Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ไว้อ่านตอนเข้าส้วม
•
ติดตาม
26 ก.พ. 2021 เวลา 07:56 • ไลฟ์สไตล์
คุณเคยกลุ้มเพราะคิดอะไรมาทั้งวัน ก็คิดไม่ออก พอไปนอนก็เอาไปฝัน
แต่ตลกตรงในฝันดันคิดออกเฉยเลยไหมครับ?
ผมเคยถึงกระทั่งตั้งใจเอาปัญหาไปฝันเลย คือ คิดๆๆให้มากๆก่อนนอน (ถ้าคิดมากจัดจะกลายเป็นนอนไม่หลับแทนนะครับ) พอนอนไป ต้องเรียกว่าบ่อยครั้ง สิ่งที่เราตั้งใจมันจะตามมากับเราในฝันด้วยครับ ผมมักคิดงานได้ในฝันบ่อยครั้ง แต่... ปัญหาตามมาก็คือ ตื่นมาแล้วลืมฝัน! ความทรงจำยังบอกได้ว่าคิดออก แต่กลับบอกไม่ได้ว่าคิดว่าอย่างไร มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเคยแนะนำให้ทานสังกะสี จะช่วยให้จำความฝันได้ ทุกวันนี้ผมยังไม่เคยพิสูจน์นะครับว่าท่านแค่หลอกหรือบอกจริง
อยากจะบอกแบบอายๆว่า ผมเคยคิดไปเองว่า ตนเองต้องมีพลังพิเศษ สามารถใช้ฝันทำงานได้ จนมาอ่านเจอเรื่องเกี่ยวกับคลื่นสมองที่จะนำมาเล่าสู่กันวันนี้
ผมรู้จักเรื่องนี้ครั้งแรกตอนที่บริษัทมีโครงการพาพนักงานกลุ่มคีย์แมนเดินทางไปทำกิจกรรม Team Building มีส่วนหนึ่งของกิจกรรมเป็นกระบวนการแบบ NLP (Neuro Linguistic Programming) เขาจะเปิดเพลงที่ผ่อนคลายเบาๆ ให้เรานอนเหยียดตัวตามสบาย แล้วผู้นำกิจกรรมจะพูดบรรยายคลอไป เขาบรรยายว่าเวลาคนเราทำงาน คลื่นสมองเราจะเป็น "เบต้า" และ "อัลฟ่า" เวลาเรานอนหลับสนิท คลื่นสมองจะเป็น "เดลต้า" ขั้นตอนต่อไปเป็นอย่างไรก็ไม่ทราบ เพราะผมข้ามไปคลื่นเดลต้าในเวลาไม่นานนัก
เวลาผ่านมานาน วันหนึ่งอาบน้ำเพลินๆก็ดันคิดอะไรออกมาได้ แบบต้องชมตัวเองในใจ "เจ๋งอ่ะเรา คิดได้ไง" คิดย้อนกลับไป พบว่าบ่อยครั้งมากที่ผมจะคิดอะไรได้(ดี) ขณะกำลังอาบน้ำ เลยนึกย้อนไปอีก ถึงเรื่องที่เคยฟังมาเกี่ยวกับคลื่นสมอง คิดได้ก็รีบแจ้นออกมากดมือถือถามอากู๋ทันที ตามสไตล์ผู้มีแพสชั่น(passion)เป็นสรณะ ได้ความโดยสรุปว่า สมองเราทำงานเป็นคลื่นสมอง 4 รูปแบบ
แบบแรกคือ "คลื่นเบต้า" (Beta wave) มีความถี่สูงสุด ทำให้เราตื่นตัว กล้ามเนื้อทำงานมากกว่าสมอง ถ้ามากไป เราจะกลายเป็นไฮเปอร์ ไม่หลับไม่นอน ส่งผลต่อร่างกายรับภาระมาก คงคล้ายกับอุลต้าแมนที่ไม่ควรแปลงร่างเกิน 3 นาทีมั๊งครับ
แบบที่สองคือ "คลื่นอัลฟ่า" (Alpha wave) มีความผ่อนคลายลง ตอบสนองผ่านสมองมากกว่ากล้ามเนื้อ เรียกง่ายๆคือ มีสมาธิ สามารถเรียนรู้ได้ดีในสภาวะคลื่นสมองแบบนี้ เหมาะมากกับนักเรียน หรือ คนทำงานที่ใช้สมองมากกว่าแรง
แบบที่สามคือ "คลื่นธีต้า" (Theta wave) สมองมีความผ่อนคลายมากถึงมากที่สุด แต่กลับทำให้จินตนาการทำงานได้ขีดสูงสุด สามารถดึงข้อมูลต่างๆ ความทรงจำที่เคยเก็บไว้ในสมองออกมา ความสามารถในการเชื่อมโยงข้อมูลต่างๆเพิ่มขึ้น จนทำให้สร้างสรรค์หรือแก้ปัญหาได้อย่างไม่รู้ตัว
แบบสุดท้ายคือ "คลื่นเดลต้า" (Delta wave) เกิดขณะเราหลับลึก ไม่ฝันอะไร สมองทำงานเพียงควบคุมร่างกายเท่าที่จำเป็น ผลก็คือ ร่างกายสดชื่นมากยามตื่น สังเกตได้แม้เราจะหลับไปแค่ 2-3 ชั่วโมง แต่หลับลึกไม่ฝันใดใด กลับมีความสดชื่นกว่าการนอนนานแต่ฝันเป็นตุเป็นตะเสียอีก
กลายเป็นว่า พลังพิเศษที่ผมมโนไปนั้น มันมาจากความผ่อนคลายยามกายต้องสายน้ำอุ่นนั่นเอง หรือการคิดได้ในฝัน แท้จริงเราคิดได้ในภาวะก่อนจะหลับลึก ช่วงที่คลื่นธีต้าทำงานนั่นเอง
นิทานเรื่องนี้สำหรับผม สอนให้รู้ 2 เรื่อง
เรื่องแรกคือ ใครที่ชอบลืมคำสาบาน คำสัญญาที่ให้ไว้กับคนอื่น ควรฝึกนั่งสมาธินะครับ เพราะจะทำให้เราเข้าสู่คลื่นธีต้าเพื่อเรียกความทรงจำต่างๆได้ ก่อนที่ฟ้าจะผ่าไม่รู้ตัว
เรื่องที่สองคือ การอ่านๆๆ แล้วก็อ่าน มีประโยชน์เสมอ ไม่วันนี้ ก็วันหน้า เพราะในวันที่คลื่นธีต้าทำงาน กลับไปเรียกข้อมูลในสมอง หากสมองเราเป็นดั่งห้องสมุดกว้าง แต่ไร้ซึ่งหนังสือเรียงรายบนชั้น มันคงไม่ต่างอะไรกับการกลับไปหาความว่างเปล่านะครับ
Brain Wave
1 บันทึก
3
2
1
3
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย