28 ก.พ. 2021 เวลา 15:00 • กีฬา
รุด ฟาน นิสเตลรอย อาจเป็นสุดยอดกองหน้าของทีมปีศาจแดงก็จริง แต่กว่าการเจรจาซื้อตัวของแมนฯยูไนเต็ด กับพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่นจะลุล่วง เชื่อหรือไม่ว่ามีดราม่าระหว่างกันมากมาย จนใช้เวลายืดเยื้อกันเป็นปี
2
ในวาระที่ฟาน นิสเตลรอยย้ายมาแมนฯยูไนเต็ดครบ 20 ปี เราย้อนไปดูการเจรจากันในวันนั้นอีกครั้ง ว่ามีความซับซ้อนในมุมไหนบ้าง
ในการซื้อตัวผู้เล่นสักคนมาเสริมทัพ ต่อให้นักเตะจะมีชื่อเสียงระดับโลกแค่ไหน ก็จำเป็นต้องเข้ารับการตรวจร่างกายเสียก่อนจากทีมแพทย์ของสโมสร เพื่อคอนเฟิร์มว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถใช้งานได้จริง ไม่ใช่ซื้อมาแล้ว ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอย่างเดียว
เมื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจร่างกาย ถ้าหากทดสอบผ่าน การเซ็นสัญญาก็จะเกิดขึ้น แต่ถ้าตรวจสอบแล้วเจอปัญหาขึ้นมา ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายของสโมสรนั้น ว่าเป็นอย่างไร จะลองเสี่ยงดูสักตั้งไหม หรือว่าจะบอกปฏิเสธไปเลย
บางสโมสรก็ไม่ซีเรียสเรื่องอาการบาดเจ็บมากนัก ตัวอย่างเช่นอาร์เซน่อล ที่เคยมีเคสคิม คัลสตรอม ดาวเตะชาวสวีเดน ที่สโมสรต้องการยืมตัวมาร่วมทีมในเดือนมกราคมปี 2014 โดยตอนตรวจร่างกายพบปัญหาที่แผ่นหลัง ซึ่งทีมแพทย์ได้เตือนผู้บริหารแล้ว แต่สุดท้ายการเซ็นสัญญาก็เกิดขึ้นอยู่ดี
สุดท้ายคัลสตรอม ก็เจ็บออดๆ แอดๆ เขาได้ลงสนามแค่ 3 นัดในพรีเมียร์ลีกเท่านั้น ก่อนอำลาทีมปืนใหญ่ไปเล่นให้กราสส์ฮอปเปอร์ ซูริค ในสวิตเซอร์แลนด์อย่างเงียบๆ
1
นี่คือกรณีของสโมสร ที่ไม่คิดว่าอาการบาดเจ็บจะเป็นเรื่องใหญ่อะไร คือถ้าเจ็บแบบพอรักษาได้ ก็จะเซ็นไว้ก่อนเลย เพราะพวกเขากลัวว่า ถ้าพลาดโอกาสเซ็นสัญญาครั้งนี้ไปแล้ว พอนักเตะหายเจ็บ ก็อาจโดนทีมอื่นโฉบแย่งตัดหน้าไปก่อน
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าจะมีทีมที่สบายๆ เหมือนอาร์เซน่อลไปเสียหมด มีหนึ่งในทีมในพรีเมียร์ลีก ที่ซีเรียสมากกับเรื่องสภาพร่างกายก่อนเซ็นสัญญา นั่นคือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เคสที่อธิบายเรื่อง ความซีเรียสของทีมปีศาจแดงได้ดีมากๆ คือกรณีของรุด ฟาน นิสเตลรอย หัวหอกทีมชาติฮอลแลนด์
ย้อนกลับไปในปี 1998 ฟาน นิสเตลรอย เล่นอยู่กับสโมสรฮีเรนวีน ในลีกดัตช์ เขามีอายุ 21 ปี แต่ยึดตำแหน่งกองหน้าตัวจริงของสโมสรได้แล้ว ผลงานในซีซั่น 1997-98 ยิงได้ 13 ประตูในลีก ถือว่าไม่เลวทีเดียว สำหรับปีแรกในลีกสูงสุด
