26 ก.พ. 2021 เวลา 12:16 • ข่าว
EP.98 “Bad Nana”
“ความรัก” ดูเป็นสิ่งที่สวยงามและหอมหวาน ใครๆก็อยากมีความรักทั้งนั้น โดยเฉพาะความรักที่เป็นความรักแบบคู่ชีวิต
1
ในเรื่องที่เราจะเขียนต่อไปนี้ เราจะเล่าถึงความรักเหมือนกัน แต่เป็นความรักที่แสนจะ “ป่วง”ความรักที่เราไม่เข้าใจว่าเขาทนอยู่กันไปได้ยังไง ความรักของผู้หญิงที่มีชื่อว่า “Katherine Knight”
Katherine Knight
หรือจริงๆแล้วมันไม่ใช่ความรัก? มันเป็น “ความกลัว” กันแน่? เพราะความรักของอาชญากรคนที่เราจะเล่าให้ฟังนี่แหละ ทำให้ Katherine Knight กลายเป็นผู้หญิงคนแรกของประเทศออสเตรเลียที่ถูกพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิต แบบไม่ให้มีโอกาสออกมาเห็นแสงเดือนแสงตะวันอีกเลย
เรื่องนี้เราทำเป็นคลิปไว้ หากใครอยากดูแบบคลิปดูได้ที่นี้ค่ะ:
The Vicious Circle: เรื่องราวแบบ “ป่วง” มันเริ่มขึ้นมาตั้งแต่ก่อน Katherine จะเกิดอีก
 
เมือง Aberdeen รัฐนิวเซ้าท์เวลล์ ประเทศออสเตรเลีย เมืองเล็กๆที่มีอุตสาหกรรมใหญ่อยู่ไม่กี่อย่าง ในเมืองนี้มีครอบครัว Roughan อาศัยอยู่ ประกอบไปด้วย Jack ผู้เป็นพ่อ Barbara ผู้เป็นแม่ ทั้งครอบครัวนี้มีลูกด้วยกัน 6 คนด้วยกัน ไม่นานก็เกิดเสียงซุบซิบนินทาของผู้คนในเมืองขึ้น (เมืองเล็กๆ คนรู้จักกันหมด นินทากันเรื่องอะไรก็รู้กันทั่วเมือง) ทำให้ Barbara นั้นถูกบังคับกลายๆให้ย้ายไปอยู่กับ “Ken Knight” เพื่อนร่วมงานของ Jack เหตุก็เพราะว่า Barbara กับ Ken นั้นแอบคบชู้กันนั้นเอง
1
หลังจากที่ย้ายไปอยู่กับ Ken แล้ว ลูกๆบางส่วนย้ายไปอยู่กับ Jack ผู้เป็นพ่อ และอีกสองคนย้ายไปอยู่กับญาติที่เมือง Sydney (ไม่มีใครย้ายมาอยู่กับ Barbara) ส่วน Barbara กับ Ken นั้นก็มีลูกด้วยกันอีก 4 คนด้วยกัน โดยสองใน 4 คนนั้นเป็นฝาแฝดผู้หญิงทั้งคู่ ชื่อ “Katherine” กับ “Joyce” ที่ถือกำเนิดในปี 1955
ชีวิตครอบครัวของ Katherine นั้นไม่ดีมากนัก ไม่สิ ต้องพูดว่าลงเหวไม่รู้จะลงยังไง เพราะ Ken Knight ผู้เป็นพ่อนั้นเป็นคนติดเหล้าอย่างนัก และพอดื่มเหล้าก็จะชอบทะเลาะตบตี Barbara ผู้เป็นภรรยาเป็นประจำ นอกจากจะตบตี Barbara แล้ว Ken ก็มักจะชอบใช้กำลังข่มขืน Barbara เมื่ออยากจะมีเพศสัมพันธ์ โดยไม่สนใจว่า Barbara จะยอมหรือไม่ยอมก็ตาม ที่แย่มากๆเลยคือ ทั้งเรื่องตบตี ด่าทอ ใช้กำลังและข่มขืนนั้น ทำต่อหน้าลูกๆแบบไม่สนใครอะไรทั้งสิ้น (but soap มาก)
2
Ken นั้นว่านิสัยแย่แล้ว แต่ Barbara ก็ไม่น้อยหน้า Barbara ชอบเล่าเรื่องประสบการณ์ทางเพศ หรือเรื่องเพศสัมพันธ์ของตัวเองให้ลูกๆฟัง เธอมักจะบอกกับลูกๆว่าเธอเกลียด Ken และ เกลียด ผู้ชาย แต่ก็ไม่ยอมหย่ากับ Ken ซักที
เมื่อเด็กๆในครอบครัวนี้โตขึ้นก็เป็นอันรู้กันของคนในเมืองว่า เด็กๆของครอบครัวนี้ชอบใช้ความรุนแรง เป็นเด็กที่ชอบ bully เด็กที่เล็กกว่า มิหนำซ้ำยังชอบพากันไปทะเลาะตบตีกับเด็กคนอื่น และตบตีกันเอง Katherine นั้นยังเคยใช้กำลังกับครูอีกด้วย
2
พออายุได้ 15 ปี Katherine ก็ออกจากโรงเรียน ทั้งๆที่ยังอ่าน-เขียนหนังสือไม่ได้ แต่นั้นไม่ใช่ปัญหา เพราะไม่นาน Katherine ก็ได้งานที่เธอใฝ่ฝันมานาน หรืองานที่เป็น “Dream Job” ของเธอเลยทีเดียว นั้นก็คืองานในโรงฆ่าสัตว์นั้นเองค่ะ
