23 ก.พ. 2021 เวลา 16:02 • หุ้น & เศรษฐกิจ
#Mikka แบรนด์ร้านกาแฟของ After You [ยู ศิระ]
ร้านกาแฟ “มิกก้า” เป็นความหวังใหม่ของ After You
ธุรกิจนี้เริ่มมาจาก pain point ของร้าน After You นั่นก็คือ..
www.facebook.com/HappyWithYuSira
1. ต้นทุนค่าเช่า กับค่าจ้างพนักงาน ต่อสาขาสูง
เพราะ After You เลือกแต่ที่ทำเลทอง มีคนผ่านไปมาเยอะ
รวมถึงขนาดพื้นที่ๆ ต้องรองรับลูกค้าให้ได้ 20-30 คนต่อสาขา
ก็เลยทำให้มีค่าเช่าสูงขึ้น ตามขนาดพื้นที่ของร้าน
แถมยังต้องจ้างพนักงานหลายคนต่อสาขา เพื่อให้บริการลูกค้า 20-30 คนต่อรอบได้ทัน
2. ราคาขาย
After You จับกลุ่มลูกค้าเฉพาะระดับกลางถึงบนขึ้นไป
ทำให้เสียโอกาสได้ลูกค้ากลุ่มที่ตัดสินใจเพราะเรื่องราคาด้วย
ซึ่งกลุ่มนี้มีอยู่เป็นจำนวนมาก
3. รูปแบบของร้าน
เน้นให้คนมานั่งกินที่ร้าน ในขณะที่เทรนด์สมัยใหม่
(โดยเฉพาะตั้งแต่มีโควิดระบาด) คนชอบสั่งซื้อกลับบ้าน และดิลิเวอรี่กันมากขึ้น
ร้านกาแฟมิกก้า ต้องใช้พื้นที่ต่อสาขาแค่นิดเดียว
เพราะเน้นให้ลูกค้าสั่งซื้อกลับบ้าน หรือใช้แอปสั่งดิลิเวอรี่ แทนนั่งกินที่ร้าน ทำให้ค่าเช่าถูกกว่าของร้าน After You มาก
แล้วพอร้านมีพื้นที่ขนาดเล็ก และไม่ต้องดูแลลูกค้าที่มานั่งในร้าน ก็เลยทำให้แต่ละสาขา ต้องจ้างพนักงานแค่ 1-2 คนเท่านั้น
เงินที่ต้องลงทุนต่อสาขาเลยต่ำลงมหาศาล
นั่นทำให้มิกก้า สามารถขยายสาขาได้เร็วขึ้น ทั้งแบบขยายด้วยตัวเอง และแฟรนไชส์
เพราะด้วยเงินลงทุนที่ต่ำ (ไม่ถึงหลักล้านต่อสาขา) แถมยังได้ภาพลักษณ์ที่ดีจากแบรนด์ After You
ก็เลยทำให้มีคนที่อยากมีธุรกิจร้านกาแฟเป็นของตัวเอง แต่ไม่อยากเสียเวลาเรียนรู้ และสร้างแบรนด์เอง สนใจซื้อแฟรนไชส์แบรนด์ Mikka จาก After You เป็นจำนวนมาก
แต่ After You ก็ไม่ได้ขายแฟรนไชส์แบรนด์ Mikka ให้ใครก็ได้นะครับ
เพราะหากทำเลไม่ดีพอ คนที่จะซื้อแฟรนไชส์ก็ต้องไปหาทำเลใหม่จนกว่า After You จะให้ผ่าน ถึงจะมีสิทธิ์ซื้อแฟรนไชส์ได้
สำหรับสาขาแฟรนไชส์ของ Mikka ทาง After You ก็แทบไม่ต้องลงทุนอะไรเลย เพราะเรื่องเงินทุนจะมาจากคนที่ซื้อแฟรนไชส์
ส่วน After You จะให้ know-how, สนับสนุนในเรื่องอื่นๆ (เช่น การตกแต่งร้าน, การป้อนวัตถุดิบ, การโปรโมทร้าน, ฯลฯ) และสิทธิ์ใช้ชื่อแบรนด์ Mikka
จากนั้นก็รอ % ส่วนแบ่งจากยอดขาย ที่สาขาแฟรนไชส์ทำได้
ส่วนเรื่องราคาขาย กาแฟมิกก้ามีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 45-50 บาทเท่านั้น ทำให้คนทั่วไป อย่างพนักงานออฟฟิศ สามารถซื้อกินได้ทุกวัน
เราจะเห็นว่า ราคากาแฟของร้านมิกก้า จะใกล้ๆ กับของร้านคาเฟ่อเมซอน ซึ่งเป็นเชนร้านกาแฟขนาดใหญ่ในเครือปตท.
