26 ก.พ. 2021 เวลา 11:00 • การศึกษา
7 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับดอกกุหลาบ ราชินีแห่งดอกไม้ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
Photo by Ergita Sela on unsplash
ในช่วงวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมาคู่รักหลายคู่คงจะเฉลิมฉลองและบอกรักกัน หลายคู่อาจพากันไปกินมื้อค่ำใต้แสงเทียนในบรรยากาศสุดโรแมนติกพร้อมกับมอบของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กัน และเมื่อพูดถึงของขวัญวันวาเลนไทน์แล้วก็คงหนีไม่พ้นดอกกุหลาบ ราชินีแห่งดอกไม้ และดอกไม้แห่งความรักของใครหลาย ๆ คน วันนี้เรามีเรื่องราวและเกร็ดความรู้ที่น่าสนใจของเจ้าดอกไม้ชนิดนี้มาให้ทุกคนได้อ่านส่งท้ายเดือนแห่งความรักกันครับ
1. ดอกกุหลาบนั้นเป็นพืชที่เก่าแก่ที่สุดที่ถูกใช้เป็นของประดับตกแต่ง
“The Roses of Heliogabalus” by Sir Lawrence Alma-Tadema on www.tuttartpitturasculturapoesiamusica.com
ข้อมูลจาก Guinness World Records พบว่ามีหลักฐานยืนยันว่าตั้งแต่ปี ค.ศ. 50 ชาวโรมันปลูกดอกไม้ไว้ในโรงเรือน และแปลงดอกไม้ขนาดใหญ่ตลอดทั้งปี เพื่อใช้สำหรับสกัดเป็นยา ทำอาหาร และใช้สำหรับการตกแต่ง เมื่อดอกไม้เหล่านี้บานจะถูกนำมาตกแต่งตามอาคารบ้านเรือน และเอาไว้ใช้สำหรับโปรยลงบนพื้นถนนเพื่อเป็นทางเดินกลีบกุหลาบ อีกทั้งยังพบหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าจีนและญี่ปุ่นเองก็มีการจัดสวนกุหลาบมานานกว่า 5,000 ปีแล้ว
2. ทำไมดอกกุหลาบถึงเป็นสัญลักษณ์ของความรัก
“The Death of Adonis” by Peter Paul Rubens on wikipedia.org
เรื่องนี้คงต้องย้อนกลับไปในตำนานปรัมปราของกรีก ซึ่งอาจจะไม่ใช่เรื่องที่หวานชื่นนัก ตามตำนานเล่าว่าอโฟรไดท์ เทพีแห่งความรักได้ไปหลงรักชายหนุ่มที่ชื่ออโดนิส จนต้องลงมาจากสวรรค์เพื่อหาทางมาใกล้ชิดกับหนุ่มรูปงามผู้นี้ ทั้งคู่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในป่า ล่าสัตว์เล็กสัตว์น้อยด้วยกันอย่างมีความสุข อโฟรไดท์มักจะคอยเตือนอโดนิสอยู่เสมอว่าไม่ให้ไปล่าสัตว์ใหญ่ในป่าเพราะเกรงว่าจะเป็นอันตราย แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้แยแสต่อคำเตือนของอโฟรไดท์เท่าใดนัก วันหนึ่งอโดนิสบังเอิญพบหมูป่าตัวหนึ่งเข้า (บางตำนานเชื่อว่าเป็นแอรีส เทพแห่งสงครามผู้เป็นสามีของอโฟรไดท์แปลงกายมา) เขาจึงใช้หอกคู่ใจต่อสู้กับหมูป่าตัวนั้น แต่แล้วเขาก็พลาดท่าถูกหมูป่าเล่นงานจนถึงแก่ความตาย อโฟรไดท์ได้ยินเสียงโอดครวญจากอโดนิสจึงรีบวิ่งมาหาชายผู้เป็นที่รัก ระหว่างทางนางได้ไปเหยียบหนามของกุหลาบเข้าจึงทำให้เลือดของนางที่ไหลหยดลงบนกลีบกุหลาบทำให้กุหลาบเหล่านั้นกลายเป็นสีแดง