Katherine เริ่มงานในโรงฆ่าสัตว์เมื่อตอนอายุ 16 ปี และทำงานเป็นคนงานในแผนกแล่เนื้อ เลาะกระดูก เพื่อนร่วมงานของ Katherine มักจะเห็น Katherine ชอบไปแอบดูพนักงานในโรงฆ่าสัตว์ ทำการเชือดสัตว์ต่างๆที่ถูกต้อนเข้ามา (ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ชอบไปแวะดูเหมือนเราขอแวะไปเดินใน park เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ แต่ Katherine ชอบเดินไปดูสัตว์ถูกฆ่า)
ทำงานมาไม่นาน Katherine ก็ถูกเลื่อนขั้นให้เป็นคนเชือดสัตว์เสียเองและเธอก็ดูจะภูมิใจกับตำแหน่งนี้มาก ที่แปลกเลยคือ แทนที่จะรีบเชือดสัตว์แบบรวดเร็วให้สัตว์นั้นทรมานน้อยที่สุด Katherine จะเลือกปาดคอสัตว์ แต่จะไม่ปาดลึก จะปาดให้สัตว์นั้นเลือดไหลออกมาและตายแบบช้าๆในขณะที่ Katherine มองดูด้วยความชอบใจ
1
พอได้เลื่อนขั้น ที่ทำงานก็มอบชุดมีดให้กับ Katherine หนึ่งเซ็ท ซึ่งนำพาความภาคภูมิใจให้กับ Katherine เป็นอย่างมาก เธอมักจะเอามีดเซ็ทนี้วางไว้ที่บนโต๊ะข้างเตียง หรือแขวนไว้บนผนังข้างเตียงเสมอ เพราะ “เผื่อจะได้ใช้” นั้นเอง
1
………..….มันคงไม่แปลกมากเท่าไหร่ หาก Katherine นั้นเข้านอนคนเดียว
*** ต่อไปนี้เราจะแบ่งเรื่องความรักของ Katherine ออกเป็น 4 ตอนใหญ่ๆนะคะ จะได้เห็นถึงรายละเอียดความป่วงที่ทำให้เราถึงกับกุมขมับ ชื่อก็จะคล้ายๆกัน เพื่อไม่ให้งง จะพยายามใช้ตัวย่อเสริม
ความรักที่ 1: David Kellette
เมื่อเริ่มทำงานในโรงงานฆ่าสัตว์ Katherine ออกเดทและคบหากับ David K. เพื่อนร่วมงาน David K.เป็นคนชอบดื่มเหล้า และมักจะมีเรื่องชกต่อยกับผู้ชายคนอื่นที่บาร์อยู่เสมอ และชาวเมือง Aberdeen ก็ไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ ที่เวลาเห็น David K. ทะเลาะชกต่อยกับคนอื่นก็จะเห็น Katherine แฟนสาว ร่วมวงเข้าไปชกต่อยกับผู้ชายพวกนั้นด้วย
**Katherine นั้นเป็นผู้หญิงที่รูปร่างสูงใหญ่ สูงกว่า David K. แฟนหนุ่ม มือไม้ใหญ่เหมือนผู้ชาย และเป็นผู้หญิงที่แข็งแรงมากจริงๆค่ะ
เมื่อ Katherine อายุได้ 18 ปี เธอก็บังคับ (บังคับเลยนะ) ให้ David K. แต่งงานด้วย ในวันที่กำลังจะเข้าพิธีแต่งงาน Barbara แม่ของ Katherine บอกกับ David K. ว่า Katherine ลูกสาวคนนี้นะ เป็นคนที่เหมือนจะขาดๆเกินๆและมีอารมณ์รุนแรงมากนะ David ก็ระวังตัวละกัน ระวังว่าจะถูก Katherine ฆ่าเข้าซักวันนึง (เออ เอาเข้าไป คำอวยพร มงคลชีวิตเหลือเกิน)
David Kellete กับ Katherine Knight ในวันแต่งงาน
ความรุนแรงของชีวิตคู่ระหว่าง Katherine กับ David K. นั้น เกิดขึ้นในคืนแรกของคืนวันแต่งงานเลยทีเดียว David K. ที่กำลังนอนอยู่ ถูกปลุกให้ตื่นเพราะเจอเข้ากับ Katherine ที่กำลังบีบคอและชกต่อยไปที่หน้าของเขาด้วยความโมโห เหตุเพียงแค่เพราะว่า ในคืนแต่งงานคืนนั้นทั้งคู่มีอะไรด้วยกันแค่ 3 ครั้ง เนื่องจาก Katherine ไปได้ยิน Barbara แม่ของเธอนั้นบอกว่าในคืนแต่งงานของ Barbara นั้น Barbara มีเพศสัมพันธ์กับสามี (ไม่รู้คนไหน) ถึง 5 ครั้งด้วยกัน ……..(ไม่ใช่แค่คุณอึ้ง เราก็อึ้ง อึ้งหนึ่งคือ Barbara จะมาบอกลูกทำไม อึ้งสอง ทำไมต้องโกรธ อึ้งสามคือ….จะเอากี่ครั้งห่ะ????!!!)
