24 ก.พ. 2021 เวลา 01:39 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
รายการ Vaccine #เสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางความคิด
ตอนที่ 30 พลังจิตมีอยู่จริงหรือไม่? (ในมุมมองของวิทยาศาสตร์)
ลัทธิหรือกลุ่มความเชื่อบางอย่าง มีความเชื่อว่า คนบางคนสามารถรับรู้เหนือประสาทสัมผัสร่างกายอย่างการการเห็น ได้ยิน รสชาติ กลิ่น และการรับสัมผัสได้ ในภาษาอังกฤษเรียกว่า ESP ย่อมาจาก extrasensory perception ส่วนภาษาไทยเองก็อาจจะใช้คำว่า สัมผัสที่หก หรือ เรียกรวมๆว่า พลังจิต ซึ่งบางครั้งก็มีการแบ่งออกเป็นความสามารถด้านอื่นๆมากมายแล้วแต่ความเชื่อ เช่น ย้ายสิ่งของวัตถุจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้ในพริบตา , ยกหรือเคลื่อนวัตถุให้ลอยได้โดยไม่ใช้ความสามารถกายภาพ , ติดต่อพลังงานหรือวิญญาณได้ , มองเห็นอดีตกาลหรืออนาคต ,มองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในระยะไกลมากๆหรือมองทะลุวัตถุ, ควบคุมความคิดคนอื่นๆได้ , รับรู้ความคิดของคนอื่นๆได้ และมีบางส่วนเชื่อว่าพลังจิตรักษาโรคได้
คุณ James Randi เคยเป็นนักมายากลผู้มีชื่อเสียงเกี่ยวกับการหลบหนีจากเครื่องพันธนาการ แต่ภายหลังเขาอุทิศชีวิตไปกับการเปิดโปงเรื่องพลังเหนือธรรมชาติต่างๆมากมาย เขาแสดงให้เห็นว่าคนกลุ่มนี้บางทีก็ใช้เทคนิคคล้ายนักมายากลและเทคนิคเชิงจิตวิทยามาทำให้ผู้คนจำนวนมากหลงเชื่อ ตั้งแต่เทคนิคเรียบง่ายจนถึงซับซ้อน
James Hydrick ผู้ที่แสดงให้เห็นว่าสามารถขยับดินสอที่วางไว้บนขอบโต๊ะให้หมุนได้ รวมทั้งพลิกสมุดโทรศัพท์ได้ ด้วยพลังเคลื่อนย้ายสิ่งของ
James Randi ท้าว่าถ้าพลังจิตเคลื่อนย้ายของมีจริง เขาจะจ่ายเงินให้มนุษย์พลังจิตเป็นรางวัล 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเขาเชื่อว่าพลังดังกล่าวเกิดจากการแอบเป่าลมออกมาใส่ดินสอหรือสุดโทรศัพท์อย่างเนียนมากๆ วิธีการทดสอบพลังนี้ด้วยวิธีที่เรียบง่าย นั่นคือ ท้าให้มนุษย์พลังจิตพลิกสมุดโทรศัพท์ แต่ในครั้งนี้ Randi เอาพลาสติกสีขาวๆชิ้นเล็กๆจำนวนมากมาโปรยไว้รอบสมุดโทรศัพท์ ซึ่งพลาสติกดังกล่าวปลิวได้ง่ายมากถ้าโดนลมเป่า แน่นอนว่าการทดสอบนี้จะช่วยให้เห็นได้ชัดขึ้นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากอะไรกันแน่
คราวนี้มนุษย์พลังจิตคนนั้นไม่สามารถแสดงพลังได้ โดยเขาอ้างว่าพลาสติกหรือชิ้นโฟมที่กระจายอยู่รอบๆนั้น มีประจุไฟฟ้ามากดหน้ากระดาษไม่ให้พลิก
James Randi ใช้การควบคุมตัวแปรอย่างเรียบง่ายนี้กับมนุษย์พลังจิตอีกมากมายหลายคน และคนเหล่านี้ไม่สามารถแสดงพลังออกมาให้เห็นได้ จนภายหลังเขาได้ตั้งรางวัลไว้สูงถึง1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับผู้ที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าพลังเหนือธรรมชาติในรูปแบบต่างๆมีอยู่จริง ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครผ่านการทดสอบที่รัดกุมไปได้แม้แต่คนเดียว
ประเด็นที่นักวิทยาศาสตร์มักจะเน้นย้ำเสมอคือ การใช้พลังจิตอย่างการทายใจหรือการทายหน้าไพ่ที่ปิดคว่ำไว้ นั้น การทายถูกไม่ได้แปลว่าคนๆนั้นมีพลังจิตจริง การวิเคราะห์ผลจึงต้องเก็บข้อมูลอย่างครอบคลุมทั้งตอบถูกและตอบผิด ตอนที่แสดงพลังได้และแสดงไม่ได้ แล้วจึงวิเคราะห์อย่างตรงไปตรงมาที่สุด
นอกจากนี้การควบคุมปัจจัยแวดล้อมไม่ให้ส่งผลยังเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการพิสูจน์ข้อเท็จจริงมากๆ
การทดสอบโดยใช้ Zener cards ซึ่งเป็นไพ่ที่มีสัญลักษณ์แตกต่างกัน 5 แบบ ได้แก่ วงกลม , เครื่องหมายบวก , โค้งลอนคลื่น , สี่เหลี่ยมจัตุรัส และ ดาวห้าแฉก ซึ่งแยกแยะออกจากกันได้ง่ายและชัดเจน
การทดลองคือสับไพ่แล้วให้คนหนึ่งดูไพ่ว่าเป็นหน้าอะไร จากนั้นพยายามส่งกระแสจิตให้อีกคนที่ไม่ได้เห็นไพ่ทายว่าไพ่ออกหน้าอะไร ผู้ทำการทดลองบางคนตีความว่าโอกาสทายถูกแบบเดาสุ่มคือ 1 ใน 5 หรือ 20 % ดังนั้นผู้ที่สามารถตอบถูกได้มากกว่า 20 % ย่อมเป็นหลักฐานที่แสดงถึงพลังจิต! ทั้งที่จริงๆ การทายถูกมากกว่า 20 % นั้นมีโอกาสเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว
รายการในตอนนี้ผมจะเล่าให้ฟังถึงการศึกษาพลังจิตในมุมของนักวิทยาศาสตร์เพื่อให้ทุกท่านได้เห็นภาพกว้างที่สุดและมีความเข้าใจในเรื่องนี้มากที่สุดครับ
[ช่องทางรับฟัง]
anchor
spotify
youtube
หรือค้นคำว่า Vaccine ในแอปพลิเคชัน podcast
สนับสนุนรายการโดย กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
โฆษณา