ณ เวลานั้น ดาร์เรน เฟอร์กูสัน ลูกชายของอเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไปทดสอบฝีเท้าที่ฮีเรนวีนพอดี และได้เห็นฟอร์มของฟาน นิสเตลรอยกับตาตัวเอง เขารีบบอกคุณพ่ออย่างรวดเร็วว่า "พ่อต้องเซ็นฟาน นิสเตลรอยเดี๋ยวนี้เลย เขาเป็นผู้เล่นที่เหลือเชื่อมาก"
เฟอร์กูสันต้องการกองหน้าอยู่แล้ว เพราะทีมปีศาจแดง ณ เวลานั้น มีกองหน้าแค่ 3 คนคือ แอนดี้ โคล, โอเล่ กุนนาร์ โซลชา และ เท็ดดี้ เชอริงแฮม คือถ้าอยากจะเอาชนะทุกรายการ มันควรจะมีหัวหอกอย่างน้อย 4 คน เพื่อสลับเปลี่ยนหมุนเวียนตลอดปี ดังนั้นเมื่อได้ยินที่ลูกชายบอก เฟอร์กี้จึงส่งแมวมองไปดูฟอร์มของฟาน นิสเตลรอย ที่ฮีเรนวีน ในวันเสาร์ถัดมา
แต่ไม่ทันจะได้ยื่นข้อเสนอหรือร่วมวงเจรจาใดๆทั้งสิ้น พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ก็รีบจ่ายเงินตัดหน้าซื้อ ฟาน นิสเตลรอย ในราคา 4.2 ล้านปอนด์เป็นที่เรียบร้อย คือแมนฯยูไนเต็ดแค่ช้าไปเสี้ยววินาที ก็โดนโฉบแย่งกันแบบนี้แหละ
เมื่อพลาดได้ตัวฟาน นิสเตลรอย เฟอร์กูสันก็ผิดหวัง แต่ก็มองหาเป้าหมายอื่นแทน และไปลงเอยที่ ดไวท์ ยอร์ค จากแอสตัน วิลล่า ในราคา 12.6 ล้านปอนด์
จากนั้นเส้นทางของแมนฯยูไนเต็ด กับฟาน นิสเตลรอย ก็ห่างหายกันไป ทีมปีศาจแดงใช้กองหน้าที่มีคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ในซีซั่น 1998-99 ขณะที่ฟาน นิสเตลรอย ก็ระเบิดฟอร์มร้อนแรงกับพีเอสวี เขาคว้ารางวัลดาวซัลโวของลีก ซัดไป 31 ลูกจาก 34 เกม และก้าวไปเป็นตัวจริงทีมชาติฮอลแลนด์อย่างสวยงาม
ผู้คนกล่าวขวัญถึงเขาว่า ถ้าหากจะมีกองหน้าสักคนที่ใกล้เคียงกับมาร์โก แวน บาสเท่นมากที่สุด คนคนนั้นก็ต้องเป็น ฟาน นิสเตลรอยอย่างไม่ต้องสงสัย
ในซีซั่น 1999-00 ฟาน นิสเตลรอย ยิงระเบิดเถิดเทิงต่อเนื่อง เปิดฤดูกาลมา 6 เกมแรก เขายิงแฮตทริกไป 3 หน ยิ่งอายุเพิ่มขึ้น การจบสกอร์ก็ยิ่งเฉียบขาดขึ้น ถึงตรงนี้เฟอร์กูสันจึงหวนกลับมาให้ความสนใจฟาน นิสเตลรอยอีกครั้ง เขามองว่าสโมสรควรจะรีบดึงตัวมาเสริมทัพให้เร็วที่สุด ก่อนที่จะโดนทีมใหญ่ ทีมอื่นตัดหน้า
แผนของเฟอร์กี้ก็คือถ้าได้ฟาน นิสเตลรอย ก็จะปล่อยเท็ดดี้ เชอริงแฮม ที่อายุ 34 ปีแล้วให้กับทีมอื่น คือก็เสียบใส่เบอร์ 10 กันได้พอดี หัวหอกก็ยังมี 4 คนตามเดิม
ปีที่สองกับพีเอสวี ฟาน นิสเตลรอย ก็ยิงกระจุยต่อไปในลีกดัตช์ ผ่านไป 24 นัด เขายิงไป 29 ลูก เป็นดาวซัลโวแบบนอนมาแน่ๆ