2
หลังจากนั้นมา ความสัมพันธ์ของ Katherine กับ David K. ก็เต็มไปด้วยความรุนแรง….จากฝ่าย Katherine เอง (บางคืน David K. ตื่นขึ้นมามีมีดของ Katherine ที่ใช้ฆ่าสัตว์นั้นแหละค่ะมาจ่อที่คอ พอ Katherine เห็นก็หัวเราะ บอกกับ David K. ว่า มันง่ายแค่ไหนหากเธอคิดจะ “ฆ่า” เขาจริงๆ) ถึงแม้ว่าทั้ง David K. กับครอบครัว David K. จะบอกว่า ปรกติแล้ว Katherine นั้นก็เป็นคนที่น่ารักและนิสัยดีคนนึง แต่เหมือนจะโมโหง่ายกับเรื่องอะไรเล็กๆน้อยๆ และเมื่อโมโหแล้วก็จะโมโหร้าย แต่หากไม่มีเรื่องอะไรไปสะกิดให้โมโห Katherine ก็เป็นคนที่อ่อนหวานน่ารักเลยทีเดียว
ไม่นานหลังจากที่แต่งงานกัน Katherine ก็ตั้งท้องลูกคนแรก เมื่อท้องแก่ มีอยู่วันนึง David K. กำลังแข่งขันปาลูกดอกอยู่ที่ผับแห่งนึง Katherine โทรศัพท์ไปหา David K.และตามให้ David K.นั้นกลับบ้าน แต่ David K. บอกว่า ขอให้แข่งขันเสร็จก่อนแล้วจะรีบกลับ เมื่อเขากลับถึงบ้านก็พบว่า Katherine นั้นเอาข้าวของเครื่องใช้ของเขา ใส่ลงไปในอ่างอาบน้ำและจุดไฟเผา เท่านั้นยังไม่พอ Katherine ยังเอากะทะมาฟาดเข้าที่หัวของ David K.อย่างแรง David K. กระเสือกกระสนไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน ก่อนจะล้มลงหมดสติไป
เมื่อถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล David K. นั้น บาดเจ็บรุนแรงถึงขั้นกระโหลกร้าว และตำรวจอยากให้เอาผิดกับ Katherine แต่ David K. ก็ทำไม่ลง และตัดสินใจไม่แจ้งความ (Katherine นั้นโน้มน้าว David K. และนอกจากนั้นคงท้องแก่มาก David K. ก็ไม่อยากให้เมียท้องแก่เข้าไปอยู่ในคุก)
ความสัมพันธ์นั้นมาถึงจุดนี้ก็ดูจะกู่ไม่กลับ ในปี 1976 หลังจากที่ Katherine ให้กำเนิดลูกสาวคนแรก Melissa ได้เพียงแค่ 2 อาทิตย์ David K. ก็ไปคบกับผู้หญิงคนใหม่ และแอบหนี Katherine กับลูกไปอยู่ที่รัฐ Queensland ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า Katherine นั้นโมโหและโกรธแค่ไหน เธอโกรธมาก จนเอาความโกรธไปลงกับลูก ผู้คนมักจะพบเห็น Katherine เข็นรถเข็นเด็กไปตามถนน แล้วเหวี่ยงรถเข็นกระแทกรั้วไปมา บางทีก็เข็นไปเกือบให้รถเข็นโดนรถชน ที่แย่สุดเลยคือในตอนที่ Melissa นั้นอายุได้สองเดือน Katherine เอาลูกน้อย ไปวางไว้บนรางรถไฟ ก่อนจะเดินจากไป พร้อมกับไปขโมยขวานที่วางไว้อยู่หลังบ้านชาวบ้านแถวนั้น แล้วเอาไปแกว่งไปมา พร้อมขู่ฆ่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาอีกด้วย
โชคดีที่มีคนเดินไปเจอหนูน้อย Melissa แล้วเอาเด็กออกมาได้ทันก่อนที่รถไฟจะเดินทางมาถึงเพียงแค่ไม่กี่นาที เจ้าหน้าที่พาตัว Katherine ไปรักษาอาการทางจิตที่แพทย์ระบุว่าน่าจะเกิดจากสภาวะซึมเศร้าหลังคลอด ก่อนที่จะปล่อยตัว Katherine ออกมาในวันรุ่งขึ้น และคืนลูกกลับไปให้กับเธออีกด้วย (สมัยนี้น่าจะไม่ได้นะคะ แต่สมัยก่อนเหมือนมันไม่ค่อยมีตัวเลือกมากนัก)
หลังจากนั้นเพียงแค่ 2 อาทิตย์ Katherine ก็ก่อเหตุอีก ในคราวนี้ Katherine ไปขอให้เพื่อนบ้านที่เป็นแม่บ้าน อยู่บ้านดูแลลูกเล็กๆ ขับรถพาเธอไปส่งโรงพยาบาล เพราะเธอคิดว่า Melissa ไม่สบายมาก เพื่อนบ้านตกลง บอกให้ Katherine ไปเตรียมตัวลูกแล้วจะขับรถไปรับ เมื่อเพื่อนบ้านมาถึงพร้อมกับรถ Katherine อารมณ์เสียเป็นอย่างมาก เพราะเพื่อนบ้านเอาลูกของเธอมาด้วย (เออ ก็ถ้าเขาไม่เอามา ใครจะดูแลลูกให้เขา) Katherine ชักมีดขึ้นมาขู่ (ปาดไปมาจนปลายมีดไปโดนแก้มของลูกสาวของเพื่อนบ้าน) บังคับให้เพื่อนบ้านคนนี้ขับรถพา Katherine ไปส่งที่ Queensland เพราะเธอจะไปตามหาตัว David K. ผู้เป็นสามี