หลังจากที่นางคร่ำครวญ และกล่าวโทษต่อโชคชะตาด้วยความอาลัยรัก อโฟรไดท์ได้นำเลือดของอโดนิสพรมลงบนพื้น ทันใดนั้นจึงเกิดเป็นดอกไม้สีแดงเข้มดั่งเลือดของชายหนุ่มที่จากไป ดอกไม้ชนิดนี้ชื่อว่า “แอนนีโมนี” บ้างก็เชื่อว่าเป็นดอกกุหลาบ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ดอกกุหลาบนั้นกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก ความลุ่มหลง และความโรแมนติก
Roman de la Rose Photo by www.bl.uk
ในช่วงยุคกลาง Guillaume de Lorris ได้ประพันธ์บทกวีภาษาฝรั่งเศสที่ชื่อว่า “Roman de la Rose” ในช่วงศตวรรษที่ 13 โดยใช้ดอกกุหลาบเป็นสัญลักษณ์อุปมาถึง ผู้หญิง และความรัก
ยังคงมีการใช้ดอกกุหลาบเป็นสิ่งที่สื่อถึงความรักเรื่อยมาจนถึงยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา หรือ Renaissance ในงานเขียนของเชกสเปียร์
ถัดมาจนถึงยุควิคตอเรียน ดอกไม้ได้มีบทบาทสำคัญมากสำหรับยุคนี้ มีการใช้ดอกไม้เป็นการแสดงออกถึงความรู้สึกเมื่อให้กันในโอกาสต่าง ๆ มีการให้คำนิยามดอกไม้ต่าง ๆ แม้กระทั่งสีสันในแต่ละดอก หรือที่เรียกกันว่า “ภาษาดอกไม้” สิ่งเหล่านี้ยังคงได้รับการยอมรับและใช้งานมาจนถึงปัจจุบัน
3. ดอกกุหลาบมีญาติเป็นแอปเปิล
ดอกกุหลาบเป็นพืชในวงศ์ Rosaceae ที่ประกอบด้วยพืชอีกกว่า 2,500 สปีชีส์ พืชหลายชนิดเป็นพืชเศรษฐกิจ และยังเป็นผลไม้ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันอย่าง แอปเปิล สาลี่ พีช เชอร์รี สตรอว์เบอร์รี ราสป์เบอร์รี รวมไปถึงอัลมอนด์ด้วย
Photo by www.englishclub.com, extension.umaine.edu
หลายคนอาจสงสัยว่าลักษณะของกุหลาบที่เป็นไม้พุ่ม กับแอปเปิลซึ่งเป็นไม้ยืนต้น และสตรอว์เบอร์รีที่เป็นไม้เถานั้นจะเป็นญาติกันได้อย่างไร อยากให้ทุกคนลองดูที่ดอกของพวกมันดูครับ จะสังเกตได้ว่าลักษณะของดอก มีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ มีกลีบดอก 5 กลีบ และมีเกสรตัวผู้ที่เรียงกันเป็นเกลียว ซึ่งความคล้ายคลึงกันในโครงสร้างของดอกเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า แอปเปิล สตรอว์เบอร์รี และพืชที่กล่าวมาข้างต้นนั้นเป็นญาติกันนั่นเอง
4. ประเทศที่มีดอกกุหลาบเป็นดอกไม้ประจำชาติ
ในแต่ละประเทศมักจะมีดอกไม้ประจำชาติที่มีประวัติและมีความสำคัญต่อประเทศนั้น ๆ เช่นดอกไม้ประจำชาติของไทยคือ ดอกราชพฤกษ์ หรือ ดอกคูน ซึ่งอาจจะไม่มีชาติใดในโลกที่ใช้ดอกไม้เดียวกันกับเราเป็นดอกไม้ประจำชาติอีกแล้ว แต่สำหรับดอกกุหลาบนั้นมีประเทศกว่า 10 ประเทศที่ใช้ดอกกุหลาบเป็นดอกไม้ประจำชาติ ได้แก่ บัลแกเรีย สาธารณรัฐเช็ก เอกวาดอร์ อิหร่าน อิรัก ลักเซมเบิร์ก มัลดีฟส์ โรมาเนีย สโลวะเกีย อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา ซึ่งแต่ละประเทศอาจจะใช้ดอกกุหลาบคนละสี หรือคนละสายพันธุ์แตกต่างกันไป
5. กุหลาบสีดำไม่มีอยู่จริง
Photo by oneHOWTO on pinterest
หลายคนคงเคยได้ยินว่าดอกกุหลาบสีดำเป็นสัญลักษณ์แห่งความตาย ความเศร้า และเชื่อว่าหลายคนก็คงเคยเห็นกุหลาบสีดำในงานแฟนซีต่าง ๆ เช่น งานฮาโลวีน แต่ในความเป็นจริงแล้วยังไม่มีการค้นพบดอกกุหลาบที่เป็นสีดำตามธรรมชาติเลย กุหลาบบางสายพันธุ์ที่ชื่อของมันมีคำว่าสีดำ เช่น Black Magic Rose และ Black Baccara Rose แท้จริงแล้วพวกมันแค่มีสีเข้มกว่าสีม่วงเข้ม หรือสีเบอร์กันดีเท่านั้นเอง ส่วนดอกกุหลาบสีดำที่หลาย ๆ คนเคยเห็นกันนั้นเกิดจากการย้อมสีให้กับกุหลาบขาวนั่นเอง
Black Magic Rose และ Black Baccara Rose ตามลำดับ Photo by fcecuador.com, www.sierraflowerfinder.com
6. เราอาจจะได้เห็นกุหลาบสีฟ้ากันในอีกไม่กี่ปี
นอกจากดอกกุหลาบสีดำแล้ว ดอกกุหลาบอีกสีที่ไม่มีในธรรมชาตินั่นคือกุหลาบสีฟ้าหรือสีน้ำเงิน เพราะดอกกุหลาบนั้นไม่มี Delphinidin ซึ่งเป็นยีนที่ทำให้เกิดเม็ดสีสีฟ้าในดอกไม้ หลังจากที่พยายามเพาะพันธุ์ และปรับแต่งพันธุกรรมมาอย่างยาวนาน ในปี 2004 Suntory Global Innovation Center ในประเทศญี่ปุ่นก็สามารถปรับแต่งพันธุกรรมให้ดอกกุหลาบนั้นสามารถสร้าง Delphinidin เพื่อให้ผลิตเม็ดสีสีฟ้าขึ้นมาได้ และให้ชื่อมันว่า “Applause”
Suntory blue rose applause Photo by www.suntoryapplause.com
แต่มันยังดูเป็นสีม่วงอ่อนมากกว่าจะเป็นสีฟ้า และด้วยเหตุนี้ในปี 2018 นักวิจัยจากสถาบันวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยเทียนจิน ประเทศจีน ก็กำลังทำการศึกษาและวิจัยในการเพาะพันธุ์กุหลาบสีฟ้าจริง ๆ ขึ้นมา มาลุ้นกันว่าเมื่อไหร่เราจะได้เห็นดอกกุหลาบสีฟ้าที่สามารถเพาะพันธุ์ได้ตามธรรมชาติไม่ใช่ดอกกุหลาบที่ถูกย้อมสี
7. ดอกกุหลาบที่แพงที่สุดในโลก
Photo by www.virginfarms.com
Juliet Rose คือชื่อพันธุ์ของดอกกุหลาบที่แพงที่สุดในโลก โดย David Austin นักเพาะพันธุ์กุหลาบชาวอังกฤษได้ใช้เวลากว่า 15 ปี ในการพัฒนากุหลาบพันธุ์นี้ขึ้นมา Juliet Rose ถูกจัดแสดงแก่สาธารณชนครั้งแรกที่งาน The Chelsea Flower Show ปี 2006 ด้วยความที่ดอกกุหลาบชนิดนี้เป็นกุหลาบสีพีช ทรงของดอกเป็นทรงถ้วย แถมกลีบดอกยังเรียงซ้อนกันเป็นระเบียบสวยงาม จึงทำให้มันมีราคาสูงถึง 15.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เป็นยังไงกันบ้างครับ หวังว่าทุกคนคงจะได้รับรู้เรื่องราวและเกร็ดความรู้ของดอกกุหลาบไปไม่มากก็น้อยนะครับ สำหรับวันนี้คงต้องขอตัวลาไปก่อน
แล้วพบกันใหม่กับเรื่องราวสนุก ๆ และมีสาระในตอนหน้านะครับ
Written by TINE A-ROUND
โฆษณา