อย่างไรก็ตาม ช่วงต้นเดือนมีนาคม ปี 2000 ฟาน นิสเตลรอยเจอปัญหาอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าจากจังหวะที่กระโดดโอเวอร์เฮดคิก แล้วเข่าขวาลงผิดเหลี่ยม โดยแพทย์ของพีเอสวี ระบุว่าไม่รุนแรงมาก และน่าจะหายกลับมาเล่นได้ภายใน 2 เดือน คือตามกำหนดการ เขาจะคัมแบ็กในเกมสุดท้ายของฤดูกาลที่จะพบกับไนจ์เมเก้นพอดี
ทุกอย่างก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ฟาน นิสเตลรอยก็รักษาอาการบาดเจ็บไป จากนั้นพอเข้าเดือนเมษายน เมื่อพีเอสวีทำแต้มขาดในลีกดัตช์ การันตีแชมป์ลีกไปเรียบร้อยแล้ว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจึงเข้ามาเจรจาขอซื้อตัวฟาน นิสเตลรอยอย่างเป็นทางการ คือเข้าตามตรอก ออกตามประตู
4
ทั้งสองฝ่ายเจรจากันอย่างราบรื่น และเคาะราคากันลงตัวที่ 18.5 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นราคาซื้อนักเตะที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลอังกฤษ แซงหน้าสถิติของอลัน เชียเรอร์ ที่นิวคาสเซิล ซื้อมาจากแบล็คเบิร์นในปี 1996 ด้วยราคา 15 ล้านปอนด์
1
ทุกอย่างเคลียร์หมด นักเตะตกลงค่าเหนื่อยได้แล้วเรียบร้อย ฟาน นิสเตลรอยแฮปปี้มาก ที่จะย้ายมาอยู่กับทีมแชมป์พรีเมียร์ลีก เหลือแค่ขั้นตอนสุดท้ายคือ "ตรวจร่างกาย" ซึ่งก็ไม่ควรจะมีปัญหาอะไร
1
การทดสอบสมรรถนะ การเต้นของหัวใจไม่มีปัญหา ระบบหายใจยอดเยี่ยม ทุกอย่างผ่านหมด อย่างไรก็ตาม ทีมแพทย์ก็มาสะกิดใจเรื่องสภาพของหัวเข่าข้างขวา คือมันไม่ได้บาดเจ็บรุนแรงขนาดเล่นไม่ได้ แต่มันดูมีบางอย่างที่ไม่สมบูรณ์เท่าไหร่นัก
ทีมแพทย์ของแมนฯยูไนเต็ดไม่สบายใจ
ฟาน นิสเตลรอย อธิบายว่า มันก็ต้องไม่ 100% อยู่แล้ว เพราะเขาบาดเจ็บมาต้นเดือนมีนาคม ตอนนี้กำลังรักษาตัวอยู่ แต่ก็เริ่มกลับมาซ้อมได้แล้ว ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่คาด ก็จะหาย พร้อมลงเล่นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และเขาก็เตรียมที่จะติดทีมชาติฮอลแลนด์ลงเล่นในยูโร 2000 ด้วย
แต่ในมุมของแพทย์แมนฯยูไนเต็ด เมื่อมันไม่สมบูรณ์ แล้วจะทำอย่างไรล่ะ แพทย์สโมสรจึงแนะนำเฟอร์กี้ว่าอย่าเพิ่งซื้อ แต่ควรให้ฟาน นิสเตลรอย อยู่อังกฤษต่ออีก 1 วัน เพื่อทดสอบหัวเข่าอีกหนึ่งรอบ เอาให้เช็กชัวร์ๆว่าไม่เกิดปัญหาอะไรแน่ๆ
จริงๆอเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จะทำเหมือนอาร์เซน่อลก็ได้ คือไม่ต้องฟังทีมแพทย์ เซ็นสัญญามาก่อน ถ้านักเตะไม่ได้เจ็บรุนแรงก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ในครั้งนั้นเขาเลือกเชื่อใจแพทย์ของสโมสร ถ้าแพทย์บอกว่าควรเทสต์อีกรอบ ก็ควรจะทำตามนั้น ดีลการซื้อตัวจึงชะงักเอาไว้ในวันที่ 25 เมษายน ค.ศ. 2000
ในการแถลงข่าวที่โอลด์แทรฟฟอร์ด นักข่าวมากันเพียบ และเตรียมถ่ายรูปฟาน นิสเตลรอย เปิดตัวเป็นผู้เล่นใหม่ แต่ปรากฎว่าเดวิด กิลล์ หัวหน้าฝ่ายการเงินของทีมออกมาอธิบายว่า สโมสรไม่สามารถจ่ายเงินก้อนนี้ได้ จนกว่าตัวนักเตะจะมาเทสต์ร่างกายอีกรอบ โดยคราวนี้จะเน้นไปที่การเทสต์หัวเข่าโดยเฉพาะ และใช้เวลาอีก 1 วันเต็มๆ
ฝั่งแมนฯยูไนเต็ดคิดแบบหนึ่ง พวกเขาอยากได้นักเตะที่สมบูรณ์ชัวร์ๆ แต่ในมุมของพีเอสวีและฟาน นิสเตลรอยคิดอีกแบบ พวกเขามองว่าสิ่งที่ทีมปีศาจแดงทำเป็นการไม่ให้เกียรติกัน ก็บอกแล้วว่าไม่เป็นอะไรรุนแรง เดี๋ยวก็หาย ตอนนี้ก็ยังซ้อมได้ แล้วคุณจะให้ผู้เล่นอยู่อังกฤษต่อ เพื่อตรวจซ้ำที่หัวเข่าอย่างเดียวเนี่ยนะ ทำแบบนี้เหมือนแสดงออกว่าพีเอสวีจงใจย้อมแมวขายหรือเปล่า
ยิ่ง ณ เวลานั้น ฟาน นิสเตลรอย เป็นหัวหอกที่ร้อนแรงที่สุดในยุโรป ต่อให้แมนฯยูไม่เอา ก็มีทีมอื่นต่อคิวอยากได้เยอะแยะ ดังนั้นพีเอสวี จึงประกาศยกเลิกการเจรจาในที่สุด
1
แฮร์รี่ ฟาน เรย์ ประธานสโมสรพีเอสวีกล่าวว่า "ในเวลานี้ มีความขัดแย้งของเรากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ บางทีเราอาจจะคุยกันได้ในอนาคต ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ความขัดแย้งอยู่ที่เรื่องหัวเข่าของเขามีสภาพเป็นอย่างไร"
"จริงอยู่ ฟาน นิสเตลรอย เคยมีอาการบาดเจ็บ แต่เขากำลังจะมีสภาพร่างกายที่สมบูรณ์แล้ว เขาหายเร็วกว่าที่แพทย์ของเราคาดการณ์ด้วยซ้ำ และตัวฟาน นิสเตลรอย คิดว่าไม่จำเป็นต้องทำในสิ่งที่แพทย์ของแมนฯยูไนเต็ดต้องการด้วยการทดสอบสมรรถภาพร่างกายอีกรอบ"
"ผมเคารพในจุดยืนของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนะ แต่ถ้าเรายังหาแนวทางร่วมกันไมได้ ผมก็จำเป็นต้องเปิดการเจรจากับสโมสรอื่น"
ความจริง ฟาน นิสเตลรอย เตรียมจะเปิดตัวที่โอลด์แทรฟฟอร์ดในวันนั้น หลังตรวจร่างกายผ่านก็ชูเสื้อกันเลย แต่เมื่อการย้ายตัวไม่ลุล่วง ทำให้เขาโมโหมาก เดินทางไปสนามบินเพื่อกลับฮอลแลนด์ทันที โดยไม่ร่วมการแถลงข่าวใดๆกับฝั่งแมนฯยูไนเต็ดทั้งสิ้น
ขณะที่สื่อมวลชน ก็วิจารณ์ว่าแมนฯยูไนเต็ดโอเวอร์เกินเหตุ ฟาน นิสเตลรอย ไม่เคยมีประวัติเจ็บหนัก และอาการที่เข่าก็ดูเจ็บนิดๆหน่อยๆแค่นั้น ไม่เห็นจะต้องทดสอบซ้ำอะไรมากขนาดนั้น