เพื่อนบ้านคนดังกล่าว เกลี้ยกล่อม Katherine ให้หยุดที่ปั้มน้ำมันที่หนึ่งเพื่อเติมน้ำมัน Katherine นั้นเห็นด้วย เมื่อจอดที่ปั้มได้ Katherine เดินอุ้ม Melissa เข้าไปที่ร้านค้าเล็กๆในปั้ม ก่อนที่เพื่อนบ้านจะพาลูกหนีไปซ่อนยังห้องแห่งนึงที่อยู่ในปั้ม แล้วบอกพนักงานให้แจ้งตำรวจ เมื่อ Katherine เห็นดังนั้นแล้วก็โกรธมาก เธอไปถอดเอาใบมีดของรถแทรคเตอร์ (รถไถที่เอาไว้เก็บเกี่ยวพืชผลทางการเกษตร) แล้วเอาใบมีดนั้นฟันไปยังประตูที่กั้นระหว่างเธอกับเพื่อนบ้าน (ในระหว่างที่ทำนี่ก็ทำมือเดียวหมดนะคะ เพราะอีกมือก็อุ้มลูกเบบี๋ไว้ด้วย คิดดูว่าเธอแข็งแรงขนาดไหน) พอเปิดประตูเข้าไปได้ก็ไปคว้า เด็กผู้ชายคนนึงที่เป็นลูกของเพื่อนบ้านไว้เป็นตัวประกัน ในตอนนั้นตำรวจมาถึงพอดี แล้วตำรวจก็ต้อน Katherine ให้จนมุมโดยการใช้ไม้กวาด (ใช่แล้ว อ่านไม่ผิด) แล้วช่วยเหลือตัวประกันออกมาได้ในที่สุด
3
หลังจากนั้น Katherine ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลจิตเวชและลูกน้อย Melissa ก็ถูกส่งตัวไปให้ Barbara ผู้เป็นยายเลี้ยงดูชั่วคราว Katherine สารภาพกับเจ้าหน้าที่ว่า เธอไม่ได้อยากทำร้ายใคร ไม่ได้อยากทำร้ายเพื่อนบ้าน แต่ไปที่ปั้มดังกล่าวเพื่อที่พยายามจะหาตัวช่างเครื่องคนนึง ที่ซ่อมรถให้กับ David K. เพราะหากช่างคนนี้ไม่ซ่อมรถ David K.ก็จะไม่สามารถหนีเธอไป Queensland ได้ และเมื่อฆ่าช่างเครื่องคนนี้เสร็จ เธอจะไปหาตัว David K. กับ แม่ David K. แล้วฆ่าสองคนนี้ทิ้งซะ (เออ เอาเข้าไปไหนบอกไม่ได้อยากทำร้ายใคร)
3
เมื่อตำรวจแจ้งเรื่องไปยัง David K. เขาตัดสินใจทิ้งแฟนสาวที่หนีไปด้วยกัน (และในตอนนั้น ตั้งท้องลูกของเขาแล้ว) ขับรถไปรับแม่ตัวเองแล้วก็ไปรับ Katherine ออกจากโรงพยาบาล เมื่อรับ Katherine ออกจากโรงพยาบาลก็ขับรถไปรับ Melissa ต่อที่บ้าน Barbara
1
**ผู้ชายนี่ก็นะ สมควรโดนด่าพอกัน
Barbara เมื่อเห็น David K. ก็โกรธเป็นอย่างมาก ตอนนั้น David K. นั่งอยู่ในรถ Barbara ถึงกับ เดินเข้าไปคว้าคอเสื้อ David K. แล้วเริ่มชกเขาที่หน้าหลายที (น่าจะเพราะโกรธแทนลูกสาว) ท่ามกลางความตกใจของ David K. และแม่ของ David K. พอ Katherine เห็นดังนั้นก็วิ่งเข้ามา คว้าตัวแม่ตัวเองแล้วต่อยเข้าหน้า Barbara จน Barbara ถึงกับนอนสลบอยู่บนสนามหน้าบ้านนั้นเอง (แค่อ่านก็เหนื่อย ป่วงสุดๆ)
1
ทั้ง David K.กับ Katherine ตัดสินใจย้ายไปอยู่กับแม่ของ David K.ที่เมือง Brisbane และมีลูกคนที่สองในปี 1980 ที่มีชื่อว่า Natasha แต่ถึงกระนั้นเอง ทุกอย่างก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ David K. จับได้ว่า Katherine นั้นคบชู้ ถึงขั้นเอาผู้ชายมานอนที่บ้าน แต่เขาก็ยังให้อภัย Katherine และพยายามอยู่เป็นครอบครัวเหมือนเดิม จนในปี 1983 Katherine นั้นไม่อยากอยู่กับ David K. อีกต่อไป ด้วยเหตุผลอะไรไม่รู้ เธอทิ้ง David K. และพาลูกทั้งสองคน ย้ายกลับมาอยู่ที่เมือง Aberdeen ในรัฐนิวเซ้าท์เวลล์ และเริ่มเข้าทำงานในโรงฆ่าสัตว์เหมือนเดิมอีก
ความรักที่ 2: David Sauders
ในปี 1984 Katherine เจอเข้ากับ David Sauders เพื่อนร่วมงานที่ทำงานในโรงฆ่าสัตว์เหมือนกัน David S. เป็นคนขยันทำงาน และชอบสุนัขเป็นอย่างมาก เขาย้ายเขามาอยู่กับ Katherine กับลูกหลังจากที่คบหากันได้ไม่กี่เดือน
