ซึ่งผลกระทบจากกระบวนการนี้ทำให้น้ำสะอาดนั้นปนเปื้อน และปล่อยลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติแบบควบคุมไม่ได้เลย
นอกเหนือจากฝ้ายแล้ว เสื้อผ้าส่วนใหญ่ในท้องตลาดนิยมใช้เส้นใยสังเคราะห์ หรือที่เรียกว่าเส้นใยโพลีเอสเตอร์ทำมาจากพลาสติก เนื่องจากเป็นต้นทุนที่ถูกกว่า มาใช้ในการผลิตเสื้อผ้าราคาถูกมากมายที่เราเห็นกันเกลื่อน รู้หรือไม่ว่าต้องใช้เวลาถึง 1,000 ปีในการย่อยสลาย แถมยีงปล่อยไมโครพลาสติกลงสู่แหล่งน้ำทุกครั้งที่เราซักผ้า นับว่าไม่ต่างจากการใช้พลาสติกทั่วไปในชีวิตประจำวันเลย
หากพูดถึงมลพิษทางอากาศนั้น คงปฏิเสธไม่ได้ว่าวงการแฟชั่นมีส่วนร่วมในการผลิตก๊าซเรือนกระจก (greenhouse gas) ถึง 8% และหากสิ่งนี้ยังคงสืบเนื่องต่อไปถึงปี 2050 งบของคาร์บอนจากทั้งโลกจำนวนมากกว่า 25% จะไปรวมอยู่ในอุตสาหกรรมแฟชั่น เนื่องจากโรงสี (สถานที่ที่ปั่นเส้นใยให้กลายเป็นเส้นด้ายและทอเส้นด้ายเหล่านั้นให้กลายเป็นผ้า) ปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นต์มากกว่า 75% จากกระบวนการผลิตเสื้อผ้า
Collection ใหม่มาแล้ว Collection เก่าไปไหน?
กระแสแฟชั่นที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วชนิดที่ตั้งตัวไม่ทัน ทำให้อายุการใช้งานเสื้อผ้าของเรานั้นสั้นลงทุกที โดยทั่วโลกสูญเสียเม็ดเงินราว 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการผลิตเสื้อผ้าออกมาแล้วไม่ได้ถูกใช้งานและระบบการรีไซเคิลเสื้อผ้าที่ล้มเหลว
2
ทุกๆปีมีกองเสื้อผ้ามหึมาที่มีมูลค่าราว 140 ล้านปอนด์ จากสหราชอาณาจักร ถูกนำไปทิ้งที่หลุมฝังกลบ ซึ่งเสื้อผ้าหลายตัวยังไม่เคยถูกใช้งานด้วยซ้ำ ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อม (the Environmental Audit Committee) ได้ตรวจสอบแล้วพบว่า มีเสื้อผ้าแฟชั่นร้อยละ 15 กลายเป็นขยะในขั้นตอนสุดท้ายของการผลิต ก่อนที่จะนำไปวางจำหน่าย
โดยเสื้อผ้าเก่า และของเสียจากอุตสาหกรรมแฟชั่นเหล่านี้ถูกโยนทิ้งในพื้นที่เปล่า หรือ พื้นที่ฝังกลบ มากกว่า 10 ล้านตันต่อปี ซำ้ไปกว่านั้นของเสียเหล่านี้ถูกนำไปรีไซเคิลไม่ถึง 10%
รูปภาพจาก https://medium.datadriveninvestor.com/how-fast-fashion-is-suffocating-our-wardrobes-and-our-planet-737c93b7d94a
Sustainable fashion คืออะไร และเข้ามามีบทบาทได้อย่างไร?
