ยา 9 รส ตอน 3 รสขม
โดย หมอยาท่าBD
รสขมๆ แก้ทางตับ ดับพิษไข้ เป็นอะไรที่ตรงข้ามกับหวาน จึงนำมาแก้ทางหวานเช่นเบาหวาน กินแต่พอดีเป็นบำรุง กินมากตาเหลืองตับทรุดได้เช่นกัน
การที่เป็นรสยาที่เป็นประโยช์นต่อสรรพสัตว์ จึงต้องทำให้ตัวเองขมไว้ จะได้ไม่อร่อย บางต้นทั้งขมทั้งเหม็นเอียน นั่นแสดงว่าไม่ธรรมดา
สารขมมีสรรพคุณหลายด้าน สามารถกระตุ้นสัญญานประสาทที่ลิ้น และ ส่งสื่อประสาทให้เกิดการหลั่งน้ำย่อยในกระเพาะและน้ำดี เราจึงอยากอาหารมากขึ้น
รวมทั้งช่วยการทำงานของตับอ่อนให้หลั่ง อินซูลินได้ดีขึ้น ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด รักษาไข้และลดการอักเสบได้
ลักษณะทางรสขมนั้น แห้งและเบา กินแล้วช่วยธาตุไฟเบาลง บำรุงเลือดและน้ำดี (เช่น ลูกไต้ใบ) ช่วยการย่อย กินมากลดกำหนัด(พระสมัยก่อนฉันดีบัว ลดกำหนัด)มีที่ตั้งที่ตับหมายถึงสำนักงานใหญ่
แสลงกับคนเป็นเป็นโรคจุกเสียดแน่นท้อง(ไฟธาตุหย่อน)
สมุนไพรรสขมเช่น บอระเพ็ด ฟ้าทะลาย สะเดา มะระ ขี้เหล็ก หญ้าไต้ใบ ลูกกระดอม เป็นต้น
รสขมเจริญอาหาร ช่วยให้ทานได้อร่อยขึ้น เช่น สะเดาน้ำปลาหวาน ยิ่งกินยิ่งอร่อย คนอยากบำรุงร่างกายก็เพิ่มของขมๆในมื้อได้ครับ สังเกตุว่าผู้เฒ่าทั้งหลาย ทานอาหารได้เยอะถ้าทานขมๆในมื้อ
รสขมก็ต้องใช้ให้เป็นเหมือนกันครับ กินบำรุงตับ กิน เพิ่มน้ำดี กินน้อยๆ มีเว้นระยะ แสลงโรคลมจุกเสียด กินมากเกิน ตับทรุดตาเหลือง ต้องไปหาหมอ
สมุนไพรขม ยังช่วยให้ผิวหนังชุ่มเย็น กระตุ้นการสร้างเซลล์ ลดอักเสบได้ สังเกตุว่าแชมภูสมุนไพรแก้ผมร่วงผมหงอก จะใช้ยาขมมาช่วยทั้งนั่น
ผมเองก็ใช้ยาขมยาเย็นสร้างยาแก่ผมร่วงครับ และก็ได้ผลดีอย่างกล่าวไว้
เห็นเด็กๆ น้องๆ เขี่ยผักเขี่ยไม้ทิ้ง แล้วกินแต่หมูแต่ไก่แล้วก็เศร้านะครับ เพราะได้พลาดอะไรดีๆไปแล้ว จะหันมาทานเมื่ออายุมากขึ้น โรคภัยรุมเร้าแล้ว คิดว่าช้าเกินไปครับ
สู้ทยอยกินแบบบำรุงในมื้อบ้าง ทำสมูธตี้ดื่มบ้างสะสมบุญไปเรื่อยๆดีกว่าครับ
การทานของขมๆนั้น อย่าทานแบบเอาเป็นเอาตาย บางคนต้มเคี่ยว สมุนไพรขมๆกัว่าจะรักษาโรค ต้องหามส่งโรงหมอ บางคนถึงตายก็มี
ควรทานพร้อมมื้ออาหารจะปลอดภัยกว่า และก็ควรบ้างหยุดบ้างสลับกันไป ถึงเรียกว่าทานอาหารให้เป็นยา
ศาสตร์แห่งการชะลอวัย ด้วยอาหารก็ไม่ใช่ว่าทำกันวันนี้ส่งผลพรุ่งนี้ ล้วนแต่ใช้เวลายาวนานพอสมควรครับ แลกกับความแข็งแรงอ่อนเยาว์
คุยส่วนตัวได้ตลอดเวลาครับ
อยู่ดีมีสุขทุกท่าน
สวัสดีครับ
- 7
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