**ในตอนนั้น Katherine เกิดเจ็บหลัง และรักษาอาการเจ็บหลังนี่จนได้สิทธิเป็น “ผู้พิการ” เมื่อเป็นผู้พิการแล้วรัฐก็มีสวัสดิการให้ หนึ่งในนั้นคือมีอพาร์ทเม้นท์ให้อยู่ฟรีนั้นเองค่ะ
หลังจากย้ายมาอยู่กับ Katherine แล้ว David S. ก็ไม่ยอมขายอพาร์ทเม้นท์ของตัวเอง และนี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ Katherine ทะเลาะกับ David S. อยู่เสมอ พอทะเลาะกันที Katherine ก็จะไล่ David S. ออกนอกบ้านที ทำให้ David S. ย้ายกลับไปอยู่ที่อพาร์ทเม้นท์ของตัวเอง (เออ ก็รู้แล้วทำไมเขายังไม่ขาย เป็นแบบนี้เราก็ไม่ขายเหมือนกัน)
1
ในปี 1987 หลังจากที่ Katherine มาที่บ้าน และทะเลาะกับ David S. อย่างรุนแรง เธอหุนหันออกไปยังสนามหลังบ้าน แล้วเงียบหายไปเลย David S.เห็นว่าผิดสังเกตเลยเดินออกไปดู เห็นว่า Katherine กำลังอุ้มลูกสุนัข Dingo วัย 8 อาทิตย์ของเขาอยู่ เมื่อ David S. เดินออกมา Katherine ทำการปาดคอลูกสุนัขตัวดังกล่าวต่อหน้า David S. เพื่อสั่งสอน David S. ว่า หากทำอะไรให้เธอไม่พอใจอีก David S. ก็อาจจะมีชะตากรรมเหมือนลูกสุนัขของเขา
2
***เหมือนกับที่บอกในคลิป หากใครมาทำร้ายก้อย ก้อยยังสามารถให้อภัยได้ บางทีด่าว่าเรา ทำร้ายเรา เราอาจจะยังไม่โกรธ อโหสิกรรมกันไปได้ แต่หากมาแตะหมาแมว ลูกน้อยกลอยใจของเรานี่ อย่าว่าถึงปาดคอเลย ตะโกนใส่หรือตี นี่ก็พร้อมลุยมาก ตายเป็นตาย สติหลุดขาดผึงทันที ไม่เจรจาอะไรทั้งสิ้น
….แต่ David ก็ยังกลับไปคบกับ Katherine อีก ไม่รู้ด้วยเหตผลอะไร (ที่อ่านมาหลายแห่ง เขาว่ากันว่า เพราะ Katherine นั้นค่อนข้างจะเก่งเรื่องบนเตียง 🙄🙄🙄) จนในปี 1988 Katherine ก็ตั้งท้องกับ David S. และคลอดลูกสาวที่มีชื่อว่า Sarah หลังจาก Sarah เกิด David S. ตัดสินใจเอาเงินเก็บของตัวเองมาจ่ายเงินค่า deposit เพื่อซื้อบ้าน และเพื่อให้ Katherine กับลูกๆและตัวเขา ย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกัน Katherine นั้นชอบบ้านหลังนี้มาก เธอตกแต่งบ้านหลังนี้…..ด้วยซากสัตว์ที่เธอล่ามา ไม่ว่าจะเป็นเขา หนัง โครงกระดูก
1
ไม่นาน David S. กับ Katherine ก็ทะเลาะกันอีก คราวนี้ Katherine เอากรรไกรแทงที่ท้องของ David S. และเอาเตารีดฟาดเขาอย่างจัง การถูกทำร้ายในครั้งนี้ทำให้ David S. หนีไปกบดานที่เมืองอื่น ไม่บอกใครเลย ไม่บอกแม้แต่เพื่อนร่วมงาน เขาหนีไปเมืองอื่นและหางานทำที่อื่น จนทำให้ Katherine โมโหและงุ่นง่านเป็นอย่างมาก เธอถึงกับไปขอหมายศาล ไม่ให้ David S.เข้าใกล้เธอกับลูก โดยอ้างว่าถูก David S. ทำร้ายร่างกาย ส่งผลให้ David S. ผู้ย้อนกลับมาในภายหลังเพื่อที่จะพยายามมาเยี่ยมลูกนั้น ไม่สามารถติดต่อ หรือพบเจอกับลูกได้อีก
ความรักครั้งที่ 3: John Chillingworth
ในปี 1990 Katherine พบรักอีกครั้งกับ John C. ในครั้งนี้ Katherine ก็ตั้งท้องกับ John C. และคลอดลูกชายที่มีชื่อว่า Eric ความสัมพันธ์ก็เหมือนเดิมกับคนก่อนหน้านี้ แต่ Katherine นั้นอยู่กับ John C. ได้แค่เพียง 3 ปี ก็ทิ้งเขาไป
นั้นก็เพราะในตอนนั้น Katherine แอบซุ่มคบชู้ดูใจกับผู้ชายคนใหม่ที่เธอพบเจอ John Price นั้นเอง
ความรักครั้งที่ 4: John Price