ที่มีจำนวนสาขามากสุดในไทย และเป็นอันดับ 6 ของโลก
(ซึ่งเจาะกลุ่มลูกค้าคนละกลุ่มกับ Starbucks)
คำถามก็คือ แล้วมิกก้า จะสู้อเมซอนได้เหรอ?
ต้องบอกว่า ถึงแม้ราคากาแฟจะใกล้เคียงกัน แต่ทั้ง 2 แบรนด์นี้ ก็ไม่ได้เหมือนกันซะทีเดียว
เพราะร้านอเมซอน จะเน้นคนเข้ามาจิบกาแฟ เสพบรรยากาศที่ร้าน หรือแวะซื้อที่ปั๊ม เพื่อกินในรถระหว่างเดินทางไปต่างจังหวัด มากกว่าให้ซื้อกลับบ้าน และสั่งดิลิเวอรี่เหมือนร้านมิกก้า
และที่น่าสนใจก็คือ เมื่อไม่นานมานี้ BTS เพิ่งซื้อหุ้นบิ๊กล็อตของ After You ไป
ทำให้เป็นไปได้ว่า After You กับ BTS อาจร่วมมือกันทางธุรกิจในอนาคต อย่างเช่นการเอาร้านกาแฟมิกก้าไปขายตาม BTS สถานีต่างๆ เป็นต้น
ส่วนเรื่องรสชาติ ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน
บางคนอาจชอบรสเข้มๆ แบบ Amazon (เห็นมีหลายๆ คนบอกว่า กาแฟอเมซอนแต่ละสาขา รสชาติไม่เหมือนกัน เวลาเปลี่ยนสาขาที ก็ลุ้นที ว่าจะได้กาแฟรสชาติแบบไหนออกมา 555)
บางคนไม่ชอบเข้ม แต่ชอบกาแฟรสอ่อนๆ กินง่าย ก็อาจชอบมิกก้ามากกว่า
เพราะงั้น ส่วนตัวผมมองว่าร้านกาแฟมิกก้า ยังมีช่องว่างให้ไปต่อได้อีกเยอะ
- ด้วยขนาดร้านที่เล็ก สามารถซอกแซกไปได้ทุกที่
- ด้วยราคาขาย ที่คนส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงได้
- ด้วยภาพลักษณ์ที่ดูดี ที่สร้างขึ้นมาโดย After You (เรื่องนี้ After You เก่งอยู่แล้ว) ทั้งการตกแต่งร้าน, บรรจุภัณฑ์, ชื่อเมนู, ตัวเมนู
- ด้วยเงินลงทุนต่อสาขาที่ไม่สูง ทำให้ขยายสาขาได้เร็ว ทั้งแบบขยายเอง หรือแบบแฟรนไชส์
ก็น่าสนใจว่า ด้วยคอนเซปต์ “ถูก ดี มีรสนิยม” ของ Mikka
จะพาให้ After You ไปต่อได้อีกไกลแค่ไหน..
ติดตาม ยู ศิระ
โฆษณา