สกายสปอร์ต วิจารณ์ว่า แมนฯยูไนเต็ดทำเรื่องน่าอับอาย ที่ทำนักเตะระดับโลกหลุดมือ กับปัญหาแค่เรื่องอาการบาดเจ็บเล็กๆแบบนั้น
สำหรับอเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เขาเองก็ผิดหวังมาก ที่ดีลต้องล่มไปทั้งๆแบบนี้ แต่เฟอร์กี้ไม่กล้าจะหักกับทีมแพทย์ของตัวเอง เมื่อผู้เล่นปฏิเสธการตรวจร่างกายรอบสอง แล้วผู้จัดการทีมอย่างเขา จะทำอะไรได้ล่ะ
28 เมษายน 2000 เป็นเวลา 3 วัน หลังจากที่ฟาน นิสเตลรอย และพีเอสวี ยกเลิกดีลกับแมนฯยูไนเต็ด ในแคมป์พีเอสวีก็ลงซ้อมตามปกติ โดยทีมเตรียมจะเปิดบ้านต้อนรับ วาลไวค์ ในเกมลีกดัตช์
สโมสรส่งฟาน นิสเตลรอย ลงซ้อมด้วยตามรูทีน พร้อมทั้งอัดวีดีโอเอาไว้ เพื่อเตรียมจะส่งให้สโมสรดังๆทั่วยุโรปรวมถึงแมนฯยูไนเต็ดด้วย ได้เห็นกันชัดๆเลยว่า นักเตะสบายดี ไม่มีปัญหาอะไรอย่างที่โดนติติงเสียหน่อย
ปรากฏว่าระหว่างการซ้อมมีจังหวะที่ฟาน นิสเตลรอยจะกระโดดขึ้นโหม่งแล้วลงผิดจังหวะ เจ้าตัวกลิ้งลงไปกองกับพื้น พร้อมร้องครวญครางกลางสนาม เอามือกอดเข่าขวาเอาไว้ ซึ่งช่างวีดีโอบันทึกเหตุการณ์ได้เต็มๆ นั่นเป็นเข่าข้างที่แพทย์แมนฯยูไนเต็ดตรวจพบว่าเจอปัญหานั่นแหละ
ฟาน นิสเตลรอยถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที และแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นอาการ ACL หรือเอ็นเข่าไขว้หน้าฉีกขาด ต้องพักยาวทันที 9 เดือนเต็ม ซึ่งจุดนี้ ทำให้เห็นถึงประสิทธิภาพของทีมแพทย์แมนฯยูไนเต็ดอย่างมาก ว่าวินิจฉัยได้เฉียบขาดจริงๆ รู้ว่าเข่ามีปัญหา ก็เบรกการเซ็นสัญญาไว้ก่อน
ตอนตรวจร่างกาย มันอาจเป็นอาการเจ็บเล็กๆ ที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่แพทย์แมนฯยูไนเต็ดอ่านขาดแล้วว่า มันมีโอกาสแปรเปลี่ยนเป็นอาการเจ็บที่หนักขึ้นกว่านั้นได้ และพวกเขาคิดถูก
ย้อนกลับมาคิด ถ้าหากทีมปีศาจแดงจ่ายเงินซื้อในตอนนั้น ก็อาจต้องเสียเงินค่าเหนื่อยฟรีๆ 1 ปี และยังต้องเสียเงินค่ารักษาพยาบาลอีกต่างหาก เป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่าเอาซะเลย
1
เฟอร์กูสันให้สัมภาษณ์กับเหตุการณ์นี้ว่า "เป็นข่าวร้ายจริงๆของเด็กหนุ่มคนนี้ จริงๆมันควรจะเป็นสัปดาห์ที่ยอดเยี่ยมของรุด แต่มันกลายเป็นฝันร้าย อย่างไรก็ตาม ทุกคนที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หวังว่าเขาจะหายเจ็บกลับมาลงเล่นโดยเร็วที่สุด"