John Price หรือที่คนสนิทมักจะเรียกว่า Pricey นั้นแตกต่างจากคนอื่น เขาไม่ได้ทำงานที่โรงฆ่าสัตว์ แต่ทำงานเป็นคนงานในเหมือง John Price เคยมีครอบครัวมาก่อนและแยกทางกับ Colleen ผู้เป็นอดีตภรรยาในปี 1988 ลูกสองคนโตย้ายมาอยู่กับ John P. ส่วนลูกคนเล็กนั้นอาศัยอยู่กับ Colleen ทั้ง John P. กับ Colleen นั้น แม้จะแยกทางกันก็ยังไม่ได้เซ็นใบหย่าตามกฎหมาย และยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันอยู่
John Price
Katherine ย้ายเข้ามาอยู่กับ John P.ในปี 1995 และลูกๆของ John P. ก็เข้ากับ Katherine ได้เป็นอย่างดี โดยปรกติแม้จะมีการโต้เถียงด่าทอกันรุนแรงบ้าง แต่นอกจากนั้นก็ดูเหมือนความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะเป็นไปด้วยดี (มั้ง)
1
ในปี 1988 John P. กับ Katherine ทะเลาะกันอย่างรุนแรงเพราะ John P.ไม่ยอมแต่งงานกับ Katherine เธอถึงกับขโมยเงินของ John P.ไปซื้อแหวนหมั้น แต่ John P. ก็ยังยืนยันว่าจะไม่แต่งงานกับเธอเด็ดขาด ที่เห็นจะเป็นการจุดไฟเผาทุ่งของ Katherine คือการที่ John P. นั้นใส่ชื่อลูกทั้งสามคนในพินัยกรรม ยกบ้านหลังที่เขาอยู่ให้กับลูกๆ Katherine โมโหเป็นอย่างมาก และแก้แค้น John P. ด้วยการอัดวิดิโอบรรดาของที่ John P.เอามาจากที่ทำงานใส่ไว้ในโรงรถ ก่อนจะส่งเทปวิดิโอนั้นไปให้ที่ทำงานของ John P. และให้ตำรวจ
John Price กับ Katherine Knight ไม่นานก่อนที่จะเกิดเรื่อง
**ของที่ John P. เอามา มันเป็นพวกอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่หมดอายุแล้ว ที่ทำงานโยนทิ้งค่ะ แต่ John P. คิดว่ามันยังใช้ได้อยู่เลยเก็บเอามาไว้ที่โรงรถ แต่ในทางกฎหมายมันถือว่าเป็นการขโมยหรือลักทรัพย์นายจ้างอยู่ดี John P. เลยโดนไล่ออก
เพราะการกระทำของ Katherine ในครั้งนี้ John P. เลยถูกไล่ออกจากงานที่ทำมาทั้งสิ้น 17 ปีด้วยกัน แค่นั้นยังไม่พอ บำนาญที่เก็บสะสมมา ก็หายวับตามไปด้วย John P. นั้นโกรธจัด เขาไล่ Katherine ออกจากบ้านในทันที
…….แต่ทุกคนอาจจะเดาได้ ไม่กี่เดือนหลังจากนั้น John P. ก็กลับไปคบกับ Katherine เหมือนเดิม แต่ไม่ยอมให้ย้ายกลับเข้ามาอยู่ด้วยกันที่บ้านอีกแล้ว ทั้งคู่ทะเลาะกันบ่อยขึ้น จนบรรดาเพื่อนๆ ญาติๆถึงกับเพื่อหน่าย ไม่อยากมาหา หรือคบหากับ John P. หากมี Katherine อยู่ด้วย
ในที่สุดความหายนะก็มาถึง:
ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2000 John P. ก็ไม่สามารถทนกับความรุนแรงของ Katherine ได้อีกต่อไป หลังจากที่โดนแทงเข้าที่หน้าอก (เอิ่ม……) เขาตัดสินใจวางแผนที่จะเลิกรากับ Katherine อย่างเด็ดขาด
วันที่ 29 กุมภาพันธ์ ปี 2000 John P. ผู้ที่ในขณะนี้หางานทำที่ใหม่ได้แล้ว ตัดสินใจลางานในช่วงเช้า เพื่อไปยื่นคำร้องขอหมายศาล ไม่ให้ Katherine มาเข้าใกล้เขาและลูกๆอีก เมื่อกลับมาที่ทำงาน เขาปรับทุกข์กับเพื่อนร่วมงาน พร้อมกับบอกว่า หากเขากลับบ้านไปในคืนวันนี้และไม่กลับมาทำงานในวันรุ่งขี้นให้สันนิษฐานได้เลยว่า เขาถูก Katherine ฆ่าไปแล้วนั้นเอง เพื่อนร่วมงานพยายามเกลี้ยกล่อมไม่ให้เขากลับบ้าน แต่ John P. เป็นห่วงลูก เขากลัวว่า หาก Katherine ไม่เจอเขา อาจจะไปพยายามเล่นงานลูกเขาแทน
**คิดว่าในตอนนั้น John P.อาจจะพูดทีเล่นทีจริง ไม่ได้คิดว่าตัวเองนั้นจะโดนฆ่าจริงๆนะคะ
ในวันนั้น John P.กลับมาบ้าน แต่ไม่พบใคร ลูกๆทั้งสองไปนอนค้างคืนที่บ้านเพื่อน John P. กินอาหารเย็น ดูทีวี คุยกับเพื่อนบ้านก่อนเข้านอน หลังจากนั้นไม่นาน Katherine มาถึงที่บ้านของ John P. พร้อมกับชุดชั้นในหวาบหวิวสีดำที่เธอซื้อมาเมื่อตอนกลางวัน Katherine ปลุก John P. ขึ้นมาเพื่อมีเพศสัมพันธ์กัน ก่อนที่ John P. จะเผลอหลับไป
