24 ก.พ. 2021 เวลา 12:07 • การศึกษา
เมื่อคุณไม่รู้ด้วย I don't know... มันไม่จบแค่นั้น
หากต้องการพูดประโยคนี้ให้เป็นทางการมากขึ้น
ควรเติมกรรมไปด้านหลัง เช่น I don't know that.
that ให้ความหมายว่า "เรื่องนั้น" ซึ่งทำให้ประโยคสมบูรณ์มากขึ้น
1. know สามารถใช้คำอื่นๆแทนได้และให้ความหมายเดียวกัน ได้แก่ learn หรือ be aware of
เช่น
I know that. (รู้)
I don't know that. (ไม่รู้)
I learn that. (รู้)
I don't learn that. (ไม่รู้)
I am aware of that. (รู้ )
I am not aware of that. (ไม่รู้)
ทั้งสามคำให้ความหมายเดียวกัน
นอกจากนั้นการใช้ know สามารถต่อด้วยคำอื่นเพื่อสื่อสารการรับรู้ในระดับที่ไม่เท่ากัน
2. ประธาน + know + about +เรื่อง. แปลว่า
"รู้เรื่องนั้น" (จากการฟังหรือการเรียน) คือมี "knowledge" (ความรู้หรือเรื่องที่รับรู้มา) โดยให้ความหมายว่าเราไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นเป็นการส่วนตัวหรือโดยตรง
I don't know about the problem. ฉันไม่รู้ว่ามีปัญหา (ไม่มีใครบอกหรือไม่รับรู้ปัญหา)
I know about the problem in marketing from my friend. ฉันรู้ปัญหาในแผนกการตลาดจากเพื่อน (มีคนมาบอก)
I don't know about computers. ฉันไม่รู้เรื่องคอมพิวเตอร์ (ใช้ไม่เป็นหรือไม่ชำนาญ)
I know about computers from school. ผมมีความรู้ด้านความคอมพิวเตอร์จากโรงเรียน (เรียนมาจากโรงเรียนซึ่งไม่ได้ให้ความหมายความชำนาญในการใช้ หากต้องการเน้นความชำนาญในเรื่องนั้นให้ใช้ know +คำนาม)
3. ประธาน + know + of +เรื่อง. แปลว่าเรื่องที่รู้ค่อนข้างผิวเผิน และสามารถใช้ให้ความหมายรู้จักดาราหรือผู้มีชื่อเสียงได้เนื่องจากเราไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว
เช่น
I know of Taylor Swift. ฉันรู้จักเทเลอร์สวิฟท์ (เพราะเป็นคนมีชื่อเสียงไม่ใช่รู้จักเป็นการส่วนตัว)
I don't know of Taylor Swift. ฉันไม่รู้จักเทเลอร์สวิฟท์ (ไม่เคยได้ยินแม้แต่ชื่อ)
หรือ I know of the problem. ฉันรู้ว่ามีปัญหา (พอได้รับรู้มาแต่ไม่รู้รายละเอียด)
I don't know of any problem. ฉันไม่รู้เลยว่ามีปัญหา (ไม่เคยรู้เลยว่ามีปัญหา)
หากเราใช้ know และตามด้วยคำนามจะให้ความหมายความเกี่ยวข้องเป็นการส่วนตัวและโดยตรง
เช่น I know you. ฉันรู้จักคุณ (ดี)
I know computers. ฉันรู้เรื่องคอมพิวเตอร์ (มีประสบการณ์ในการใช้และเข้าใจในรายละเอียด)
ครูด้วง
English Forward Unlimited

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา