27 ก.พ. 2021 เวลา 13:16 • ไลฟ์สไตล์
#เรามองโลกยังไงอยู่ที่สวมแว่นตาไหนมอง
วันก่อนเพลินไปกินข้าวกับเพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอกันนาน คุยกันสัพเพเหระจนไปถึงละครเรื่อง #ความรักครั้งสุดท้าย (เก่าหน่อยนะคะ ฮ่าๆ) เราคุยกันเรื่องนี้ในฐานะผู้หญิงที่โตแล้ว ผ่านทุกข์สุขในชีวิต ในรักกันมาพอสมควร เราสองคนมีเส้นทางชีวิตบางอย่างคล้ายกัน เมื่อมีปัญหา เรามักเข้าใจกันได้ดี
แต่หลังจากวันที่เพลินได้ลองปรับเปลี่ยนมุมมองต่อสิ่งต่างๆ รอบตัวแล้ว การพูดคุยแง่มุมชีวิตรสริน นางเอกในละครคนนั้น เพลินกลับพบว่าตัวเองกับเพื่อนมองต่างกันไม่น้อย
เรื่องคร่าวๆ คือ “รส” เคยมีความรักกับ “พัท" หนุ่มรุ่นน้องสมัยเรียน แต่ก็แยกจากกันเมื่อฝ่ายชายต้องไปเรียนต่อเมืองนอก รสใช้ชีวิตสนุกสนานอยู่สักพักก็ตัดสินใจแต่งงานกับ “ธี” ผู้ชายทำงานเก่ง สมบูรณ์แบบ และมีลูกด้วยกันสามคน
แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปรสกลับพบว่าตัวเองไม่มีความสุขเลย มีปากเสียงกับธีบ่อยเพราะความเห็น ทัศนคติ ความชอบอะไรไม่ตรงกันสักอย่าง ธีทำงานหนักหวังเก็บเงินสร้างครอบครัวให้มั่นคงจนละเลยครอบครัว ตำหนิติเตียน และดูถูกความเป็นศิลปินชอบวาดรูปของรส
เคยสัญญาว่าจะพารสไปเที่ยวฝรั่งเศสตั้งแต่ก่อนแต่งงานแต่ไม่เคยพาไป และนำเงินเก็บที่จะกันเป็นเงินไปเที่ยวเอาไปลงทุนหมด
รสทะเลาะกับธีบ่อยขึ้น และเริ่มตระหนักว่าไม่มีอะไรเหมือนกัน เข้ากันเลย เป็นจังหวะเดียวกับที่พัทกลับมาจากเมืองนอก พัทยังรักรส และทำให้รสนึกถึงความสุขสมัยก่อน และสบายใจที่จะอยู่พูดคุยกับพัทโดยที่ไม่ได้ทำอะไรเสียหาย แต่สร้างความไม่พอใจให้ธี
ธีเริ่มหึงหวงระแวงอีกหลายต่อหลายครั้ง และดูถูกดูแคลนรสทั้งเรื่องความรัก หน้าที่การงาน ความฝัน และเริ่มลงมือทำร้ายร่างกาย ด่าทอหยาบคาย แอบเอาลูกไปซ่อน
จนวันหนึ่งรสทนไม่ไหวต้องขอหย่ากับธี
เรื่องราวต่อจากนี้ยังมีอีกมาก แต่ประเด็นสำคัญอยู่ในส่วนที่เพลินเพิ่งเล่าไปข้างบน
เมื่อเพลินกับเพื่อนคุยกันถึงเรื่องนี้ เพื่อนเพลินพูดขึ้นว่า
“รสนี่ก็เกินไปเนอะ แค่แฟนไม่พาไปเที่ยวฝรั่งเศส ถึงกับต้องน้อยใจ กลับไปคุยกับกิ๊กเก่า”
เพลินฟังแล้วสะดุดหูนิดหน่อย เพราะเพลินมองต่างไปจากเพื่อนอย่างสิ้นเชิง
เพลินมองว่ารสมีความฝันอยากไปเที่ยวฝรั่งเศสตั้งแต่ก่อนแต่งงาน แม้ธีไม่ค่อยอินตามแต่ก็สัญญากับรสว่าจะพาไป เมื่อเวลาผ่านไปจนมีลูกสามคน ธีกลับไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก ไม่คิดเผื่อ และมองว่าไร้สาระ ขณะที่รสฝังใจว่าอยากไปและธีก็ให้สัญญา
แต่เรื่องนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของปัญหาที่ทำให้รสกลับไปคุยกับพัทอีกครั้ง เพราะมีปัญหากับธีทุกๆ ด้านจนต้องมาถามตัวเองว่า
“ทำไมฉันถึงแต่งงานกับผู้ชายคนนี้ ในเมื่อไม่มีอะไรเข้ากันเลยสักนิด”
รสไม่ได้น้อยใจเรื่องฝรั่งเศสจนต้องมาคุยกับพัท
แต่รสทนธีไม่ไหว
กลับมาที่เรื่องความเห็นของเพื่อนเพลิน...
