ดูบอลเป็นเรื่อง
นักเตะหัวใจของทีม
โดย พลวัตร บุญโสธรสถิตย์
เมื่อก่อนเวลานั่งดูบอลแล้วเห็นเพื่อนร่วมทีมโวยวายกันเอง ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจว่าจะบ่นด่ากันทำไม ไม่มีใครอยากทำพลาดพลั้งหรอก แต่เมื่อได้ลงสนามเองก็พอจะเข้าใจมากขึ้นว่าการกระตุ้นระหว่างเกมเป็นสิ่งสำคัญ ช่วงก่อนเกมหรือพักครึ่งเป็นหน้าที่ของโค้ช ทว่าในระหว่างแข่งขันนักเตะต้องคอยเสริมสร้างแรงใจกันเอง ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ของกัปตันทีมเพียงคนเดียว
ในทีมที่จะประสบความสำเร็จได้ นอกจากจะต้องมีนักเตะฝีเท้าดีและทีมเวิร์กยอดเยี่ยม รวมถึงโค้ชที่วางแผนและแก้เกมเก่งแล้ว ยังต้องมีอีกส่วนประกอบที่ขาดไม่ได้คือ นักเตะที่เป็นหัวใจหลักของทีม ซึ่งเป็นสิ่งที่ลิเวอร์พูลขาดหายไปในฤดูกาลนี้
นักเตะประเภทนี้นอกจากจะต้องมีความกระหายชัย วิ่งสู้ฟัดไม่เคยหยุด พร้อมเล่นเต็มกำลังตลอดเก้าสิบนาทีแล้ว ยังต้องมีความเป็นผู้นำ รู้วิธีสื่อสารกับลูกทีม คอยกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมให้สู้ตลอดทั้งเกมด้วย ทั้งยังเข้าใจแผนของโค้ชเป็นอย่างดี สามารถบัญชาการตอนลงสนามจริงได้... หลังจากแขวนสตั๊ดแล้วบางคนก็ผันตัวไปเป็นโค้ชให้ทีมเยาวชน หรือทีมชุดใหญ่ หรือเติบโตต่อเป็นผู้บริหารทีมได้เช่นกัน
ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเคยมีนักเตะอย่าง ไบรอัน ร็อบสัน, รอย คีน, เอริก คันโตนา, ปีเตอร์ ชไมเคิล, พอล สโคลส์ และ ริโอ เฟอร์ดินานด์ บ่อยครั้งที่เห็นเขาวิ่งไปโวยเพื่อนร่วมทีมเมื่อทำผิดพลาด ชมเชยเพื่อนเมื่อเล่นได้ดี ตะโกนสั่งเพื่อนๆ ให้ช่วยกันวิ่งไล่คู่ต่อสู้ โหวกเหวกข่มขวัญฝั่งตรงข้าม รวมทั้งเข้าบอลหนักใส่คู่แข่งให้ใจฝ่อ ตลอดจนเข้ากดดันกรรมการในการตัดสิน
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานักเตะลักษณะนี้สูญพันธุ์ไปจากทีม การได้ ปอล ป็อกบา นักเตะพรสวรรค์มายังไม่สามารถสร้างความแตกต่างได้นัก เพราะป็อกบามีแพสชันในการเล่นไม่มากพอจะกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมได้ กระทั่งพลพรรคปีศาจแดงได้ตัว บรูโน แฟร์นานด์ส มาร่วมทีม แม้บรูโนจะไม่ได้เป็นกัปตัน ไม่ได้กระตุ้นเพื่อนร่วมทีมแบบที่ รอย คีน เคยทำไว้ ทว่าความมุ่งมั่นในชัยชนะ การวิ่งขึ้นวิ่งลงทำเพื่อทีมตลอดเกม จนคนอื่นๆ ต้องปรับตัวตาม เปลี่ยนจากทีมที่นักเตะยืนรอบอล กลายเป็นทีมที่วิ่งไล่บอล วิ่งหาตำแหน่งกัน จนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดวันนี้กลับมาเป็นทีมลุ้นพื้นที่ยูฟ่า แชมเปี้ยนชิพอีกครั้งหนึ่ง
ตัวอย่างที่เห็นชัดที่สุดคนหนึ่งของนักเตะประเภทนี้คือ คริสเตียโน โรนัลโด ถ้าใครจำนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลยุโรปปี 2016 ได้ โรนัลโดนำทีมชาติโปรตุเกสพบทีมชาติฝรั่งเศส เขาแสดงให้เพื่อนร่วมทีมเห็นถึงความตั้งใจ วิ่งพล่านหาพื้นที่ตลอดเวลาในสนาม แม้ว่าจะถูกเปลี่ยนตัวออกเนื่องจากอาการบาดเจ็บตั้งแต่นาทีที่ 25 โรนัลโดยังยืนกะเผลกคอยสั่งการ และส่งเสียงกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมติดขอบสนามจนหมดเวลา ทำให้ทีมคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ
กลับมาต่อที่ลิเวอร์พูล...