คราวนี้ พีเอสวี จึงได้เข้าใจว่า อาการของฟาน นิสเตลรอย ไม่ใช่อาการเล็กๆ เดี๋ยวก็หาย แบบที่คิดเองตอนแรก พวกเขาจึงส่งฟาน นิสเตลรอย ไปผ่าตัดกับคุณหมอริชาร์ด สเต็ดแมน ชาวสหรัฐฯ ที่ชำนาญการรักษา ACL โดยเฉพาะ
ฟาน นิสเตลรอย พักยาว 9 เดือนเต็ม หายเจ็บกลับมาช่วงปลายฤดูกาล 2000-01 แต่มาคราวนี้ ฟอร์มของเจ้าตัวไม่ร้อนแรงเหมือนเดิม ลงสนามไป 10 เกม ยิงได้แค่ 2 ประตู คือไม่ได้ซัดแฮตทริกกันแบบรัวๆ เหมือนช่วงก่อนเจ็บ
นั่นทำให้จากที่เคยเป็นหัวหอกที่ใครๆในยุโรปก็อยากได้ ความนิยมของเขาลดลง ทีมดังๆในลาลีกา และ กัลโช่ เซเรียอา ไม่ได้ยื่นข้อเสนอเข้ามาให้พิจารณา
ณ จุดนั้นเอง ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมาอีกครั้ง และยืนยันว่า ต่อให้ใครไม่สนแล้ว แต่พวกเขายังต้องการ ฟาน นิสเตลรอยอยู่
1
อเล็กซ์ เฟอร์กูสันกล่าวว่า "ผมดูฟอร์มของเขาในเกมที่พีเอสวี เจออาแจ๊กซ์ สิ่งที่เห็นคือความเร็วของเขาไม่ลดลง เขายังเป็นผู้เล่นที่ดี จริงอยู่ ฟาน นิสเตลรอย ไม่ใช่นักเตะที่เร็วที่สุดในโลก แต่เขามีมันสมองเป็นเลิศในการแก้ไขปัญหาบริเวณกรอบเขตโทษ"
"เราโทรหาเขา และยืนยันว่า เรายังต้องการนำเขามาเล่นที่โอลด์แทรฟฟอร์ดเหมือนเดิม แม้เขาจะเพิ่งหายเจ็บมาก็ตาม ซึ่งผมคิดว่า นั่นเป็นประโยคที่มีความหมายมากๆกับเขา เพราะในช่วงที่คุณเพิ่งหายเจ็บ คุณต้องการกำลังใจมากที่สุด และเราก็มอบสิ่งนั้นให้กับเขา"
"ในมุมของผม ถ้านับเฉพาะความเฉียบคมอย่างเดียว ผมคิดว่าเขาเหนือกว่าแอนดี้ โคล หรือแม้แต่เอริค คันโตน่าด้วยซ้ำ"
22 เมษายน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยื่นข้อเสนอสูงถึง 19 ล้านปอนด์ มากยิ่งกว่าข้อเสนอของปีก่อนถึง 5 แสนปอนด์ ซึ่งตอนนั้นหลายคนก็แปลกใจ เพราะยื่นมาราคาเดิม พีเอสวีก็ขายแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในอีกมุมมันเป็นการซื้อใจพีเอสวีเลยว่า 'เรามั่นใจในผู้เล่นของคุณ' และ 5 แสนปอนด์ที่เพิ่มขึ้นมา ถือเป็นคำขอบคุณที่ช่วยดูแลรักษาฟาน นิสเตลรอยจนหายดี
พีเอสวี ตอบตกลงกับข้อเสนอ ส่วนฟาน นิสเตลรอย บินมาอังกฤษ เพื่อตรวจร่างกายทันที คราวนี้ทีมแพทย์คอนเฟิร์มว่า ไม่มีอาการบาดเจ็บใดๆ ที่หัวเข่าข้างขวา การผ่าตัดของคุณหมอริชาร์ด สเต็ดแมน สมบูรณ์แบบแล้ว จุดนี้ฟาน นิสเตลรอย จะสามารถลงเล่นได้ตามปกติ ไม่มีอะไรน่าห่วงอีก
1
เมื่อการตรวจร่างกายผ่าน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จึงเปิดตัวฟาน นิสเตลรอยในที่สุด
หลังจากมีดราม่ากันมาในคราวก่อนและยืดเยื้อดีลกันมาเป็นปี สุดท้ายนักเตะก็ได้ย้ายมาเล่นกับทีมปีศาจแดงจนได้