John P. ตื่นมาอีกครั้งด้วยความเจ็บปวด เพราะ Katherine นั้นกระหน่ำแทงเขาด้วยมีด John P. พยายามจะลุกขึ้น และวิ่งหนีออกไปที่ประตูหน้าบ้าน แต่พ้นประตูออกไปไม่เท่าไหร่ เขาก็ล้มลงจากอาการบาดเจ็บ Katherine ตามมาดึงตัว John P. กลับเข้าไปในบ้าน กระหน่ำแทงเขาอีกจน John P. ขาดใจตาย John P. นั้น ถูก Katherine กระหน่ำแทงทั้งสิ้น 37 แผลด้วยกัน
1
เท่านั้นยังไม่พอ หลังจากที่ John P. ตายแล้ว Katherine บรรจงเอามีด เลาะหนัง John P. ออกมา แล้วเอาไปแขวนไว้ตรงหน้าต่าง เธอตัดหัว John P. ออกแล้วเอาไปใส่ในหม้อต้ม พร้อมกับผักอื่นๆที่หั่นเตรียมไว้ Katherine จัดโต๊ะทานอาหารไว้เป็นเซ็ท 2 เซ็ท แล้วก็ทิ้งโน้ตที่มีชื่อลูกๆของ John P. ไว้ (ข้างในเขียนประมาณว่า เพราะ John P. กำลังจะทิ้งเธอไป เธอเลยต้องทำแบบนี้) ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อกินยาตาย
เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อ John P. ไม่ไปทำงานในตอนเช้า เพื่อนร่วมงานก็เป็นห่วงเลยขับรถมาที่บ้านเพื่อที่จะดูว่าเกิดอะไรขึ้น พอมาถึงก็พบกับรถของ John P.ที่ยังจอดอยู่หน้าบ้าน แต่เรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีใครมาเปิด ที่น่ากลัวคือ ตรงบันไดหน้าบ้านมีเลือดนองอยู่กองนึง เพื่อนร่วมงานตัดสินใจโทรหาเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เจ้าหน้าที่มาถึงและพังประตูเข้าไปในบ้าน ก่อนจะพบกับ Katherine ที่นอนสลบอยู่บนเตียง เจ้าหน้าที่นำตัว Katherine ส่งโรงพยาบาล และมาตรวจตรารอบบ้านว่าเกิดอะไรขึ้น เจ้าหน้าที่บางคนถึงกับต้องขอตัวไปอาเจียน (ในการตรวจสถานที่เกิดเหตุครั้งนี้ เจ้าหน้าที่บางคนถึงกับต้องเข้ารับการบำบัดทางจิต กลายเป็น PTSD เลยทีเดียว)
ทั้งบ้านของ John P. นั้นมีแต่รอยเลือด บางรอยสาดกระเซ็นไปจนถึงเพดาน ศพของ John P. ถูก mutilate อย่างหนัก นอกจากนั้นแล้ว ตำรวจนายที่เดินไปเปิดหม้อบนเตาถึงกับช็อก เพราะเจอกับลูกตาสองลูกของ John P. มองออกมาจากหม้อนั้นเอง
เมื่อ Katherine นั้นอาการดีขึ้นแล้ว ตำรวจพยายามจะสอบถามเธอ เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น Katherine นั้นพยายามจะบอกตำรวจว่าตัวเองจำไม่ได้ ไม่ว่าจะเรื่องที่เกิดขึ้น หรือการตายของ John และยืนยันว่าตัวเธอเองไม่รู้ตัวว่าทำอะไรลงไป ยืนยันแบบนี้จนกระทั่งขึ้นศาล
ก่อนที่จะขึ้นศาลนั้น ศาลส่งเธอไปตรวจสุขภาพจิต จิตแพทย์มีความเห็นว่า Katherine นั้นป่วยทางจิตจริง แต่ไม่ได้ถึงป่วยถึงขั้นที่จะเข้ารับการพิจารณาคดีไม่ได้
***การป่วยทางจิตมีหลายรูปแบบนะคะ การที่จะป่วยถึงขั้นที่จะไม่สามารถต่อสู้คดีในศาลได้นี่ รู้สึกจะต้องถึงขั้นไม่รู้ตัวจริงๆ ไม่สามารถสื่อสารได้รู้เรื่องประมาณนั้นเลย ดังนั้นเราจึงจะเห็นได้ว่าฆาตกร หรืออาชญากรหลายๆคน ถูกวินิจฉัยว่าป่วยทางจิตจริง แต่ยังต้องถูกส่งตัวขึ้นศาลและรับโทษเหมือนเดิม และจะถูกส่งตัวไปรักษาอาการทางจิตเพิ่มเติมหรือไม่ก็ว่ากันทีหลัง
ในระหว่างการพิจารณาคดี ฝ่ายกฎหมายของ Katherine พยายามต่อสู้ว่าเธอนั้นวิกลจริต และไม่รู้ตัวว่าตัวเองทำอะไรลงไป ซึ่งขัดกับพยานหลักฐานที่ทางฝ่ายรัฐนำเสนอมาคือ
1
🔪 ในตอนที่ Katherine ฆ่า John P. เธอเอาบัตรเอทีเอ็มเขาตระเวนกดเงิน ก่อนจะวกกลับมาที่บ้าน เพื่อมาชำแหละศพ John P.