จริงๆ ไม่มีผิดถูก ทุกคนมองโลกผ่านมุมมอง ประสบการณ์ ความเชื่อของตัวเอง แล้วกลั่นกรองออกมาเป็นทัศนคติ ความคิด หรือคำพูดที่มีต่อคนๆ นั้น หรือเหตุการณ์นั้นๆ
เพื่อนสาวของเพลินมองว่า แค่เรื่องสามีไม่พาไปเที่ยวตามสัญญา ถึงกับต้องเอามาเป็นประเด็นให้ทะเลาะกันเลยหรือ
ขณะที่เพลินมองว่า นั่นคือฝันในใจ ที่ผู้ชายก็ให้สัญญา แต่กลับมาทำเหมือนเป็นเรื่องไร้สาระและไม่เคยคิดจะทำให้เป็นจริง และนั่นคือเรื่องใหญ่ที่ทำร้ายใจ
อะไรที่ทำให้เรามองเรื่องนี้ต่างกัน ทั้งที่เราก็ผ่านอะไรมาคล้ายๆ กันหลายอย่าง...
นั่นคือความเชื่อ... และการมองโลก... ผ่านแว่นตาสีต่างๆ
สีของแว่นตาเราสองคนไม่เหมือนกัน ต่างกันไปตามประสบการณ์ ความเชื่อ
เพื่อนเพลินเป็นคนติดบ้าน ไม่ชอบเที่ยว ไม่ได้รู้สึกใฝ่ฝันอยากไปที่ใดเป็นพิเศษ พอใจกับการทำงานและอยู่บ้าน อยู่กับสิ่งที่คุ้นเคย จะรู้สึกมั่นคง ปลอดภัย
ขณะที่เพลินเป็นคนชอบเดินทาง แม้คิดถึงบ้านเสมอเวลาไปเที่ยว แต่ก็ตื่นเต้นเสมอเมื่อได้ไปที่ใหม่ๆ ไปเจออะไรใหม่ๆ เปิดประสบการณ์
ทุกอย่างที่เพลินและเพื่อนคิดหรือเชื่อ มาจากนิสัย ความเชื่อ สังคม และประสบการณ์ การเลี้ยงดู
ไม่มีใครผิดหรือถูก แค่เรามองโลกจากมุมของตัวเอง
เพลินเปรียบเหมือนสวมแว่นตาคนละสี คนนึงสวมแว่นสีชมพู เห็นทุกอย่างรื่นรมย์ไปทั้งนั้น บางคนสวมแว่นสีเขียว มองและกลั่นกรองทุกอย่างด้วยตรรกะ บางคนอาจมองผ่านเลนส์สีเหลือง สีส้ม สีเทา สีดำ หรือแม้แต่สีขาว
เรื่องใหญ่ของบางคนเลยอาจเป็นเรื่องเล็กมากสำหรับอีกคน
และ เรื่องจิ๊บๆ ขี้ปะติ๋วของบางคน คือปัญหาที่ร้ายแรงของอีกคน
หากเป็นแค่การคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกันก็ไม่เป็นไร...
ถ้าไม่มีใครเอาชนะคะคานว่าโลกแบบของฉันถูกต้อง
เมื่อพยายามคิดว่าคนที่เราคุยด้วยหรือมีปฏิสัมพันธ์ด้วย มองผ่าน “แว่นตาโลก” สีไหน เราก็จะยั้งความคิดที่ว่า
“ทำไมคิดได้แค่นี้”
“ทำไมเรื่องแค่นี้คิดไม่ได้”
“เชื่อเรื่องปัญญาอ่อนแบบนี้ไปได้ยังไง”
หรือ
“ทำไมซีเรียสจัง คิดเยอะไปไหน”
“ทำไมคิดแต่ในแง่ร้าย”
เพราะเราสวมแว่นตาคนละสี... 
ถ้าเรามองผ่านแว่นตาแบบเขา เราอาจจะเข้าใจเขาก็ได้นี่นะ
แต่เมื่อไหร่ต้องใช้ชีวิตร่วมกัน บางอย่างก็ต้องปรับ ต้องเปลี่ยน ต้องพยายามเข้าใจโลกผ่านแว่นตาของอีกฝ่ายให้มากที่สุด
แล้วเราจะมีคำตอบเองว่าจุดไหนคือลิมิตของความเข้าใจ
จุดไหนที่เราจะไม่ทน... ให้คนล้ำเส้น
#ดูละครก็ย้อนดูตัวได้นะ
แล้วคุณสาวๆ ทั้งหลาย (หรือหนุ่ม ๆ ก็ได้) มองผ่านแว่นตาแบบไหนกันคะ?
โลกของคุณเป็นยังไง?
ต่างจากโลกของเพื่อน ของพี่ ของน้อง ของแฟนคุณขนาดไหน
คุณเข้าใจความต่างนั้นด้วย “หัวใจ” ของคุณหรือยัง?
ด้วยรักจากใจ
ผู้หญิงเชิงรุก
#ผู้หญิงเชิงรุก #ผู้หญิงยุคใหม่ไม่ลำไย #ผู้หญิงสวยสมองดี #beautygoodvibes #beautifulmind #beautymindcoach #เรามองโลกยังไงอยู่ที่สวมแว่นตาไหนมอง
โฆษณา