"เราดีใจมากที่เซ็นสัญญาคว้ารุดมาร่วมทีม นี่เป็นนักเตะที่ผมชื่นชมมานานแล้ว และดีลนี้ จะทำให้ทีมของเราแข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่าเดิม" เฟอร์กูสันกล่าว "เราเฝ้าติดตามเขาตลอด ในช่วงที่รักษาอาการบาดเจ็บ และดีใจที่เขาหายดี สามารถลงเล่นได้อย่างสม่ำเสมออีกครั้ง"
1
ฟาน นิสเตลรอย รู้สึกขอบคุณแมนฯยูไนเต็ด ที่ให้โอกาสเขาอีกครั้ง และยอมจ่ายเงินเป็นสถิติพรีเมียร์ลีก ซื้อตัวมาร่วมทัพ ทั้งๆที่เพิ่งหายเจ็บ ขณะที่พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ก็รู้สึกแบบเดียวกัน เพราะในขณะที่ทีมอื่นลดความสนใจฟาน นิสเตลรอยไปแล้ว แต่แมนฯยูไนเต็ดยังอยู่ แถมยังอัพราคาให้มากขึ้นกว่าเดิมด้วย
จุดนี้เอง เป็นสิ่งที่ทำให้ความสัมพันธ์ของแมนฯยูไนเต็ด กับพีเอสวี มีความราบรื่นอย่างมาก ในเวลาต่อมา เวลามีนักเตะตัวดีๆ พีเอสวีก็ปล่อยให้แมนฯยูไนเต็ดในราคาไม่แพง อย่างเช่น ปาร์ก จี-ซอง สตาร์เกาหลีใต้ ก็ขายให้ทีมปีศาจแดงแค่ 4 ล้านปอนด์ หรือกรณีของเมมฟิส เดอปาย ตอนที่ตกเป็นข่าวกับหลายๆทีม สุดท้ายก็เลือกปล่อยให้แมนฯยูไนเต็ด
สำหรับฟาน นิสเตลรอย เมื่อย้ายมา เขาก็กลายเป็นคีย์แมนของสโมสรอย่างรวดเร็ว ประสิทธิภาพหน้าปากประตูของเขาไว้ใจได้สุดๆ โดยในซีซั่น 2002-03 เขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก พร้อมคว้าตำแหน่งดาวซัลโว
ช่วงเวลาของฟาน นิสเตลรอย กับแมนฯยูไนเต็ด อาจจะไม่ยาวนานนัก เขาอยู่กับทีมทั้งสิ้น 5 ปี แต่ก็สามารถยิงประตูได้มากมาย และถือเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่แฟนๆชื่นชอบมากที่สุดด้วย
กรณีของรุด ฟาน นิสเตลรอย เป็นกรณีศึกษาสำคัญของเหล่าผู้จัดการทีม และผู้บริหารเลยว่า ต่อให้คุณจะอยากได้นักเตะขนาดไหน คุณก็ไม่สามารถละเลยความเห็นของทีมแพทย์ได้
ถ้าวินิจฉัยออกมาแล้ว ร่างกายไม่สมบูรณ์จริงๆ ก็ต้องตามนั้น คือบางสโมสรอาจจะ "รับได้" ถ้าเจ็บนิดหน่อย แต่บางสโมสรจะมีนโยบายที่เข้มงวดมาก เปอร์เซ็นต์เสี่ยงนิดเดียวก็ไม่ได้
ในชีวิตจริงของคนเรา ก็มีอะไรคล้ายๆแบบนี้ คืออยากได้ของสักอย่างปั๊บก็ซื้อเลย ไม่อ่านรีวิว ไม่ทดลองใช้ ไม่เชื่อข้อมูลใดๆ ใช้สัญชาตญาณล้วนๆ ซึ่งคนที่รีบจ่าย รีบเปย์แบบนั้น เจ็บตัวกันมาเยอะแล้ว
1
ดังนั้น ถ้าอยากได้ของอะไรสักอย่าง ทางที่ดีควร "เทสต์" ก่อน เอาให้มั่นใจว่า มันใช้การได้ดีจริงๆ และเมื่อคอนเฟิร์มแล้วว่า "มันเวิร์คชัวร์ๆ" ถึงตรงนั้นค่อยเสียเงินซื้อก็ยังไม่สาย จริงไหม
1
#VanNistelrooy
โฆษณา