25 ก.พ. 2021 เวลา 07:06 • ไลฟ์สไตล์
Pipe girl 101 ตอนที่ 2
1
คำเตือน
เนื้อหาที่กำลังจะกล่าวถึงต่อไปนี้ มีความเกี่ยวข้องกับสารเสพติดประเภทนิโคติน บุหรี่ ยาสูบ ฯลฯ ผู้อ่านควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน เด็กอายุต่ำกว่า 18 ควรได้รับคำแนะนำนะจ้ะ
หลังจากที่ลงตอนแรกที่แชร์ประสบการณ์ของตัวเองไป ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน และให้ความสนใจกันนะคะ ขอบคุณมากจริง ๆ
แต่ขออนุญาตย้ำอีกครั้งว่า เราไม่ได้มีความรู้แน่นพอในเรื่องของวิธีการสูบไปป์ หรือรู้ลึกรู้จริงมากถึงมาเขียนบทความแบบนี้ โดยเฉพาะในส่วนของข้อมูลที่นำมาประกอบ ถ้ามีข้อมูลส่วนไหนผิดพลาด สามารถทักท้วงกันในช่องคอมเม้นได้เลยนะคะ เรายินดีรับฟังและนำไปแก้ไขค่ะ
เอาล่ะ... เราก็นอกเรื่องมาเยอะแล้วเนอะ เข้าเรื่องกันต่อดีกว่า :)
จากตอนที่แล้ว เราได้พูดถึงจุดเริ่มต้นของการสูบบุหรี่ไปแล้วเนอะ มาตอนที่ 2 เราก็จะมาแชร์ประสบการณ์ในเรื่องการเริ่มต้นการสูบไปป์ของเรากัน
(หมายเหตุ: เราอาจจะมีพูดถึงบุคคลที่สาม ที่สี่ด้วย ซึ่งเราไม่ได้มีเจตนาร้ายใด ๆทั้งสิ้นเน่อ แค่มาบอกเล่ากันเฉย ๆ)
ไปป์
ว่าตามตรง เราได้ความชอบในเรื่องของไปป์ มาจากนวนิยายเรื่อง เชอร์ล็อค โฮล์มส์ เลยค่ะ โดยเฉพาะโฮล์มส์ที่มักจะนั่งครุ่นคิดอยู่บนเก้าอี้ พร้อมกับไปป์ในมือของเขา ภาพนี้สำหรับคนที่ติดตามอ่าน จะจำภาพเหล่านี้ได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
และนอกจากนี้เราแอบชอบไปป์แบบสเตม (stem) ยาวด้วย ซึ่งความชอบนี้หายไปเพราะความยุ่งวุ่นวายในชีวิตของตัวเอง เช่นเรื่องเรียน เรื่องความสนใจทางศาสนา ฯลฯ
แล้วเรากลับมาสนใจไปป์อีกครั้งได้ยังไงน่ะหรอ ?
เพราะความสนใจในวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นนี่เองค่ะ
อ้าว แล้ววัฒนธรรมญี่ปุ่น เกี่ยวอะไรกับไปป์ก่อนล่ะ ?
เกี่ยวค่ะ เกี่ยวแบบเต็ม ๆเลย
เพราะที่ญี่ปุ่นเองก็มีไปป์ของเขาเหมือนกัน ไปป์ญี่ปุ่นที่เรียกว่า Kiseru (煙管) ค่ะ เป็นไปป์โบลว์ขนาดเล็ก และมีสเตมที่ยาว ซึ่งตัวไปป์คิเซรุนั้นมีมานานแล้ว มักจะใช้กันในหมู่คนชั้นสูง และพวกสาว ๆโอยรัน (นางโลม) ชั้นสูง (ซึ่งเกอิชา กับโอยรัน ถือว่าเป็นคนละสายอาชีพกันนะคะ แต่ถ้าอยากรู้ในเรื่องนี้เพิ่มเติม สามารถคอมเม้นบอกกันได้นะคะ)
ใช้เวลาสูบไม่นานเพราะมีโบลว์ขนาดเล็กมาก ๆ และด้วยความที่มีโบลว์ขนาดเล็ก ทำให้ใบยาที่ใช้นั้นจะเป็นใบยาที่มีขนาดเล็กมาก ๆตามกันไปด้วย (ข้อมูลอีกแหล่งบอกว่า ใบยาไปป์ก็ใช้กับคิเซรุได้นะคะ แต่ต้องปั้นกลม ๆให้ดีเลยล่ะค่ะ ไม่งั้นยัดไม่เข้า)
ซึ่งด้วยเรื่องนี้นี่เอง ทำให้เรากลับมาสนใจอยากได้ไปป์อีกครั้ง หลังจากหายไปนานมาก ๆ ซึ่งไปป์คิเซรุ จะถูกนับไปอยู่ในประเภทงานฝีมือ ดังนั้นราคาค่อนข้างเรียกได้ว่าแรงมากทีเดียวเชียว (แต่ถ้ามีเงิน สารภาพตามตรงว่ามันก็ต้องโดนสักทีแหละค่ะ)