เมื่อก่อนเสื้อผ้าตัวเก่าของเรา อาจเป็นชุดตัวเก่งที่เราใช้จนเปื่อย ย้วย ซีดกันเลยทีเดียว แต่ทุกวันนี้ยังไม่ทันได้ซักมาใช้ซ้ำก็อาจต้องทิ้งไปเสียแล้ว เพราะกระแสแฟชั่นที่มาแรงจนทำให้เราต้านแรงดึงดูดจากกระแสเหล่านี้ไม่ไหว
Sustainable fashion หรือแฟชั่นแบบยั่งยืน เป็นกระแสของอุตสาหกรรมแฟชั่นที่รักษ์โลกมากยิ่งขึ้น นับตั้งแต่กระบวนการเลือกสรรเส้นใยมาถักทอเสื้อผ้า การออกแบบ กระบวนการผลิตภายในโรงงาน ตลอดจนการใช้แรงงานของมนุษย์
กระแสของ sustainable fashion เกิดขึ้นมาเพื่อชี้ให้เห็นถึงปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่ได้รับผลกระทบจากอุตสาหกรรมการผลิตเสื้อผ้า รวมถึงกระบวนการทางเกษตรที่อาจมีการใช้ยาฆ่าแมลงในการปลูกพืชเส้นใยธรรมชาติ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อคนและสัตว์อีกด้วย
แน่นอนว่าแบรนด์เสื้อผ้าต่างๆ หลากหลายแบรนด์ก็ให้ความสนใจกับเทรนด์แฟชั่นแบบยั่งยืนกันมากขึ้น แชะได้ออกแบบเสื้อผ้าและสินค้าให้สอดคล้องกับเทรนด์นี้ เพื่อตีตลาดกลุ่มแฟชั่นนิสต้าสายรักษ์โลกกันมากมาย ตัวอย่างเช่น Levi’s, H&M Conscious, Polo Ralph Lauren, Patagonia, Columbia เป็นต้น และแน่นอนว่าที่ไทยก็มีแบรนด์รักษ์โลกกับเขาเหมือนกัน เช่น Dry Clean Only, Renim Project, Repleat, Rubber Killer, SackItem เป็นต้น
1
รูปภาพจาก https://www.futurebrand.com/news/2019/its-time-for-fashion-brands-to-stop-playing-it-safe-and-lead-the-charge-in-sustainability
Sustainable fashion ใช่ทางแก้ปัญหาทางเดียวหรือไม่?
การแก้ปัญหา Fast fashion นั้นไม่จำเป็นต้องซื้อเสื้อผ้าที่ออกแบบมาเพื่อ sustainable fashion เพียงอย่างเดียว เราสามารถเริ่มได้ที่การหันกลับไปดูที่ตู้เสื้อผ้าของเราว่าเสื้อผ้าเหล่านั้นสามารถนำมาทำอะไรได้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นการ D.I.Y การนำมาซ่อมแซมใหม่ หรือการนำมา mix and match ก็ทำให้เราได้ใส่เสื้อผ้าแบบใหม่ๆได้ไม่ซ้ำใครเช่นเดียวกัน
ทว่าหนึ่งในทางออกของปัญหาสามารถเริ่มได้ง่ายๆ คือ การลดการซื้อความจำเป็น หรือ Overconsumption หรืออย่าซื้อในราคาที่ถูกเกินจริง เพียงเพราะอยากใส่เพียงไม่กี่ครั้งก่อนจะทิ้งในวันที่ตกเทรนด์
บางคนมีเสื้อผ้าจนล้นตู้ แต่ไม่เคยเจอตัวที่ใช่ และมีความสุขในการสวมใส่เสื้อผ้าเหล่านั้นจริงๆ จะดีกว่าไหม ถ้าเราไม่ต้องไปคว้าอะไรที่ไม่เหมาะกับตัวเอง หรือวิ่งตามเทรนด์ที่ไม่มีวันสิ้นสุด เพราะเสื้อผ้าทุกตัวมีราคาที่ต้องจ่ายมากกว่าที่ตาเห็น!
กลับมา reuse เสื้อผ้าตัวเก่งของเรากันเถอะค่ะ แล้วคุณจะรู้ว่าไม่มีอะไรที่มีความสุขไปกว่าการเป็นตัวเองอีกแล้ว ซึ่งสิ่งเหล่านี้เริ่มต้นจากการสวมใส่เสื้อผ้าที่รู้สึกมั่นใจ จะทำอะไรก็ดูดี ไม่มีสะดุดแน่นอน
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านบทความดีๆ และอย่าลืมกดติดตามเพจเพื่อไม่พลาดทุกเนื้อหาและเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ
โฆษณา