28 ก.พ. 2021 เวลา 11:00 • กีฬา
คาแรคเตอร์ที่ขาดหายไปของยูไนเต็ด - บรูโน่ เฟอร์นันเดส
ปฏิเสธเลยไม่ได้ว่าการมาของบรูโน่ เฟอร์นันเดสนั้นทำให้แมนยูไนเต็ดกลับมาอยู่ในจุดที่ใกล้เคียงของจุดที่เคยยืนส่วนนึงอาจจะมองว่าเพราะบรูโน่คือนำแหน่งที่แมนยูไนเต็ดขาดหายไป แต่ส่วนตัวผมมองว่าสิ่งที่ยูไนเต็ดขาดหายไปไม่ใช่แค่ผู้เล่นที่คอยสร้างสรรค์เกม แต่ที่ขาดคือ คาแรคเตอร์ที่ผู้นำควรมี
องค์ประกอบหลายๆอย่างในวงการฟุตบอลไม่ว่าจะเป็นผู้จัดการทีม,นักเตะและเวลานั้นมีส่วนสำคัญมากในโลกฟุตบอล โดยในปัจจุบันสิ่งที่เพิ่มเข้ามานั้นคือ "เม็ดเงิน" ที่ทำให้หลายๆทีมกลายเป็นทีมแนวหน้าได้ อาทิเช่น เชลซีและแมนซิตี้
เดวิด มอยส์ได้เข้ามารับตำแหน่งต่อจากการวางมือของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ถูกมองว่าไม่ประสบความสำเร็จส่วนนึงอาจจะเป็นที่กึ๋นของตัวเขา แต่หลักๆน่าจะเป็นเวลา แต่ในทีมชุดนั้นก็มีนักเตะคาแรคเตอร์ผู้นำเช่น โรบิน ฟานเพอร์ซี่และเวย์น รูนี่ย์
ต่อมาหลุยส์ ฟานกัลก็ได้เข้ามารับช่วงต่อ ส่วนตัวเขาเป็นผู้จัดการทีมที่ประสบความสำเร็จมามากมาย แต่กลับมาคุมแมนยูดันประสบความสำเร็จเพียงแค่ถ้วย เอฟเอ คัพรางวัลเดียว ซึ่งรูนี่ย์ได้รับบทเป็นกัปตันทีมแต่ก็อยู่ในช่วงขาลงแล้ว
ต่อมาโชเซ่ มูรินโญ่ก็เข้ามาคุมรูนี่ย์ก็ยังรับบทเป็นผู้นำของทีมอยู่แต่สิ่งที่เพิ่มมาคือการดึงซลาตัน อิบราฮิโมวิชเข้ามาร่วมทีมซึ่งแน่นอนครับ ซลาตันคือผคาแรคเตอร์ผู้นำและผู้ชนะตัวจริงแห่งโลกฟุตบอล แต่ยุคนั้นก็ประสบความสำเร็จเพียงแค่แชมป์ยูโรป้าลีค
หลังจากนั้นรางวัลใหญ่ๆ แมนยูก็ไม่ได้สัมผัสมันอีกเลย จนกระทั่งในยุคของโอเล่ กุนนาร์ โซลชาการมาของบรูโน่ที่มาพร้อมกับคาแรคเตอร์ผู้นำที่เห็นได้ชัดคือ การวิ่งไม่มีหยุด แม้จะพึ่ย้ายมาแต่ก็สั่งเพื่อนร่วมทีมบ้างในบางจังหวะของเกม แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำอย่างชัดเจน
สังเกตดูครับในบางเกมการในทีมมีทั้งพอล ป็อกบาที่เป็นคนสร้างสรรค์เกมแต่ก็ไม่ได้มีโอกาสมากเท่าที่ควร เกมที่ไร้เงาบรูโน่ในสนาม แมนยูจะดูช็อตๆขาดแรงกระตุ้นไป ดังนั้นครับปัญหาของแมนยูไม่ได้อยู่ที่การสร้างสรรค์เกมแล้ว ณ เวลานี้ เพราะแมนยูขาดแรงกระตุ้นในสนามซึ่งกัปตันทีมก็ไม่ได้มีอิมแพ็คมากพอที่จะกระตุ้นได้
ซึ่งผมจะสรุปได้ว่าทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนั้นจำเป็นต้องมีนักเตะที่มีคาแรคเตอร์ผู้นำและผู้ชนะอย่างแท้จริง ถึงจะกลับมาครองความยิ่งใหญ่ได้
โฆษณา