ด้วยความชอบส่วนนี้นี่เอง ทำให้เราตัดสินใจได้ว่า เอาวะ มันต้องโดนสักทีแล้วล่ะ เราเลยตัดสินใจ กำเงิน 2,000 บาท และเดินทางไปที่สีลม เพื่อไปที่ร้านขายไปป์แห่งหนึ่ง ก็คือร้าน The Session ค่ะ
ร้านนี้เป็นร้านเล็ก ๆที่อยู่ในสีลม ซึ่งแม่ค้าบริการดีมาก (แอบขายนิดนึงแหละ 5555) เลยถามว่าเราจะเลือกอะไรยังไงดี ไปป์แบบไหนที่เราควรเลือกมีแนะนำมั้ย
เจ้าของร้านบอก(ประมาณ)ว่า "อยากได้ไปป์แบบไหน เราต้องตัดสินใจเอง เห็นแล้วคลิ๊ก ก็เลือกอันนั้นได้เลย"
สุดท้ายด้วยความที่เราเงินน้อย และอยากได้ครบเซ็ต เลยทำให้เรา ได้ไปป์ corn cob มาหนึ่ง และใบยา moontrace มาหนึ่งกระป๋อง รวมถึงตัวกรอง 6mm ลวดทำความสะอาดไปป์ แทมเปอร์ พร้อมกับกระดาษ A4 ที่มีบรรยายวิธีการสูบ การแพ๊คยาลงโบลว์ วิธีการดูแลรักษาแบบเสร็จสรรพครบจบในแผ่นเดียว (ซึ่งเราเก็บมาเปิดอ่านบ้างกันลืม 5555)
หลังจากนั้น เรากลับบ้าน เราก็เริ่มลองสูบดู โดยมีการเปิดคลิปวิธีการสูบหลาย ๆคลิปประกอบ (ทั้งของไทยและของเทศเลย)
อะไรก็ตามที่เราลงมือทำครั้งแรก มักเป็นสิ่งน่าจดจำเสมอ....
แต่ดันไม่ใช่กับเราไง 🤣
การสูบไปป์ครั้งแรก เผาด้านบนของโบลว์จนดำเกรียม ๆเลยแหละค่ะ และแพคยาแน่นไป ดึงไฟไม่ค่อยได้ หรือบางครั้งดึงได้ แต่ไฟแรงเกินจนเหม็นไหม้เอง สูบไปได้ครึ่งโบลว์ก็อิ่มนิโคตินมากจนสูบต่อไม่ไหว จนต้องเคาะออก บางทีสูบไป สำลักเผลอลงปอดเพราะคุมการหายใจไม่ได้อีก
บอกได้คำเดียวค่ะว่า... เละเทะ
ซึ่งคนที่อยากจะเริ่มสูบแล้วมาอ่านบทความนี้ อย่าเพิ่งท้อใจค่ะว่าทำไมมันแย่ ทำไมมันยุ่งยากอะไรขนาดนี้กับไอ้การสูบไปป์สักหนึ่งโบลว์เนี่ย แต่ด้วยความที่เราอยากรับรสชาติความหวานหอมของใบยา ทำให้เรากลับไปศึกษา และดูวิธีการดึงไฟที่ดีจากในยูทูปอีกครั้ง แล้วมาปรับใช้กับของตัวเอง
จนผ่านมาสัปดาห์ที่ 3 การสูบโบลว์ที่ 5 (เพราะเราสูบที อิ่มนิโคตินไปเป็นวัน ๆเลยทำให้ไม่ค่อยสูบบ่อยเท่าไหร่ และมักจะสูบตอนกำลังคิดงานเขียนของเราเท่านั้นด้วย) ทำให้เราได้รับรสชาติของใบยาครั้งแรก แม้ว่าเราจะใช้กรอง 6mm ด้วย มันมีรสหวานจาง ๆจากที่การที่เราใช้ตัวกรอง แต่เราก็สัมผัสได้ ถึงรสชาติ ความหอม ความพอดีของมันได้
เป็นครั้งแรกที่เราอยากจะเอนหลัง หลับตาสัมผัสรสชาติของใบยาแบบยาว ๆและผ่อนคลายมากขนาดนี้
และนับตั้งแต่วันนั้น เราก็มักจะสูบไปป์ตลอด เพราะซื้อไปป์หนึ่งตัว ถ้ารักษาดี ๆก็จะใช้ได้เกือบตลอดทั้งชีวิต มีเพียงแค่ซื้อใบยา กับอุปกรณ์ล้างเท่านั้น และยาสูบกระป๋องหนึ่งของเรา ขั้นต่ำทำให้อยู่ได้นาน 1 เดือน สูบจนจนเกือบเข้าเดือนที่ 3 ถึงจะหมดและได้ซื้อใบยาอีกที นับว่าประหยัดไปได้โขเลยทีเดียวค่ะ
ที่เซอร์ไพร์สยิ่งกว่า คือกลุ่มชุมชนของชาวสูบไปป์และซิการ์ มีการแนะนำ พูดคุย ต้อนรับกันอย่างอบอุ่นมาก แม้ว่าพวกเขาจะเป็นผู้ชายเป็นส่วนใหญ่ก็ตาม เขาก็มักจะให้คำแนะนำที่เหมาะสม และดีอยู่เสมอ ว่าตามตรงค่ะว่าเซอร์ไพร์สจริง ๆ (และแต่ละคนก็ป้ายยาสินค้าอื่นเก่งด้วย ให้ตาย !)
เราติดเรื่องเล่าความตลกของตัวเองกันอยู่ใช่มั้ยคะ
เราจะมาเล่าให้ทุกท่านได้อ่านกัน
ทุกคนมักจะเจอคำถามมากมายว่า สูบบุหรี่และพอมาสูบไปป์หรือซิการ์ จะทำให้อยากกลับไปสูบบุหรี่อีกมั้ย
คำตอบก็คือ "ไม่ค่ะ"
ไม่แบบชนิดว่าเด็ดขาดเลย จากมุมมองของเราเองนะคะ อาจจะไม่ครอบคลุมกับความคิดเห็นของทุกคนเนอะ (อันนี้ใครคิดยังไงกันแบ่งปันกันได้นะคะ อยากรู้เหมือนกันค่ะ)
อ้าว ก็สูบนิโคตินเหมือนกันนี่ มีควันเหมือนกันด้วย แล้วมันไม่เหมือนกันตรงไหน ?
ต่างกันมาก มากชนิดที่ว่า มาก ๆเลยค่ะในมุมมองของเรา
เพราะบุหรี่ ควันจากการเผาไหม้ของมันที่ไว และร้อนมาก ทำให้ใบยาถูกเผาไหม้จนแห้งกรอบสนิท ทำให้กลิ่นควันที่ออกมา มีความเหม็นฉุนมาก ฉุนจนต้องเบ้จมูกเลย เพราะสารที่อยู่ในบุหรี่ทำให้มีการเผาไหม้ที่เร็วเพื่อให้เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลามากพอที่จะสูบเอานิโคตินเข้าร่างกาย ดังนั้น ควันที่ออกมา มันจะเหม็นไหม้เอามาก ๆ จนทนไม่ได้เลยค่ะ
ซึ่งขออนุญาตกระซิบว่า รอบข้างที่ทำงานที่เราทำงานอยู่ เขาสูบบุหรี่นะคะ และเราคือทนไม่ไหวจริง ๆ เจอเมื่อไหร่ ต้องสาวเท้าหนีให้พ้นให้ไวเลยค่ะ ไม่งั้นแสบจมูกมาก
ขนาดสูบไปป์แค่เกือบ 4 เดือนเองนะ ยังมีอาการแบบนี้เวลาเจอกับบุหรี่เลย
คนที่สูบไปป์มานาน คงมีรีแอคชั่นมากกว่านี้แน่ ๆ 🤣
ก็ประมาณนี้แหละเนอะ
สำหรับตอนที่ 2 ก็คงต้องจบลงเพียงเท่านี้ หวังว่าบทความนี้จะให้ความสนุกในการอ่านของทุกคนไม่มากก็น้อยนะคะ ขอบคุณทุกคนจริง ๆที่ติดตามอ่าน กดไลค์ และแชร์บทความกัน ขอบคุณจริง ๆค่ะ
ในตอนต่อไป ก็จะมาพูดถึงซิการ์กันเนอะ เตรียมที่นั่งรออ่านกันได้เลย
ป.ล. ใครมีประสบการณ์แบบไหนในการสูบไปป์ครั้งแรกบ้าง แวะมาแบ่งปันกันได้นะคะ จะรออ่านเลยค่ะ 🤣
โฆษณา