ฤดูกาลที่แล้วหงส์แดงมีทั้ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เจมส์ มิลเนอร์ และ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ช่วยกันเป็นหัวใจของทีม คอยปลุกขวัญเพื่อนๆ จนหงส์แดงคืนร่างกลับไปเป็นเครื่องจักรสีแดงที่รุ่งเรืองในอดีต พอเข้าสู่ฤดูกาลนี้นักเตะตัวหลักทยอยกันเจ็บไปเรื่อยๆ จนเหลือแค่เฮนเดอร์สันที่ถูกย้ายมาเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก เขาเล่นได้ดีทั้งๆ ที่ไม่ใช่ตำแหน่งธรรมชาติก็ตาม เฮนเดอร์สันยังต้องปรับตัวกับตำแหน่งใหม่ จึงไม่ได้ขึ้นไปผลักดันเพื่อนร่วมทีมในแดนหน้าเหมือนเคย เห็นได้ว่าหลายคนขาดความมั่นใจไปหลายส่วน แถมเขาต้องมาบาดเจ็บไปอีกคนจากเกมเมอร์ซีไซด์ดาร์บีแมตช์ล่าสุด
ขณะที่ ติอาโก อัลคันทารา ที่มาแทนในตำแหน่งกองกลางแม้จะเล่นได้ดี ซึ่งไม่ได้แตกต่างจากสมัยที่เขาเล่นให้เสือใต้ บาเยิร์น มิวนิก แต่เรื่องของความมุ่งมั่นนั้นยังเป็นคำถามคาอยู่ ติอาโกยังไม่สามารถกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมให้เป็นเครื่องจักรสีแดงที่น่ากลัวแบบเดิมได้ ยังเล่นไปตามจังหวะของตัวเอง ไม่ได้คุกคาม หรือสร้างความกดดันให้ทีมคู่แข่งเหมือนที่เฮนเดอร์สันเคยสร้างมาตรฐานไว้
ก่อนลงเล่นโค้ชจะคอยปลุกขวัญและกำลังใจลูกทีม แต่เมื่อลงเล่นในสนาม บางครั้งเราก็ผิดพลาดบ้าง เพื่อนร่วมทีมก็พลั้งเผลอบ้าง คู่แข่งโชคดีบ้าง ผลจากผู้ตัดสินไม่เป็นใจบ้าง แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้มักบั่นทอนกำลังใจไปเรื่อยๆ จึงจำเป็นต้องมีคนที่จิตใจหนักแน่นเข้มแข็ง เป็นแบบอย่างให้เพื่อนๆ รวมตัวกันสู้ เหล่าเดอะค็อปคงต้องลุ้นต่อไปว่า เจอร์เกน คล็อปป์ จะผลักดันใครขึ้นมาเป็นผู้นำทีมแทน อย่างน้อยก็จนกว่าเฮนเดอร์สัน มิลเนอร์ หรือฟานไดจ์คจะกลับมา
#ลิเวอร์พูล #LFC #คล็อปป์ #ข่าวบอล #ผลฟุตบอล #ผลบอล #ฟุตบอล #Football #Soccer #PlayNowThailand #KhelNowThailand
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
