วันแรกเราขึ้นธูป16ดอกหน้าหิ้ง เพื่อขอเริ่มการปฏิบัติแบบจริงจัง แล้วก็กลับมานั่งปฏิบัติที่ห้องตัวเอง เราสวดมนต์เสร็จเราก็นั่งสมาธิต่อเลย พอเริ่มหลับตาเราก็ท่องพุทโธ กำหนดลมหายใจตามหลักปกติ แล้วเราก็ได้ยินเสียงเย็นๆ นุ่มๆ เป็นเสียงเหมือนคนหนุ่มๆ ไม่ชายไม่หญิง หวานๆ บอกไม่ถูกเหมือนกันค่ะ เอาเป็นว่าเสียงเพราะ ฟังแล้วดูใจดี
บอกเราว่า “เมื่อตั้งใจเริ่มแล้ว ก็ต้องเดินไปให้สุดทาง ฟังเสียงเราไว้ อย่าฟังเสียงอื่นนับจากนี้ เมื่อหมดวันนี้จะเป็นหน้าที่ของแต่ละองค์ที่มีหน้าที่ต่อกัน แล้วเราจะมาพาไปอีกครั้งเมื่อถึงเวลา”
เมื่อสิ้นเสียง เราก็ลืมตาเลยค่ะ เช็คตัวเองก่อนว่าเป็นบ้ามั้ย คิดเองอ๊ะป่าว ไรงี้ แล้วเราก็หายใจเข้าลึกๆ นั่งต่อ ในใจก็บอกตัวเองว่า ลองดูสักครั้ง
พอหลับตาอีกครั้ง เสียงเดิมก็พูดขึ้นต่อว่า “ครั้งนี้เราจะพาไปดูที่ที่นึง” แล้วเราก็เห็นภาพพื้นที่สีขาวโล่ง เหมือนสตู ไม่มีสิ่งของใดๆวาง ไม่มีลม ไม่มีคน ไม่มีใคร มันเหมือนเราฝันแหละค่ะ ที่มันเห็นเอง โดยที่เราไม่เคยไปเห็นจากไหนมา
แล้วก็เหมือนว่าเราเดินไปเรื่อยๆ ก็ยังคงเป็นพื้นที่สีขาวอยู่ดี แล้วสักพักเราก็เห็นทางน้ำ มันเป็นเหมือนรางน้ำไหล ที่เป็นร่องน้ำสีขาวอยู่ที่พื้น ในน้ำมีอะไรไม่รู้วิ้งๆ ระยิบระยับอยู่
เสียงเดิมก็พูดว่า “นี่เป็นที่แรก ที่คนที่มีหน้าที่เหมือนกันต้องมา ลองมองไปที่น้ำ เห็นอะไรในน้ำนี้” ในความเข้าใจของเราคือเค้าจะสื่อว่าคนที่มีหน้าที่อะไรสักอย่างเหมือนเรา ต้องมาที่นี่ก่อนเป็นอันดับแรก
เราตอบกับเสียงนั้นไปว่า “ไม่เอาอ่ะค่ะ ทำไมหนูต้องมองลงไปด้วย” แล้วเราก็รู้สึกเหมือนมีใครยิ้มให้เรา
แล้วภาพรางน้ำก็ตัดไปเปลี่ยนเป็นขั้นบันไดหนึ่งขั้น ยังคงสีขาวเหมือนเดิม แล้วขั้นนั้นก็เป็นลานกว้างๆมีเสาเหมือนเป็นศาลา บ้านเราคงเรียกศาลาแหละ เราก็ไม่รู้ชื่อที่แท้จริงนะคะ แต่ภาพมันเป็นแบบนั้น ในศาลามีดวงไฟมีขาวแต่ขอบๆแสงเป็นที่ทองๆเหลืองๆ ดวงใหญ่ๆ แบบใหญ่เลยค่ะ เท่าศาลานั้นได้ แล้วเสียงเดิมก็พูดว่า “ที่นี่จะมีทางให้เจ้าไปสองทาง ซ้ายกับขวา ต้องไปทั้งสองที่” เรารู้สึกเหมือนเสียงนั้นมาจากดวงไฟที่เรามองอยู่ แล้วจู่ๆก็มีทางให้เดินไปทางขวาจากศาลานั้น เราก็ถามเค้าว่า “ทำไมเราต้องเดินไป” เราไม่ได้กวนประสาทนะ แต่เราสงสัย รวมถึงเรากลัวว่าเดินไปแล้วเจออะไรน่ากลัวด้วย
เสียงนั้นก็ตอบเรามาว่า “ไม่ต้องกลัว เราไม่ทำอะไรหรอก”
เราก็เอาวะ ไปก็ไป เราก็เดินไปตามทางที่เพิ่งโผล่ขึ้น แล้วก็มีทางแยกออกไปทางซ้ายมือ เราก็เดินตามไป แล้วเราก็เห็นอ่างน้ำ เหมือนอ่างน้ำพุ สูงประมานเอวเรา ในน้ำมีดอกบัวสีขาวลอยอยู่หลายดอก แล้วก็มีควันๆ เหมือนใครฉีดสโมกไว้อะคะ ใครนึกไม่ออกก็นึกถึงหนังจีน CG ดีๆสักเรื่องแล้วกัน
แล้วเสียงนั้นก็บอกว่า “เลือกดอกบัวมาสักดอกสิ”
เราฟังเราก็แบบ มาไม้ไหนวะ กลัวทำไปแล้วผีโผล่มาหัวใจวายตายพอดี
เราตอบเสียงนั้นว่า “ไม่เอาอ่ะค่ะ ของที่นี่ก็คือของที่นี่ หนูขอไม่จับอะไรทั้งนั้น”
พอพูดจบอ่างน้ำก็หายไปเลยค่ะ แล้วเสียงนั้นก็บอกว่า “ดีแล้ว เพราะถ้าหยิบไปแขนที่หยิบดอกบัวจะหายไป” แล้วเราก็รู้สึกว่ามีคนยิ้มอีกแล้ว แต่ยิ้มแบบอบอุ่น บอกไม่ถูกกับความรู้สึกนี้
แล้วแสงสีขาวก็นำเราไปอีกทาง ตอนแรกเรามาทางขาว ดวงไฟก็นำเรากลับไปทางเดิมแล้วเลยศาลาไปทางซ้าย
พอเดินผ่านไปเราก็เห็นประตูสีแดงสดใส ทรงออกจีนหน่อยๆตั้งอยู่ เราเดินไปใกล้ๆ ประตูก็เปิดเอง ข้างในเป็นพื้นยกสูงสองขั้นแล้วก็มีใครไม่รู้นั่งอยู่หนึ่งคนชุดเหมือนนักรบจีน บนหัวใส่รัดเกล้าสีทองมีขนนกหรือขนอะไรสักอย่างยาวๆทัดรัดเกล้าอยู่ แล้วคนนั้นก็พูดขึ้นว่า “มาอีกคนแล้วหรอ”