🔪 ก่อนจะมาบ้าน John P. ในวันเดียวกันนั้นเอง Katherine เอากล้องวิดิโอ ไปอัดตัวเองกับลูกๆหลานๆ พร้อมทั้งกล่าวลอยๆ เหมือนจะสั่งเสียทิ้งไว้ และเอาลูกคนเล็กมาฝากไว้กับลูกสาวคนโต จนลูกสาวคนโตถึงกับทักว่า “แม่ไม่ได้จะเตรียมตัวไปฆ่า John P. ใช่ไหม?”
🔪 น้องชายแท้ๆของ Katherine ขึ้นให้การว่า Katherine นั้น เป็นคนบอกเขาเองว่า หากเธอฆ่า John P. เธอก็จะไม่ติดคุกหรอก เพราะเธอจะทำให้เหมือนกับว่าจริงๆแล้วเธอนั้นเป็นคนวิกลจริต
พยานหลักฐานดังกล่าว ส่งผลให้ศาลตัดสินมีคำพิพากษาให้ Katherine ถูกส่งตัวจำคุกตลอดชีวิต แบบไม่ให้ได้รับการประกันตัวหรือได้รับทัณฑ์บนทั้งสิ้น แถมยังต้องอยู่ในแดนที่เรียกว่าเป็นนักโทษที่มีความอันตราย ห้ามเข้าไปในเขตหวงห้ามบางเขต เช่น ห้องครัว ที่มีมีดอยู่เป็นต้น
🚨🚨🚨 >>>>เรื่องของ Katherine ทำให้เราละเหี่ยใจหลายเรื่อง เรื่องการอบรมเลี้ยงดูของพ่อแม่อย่าง Barbara กับ Ken ที่อาจจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ Katherine เป็นคนมีนิสัยแบบนี้ (บางทีเขาก็เลือกไม่ได้ว่าอยากจะเกิดมาในครอบครัวแบบไหน) และการ “ทน” อยู่กับความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยความรุนแรง จะเห็นได้ว่า ผู้ชายส่วนมาก หากไม่หนี Katherine ก็จะเป็น Katherine นั้นแหละที่เบื่อและทิ้งพวกเขาไปเอง (เพราะไม่มีใครทิ้ง Katherine ไปได้ อาจจะเพราะกลัวเธอด้วย)
ส่วนหนึ่งที่สำคัญมากของความรัก หรือความสัมพันธ์ คือการยอมรับเอาข้อเสียที่สุดของอีกฝ่ายมาคิดดูว่า เรารับข้อเสียนั้นได้ไหม และหากรับได้ หรือมีข้อดีมากกว่า ก็ต้องพยายามอยู่กับมัน หรือปรับตัวเข้าหากันให้ได้ แต่การทำร้ายร่างกายนั้น ไม่ใช่ข้อเสียค่ะ มันคือข้อห้ามเลย คนที่รักและหวังดีกับเรา จะไม่มีวันทำให้เราเสียใจหรือเจ็บปวดค่ะ เรื่องการทำร้ายร่างกายไม่ต้องพูดถึง เพราะหากสามารถลงไม้ลงมือกับเราได้แล้วนั้นไม่เพียงแต่เขาไม่รักเรานะคะ เขายังขาดคุณสมบัติของการเป็นคนที่ “เจริญแล้ว” อีกด้วย เพราะหากเขาสามารถทำร้ายคนที่รักและหวังดีกับเขาได้ คิดดูว่าเขาทำอะไรได้อีก? เราไม่ใช่มนุษย์ถ้ำนะคะ ไม่ต้องมานั่งทนกับอะไรแบบนี้
และที่สำคัญ ไม่ใช่ผู้หญิงที่เป็นฝ่ายที่ถูกทำร้ายได้เพียงฝ่ายเดียวนะคะ ผู้ชายก็เป็นเหยื่อได้เช่นกัน อย่าทน และอย่าอายที่จะระบาย ที่จะปรึกษาคนอื่นค่ะ อย่าคิดว่าเราต้องยอม เพราะเราเป็นเพศที่เข้มแข็งกว่า ไม่ว่าใครก็ไม่สมควรโดนทำร้ายทั้งสิ้นค่ะ
EP. เก่าๆดูได้อีกทางที่นี้ค่ะ
Facebook Page:
1
🐝Subscribe To My Youtube Channel🐝
Blockdit:
โฆษณา