Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
อ้าว รถเป็นอะไรวะ
•
ติดตาม
3 มี.ค. 2021 เวลา 10:00 • ยานยนต์
Ep.2 เมื่อวานยังสตาร์ทติดเลย
เคยไหม เช้าๆกำลังรีบ มีประชุม มีนัดกับลูกค้า
บิดกุญแจสตาร์ทรถ ...... เงียบกริบ ลองอีกทีซิ
บิดกุญแจสตาร์ทรถ ท่องนะโมในใจ ... เงียบสนิท
อ้าววว .... รถเป็นอะไรวะ !
สัญลักษณ์ เตือนแบตเตอรี่มีปัญหา
ทำความรู้จักกับแบตเตอรี่ก่อน
แบตเตอรี่ ทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานของอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมดของรถยนต์ของเรา หนึ่งในหน้าที่สำคัญของตัวแบตเตอรี่นั้นคือในทุกๆครั้งที่เราสตาร์ทรถ มอเตอร์สตาร์ทจะทำการดึงกระแสไฟมาจากแบตเตอรี่
Q : แบตเตอรี่เอาไฟมาจากไหนละ
A : คำตอบคือ ไดร์ชาร์จ โดยในระหว่างที่เราขับรถไดร์ชาร์จจะผลิตกระแสไฟฟ้าเข้าไปเติมภายในแบตเตอรี่ของเราเป็นวงเวียนไปเรื่อยๆแบบนี้
ปัจจุบันแบตเตอรี่มี 4 ประเภทที่ใช้งานกัน
1.แบตเตอรี่แบบน้ำ
2.แบตเตอรี่ไฮบริด (แบตน้ำอัพเกรดแผ่นธาตุ)
3.แบตเตอรี่แบบกึ่งแห้ง (MF)
4.แบตเตอรี่แบบแห้ง (SMF)
โดยความเป็นจริงแล้ว แบตเตอรี่แบบกึ่งแห้ง/แบบแห้ง ไม่ได้แห้งจริงๆ ด้านในยังมีน้ำกลั่นที่บรรจุจากโรงงาน
*ข้อแตกต่างระหว่างแบต MF กับ SMF
SMF จะมีการปิดฝาซีลจากโรงงานไม่มีรูให้เติมน้ำกลั่น
MF บางยี่ห้อจะมีการปิดทับรูเติมน้ำกลั่นด้วยพลาสติก
แบตเตอรี่แบบ SMF ภาพจาก amazon.uk
สาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่ของรถหมด
1.ที่พบเห็นได้บ่อยมากคือ เปิดไฟทิ้งไว้หรือลืมปิดนั่นเอง
เชื่อหรือไม่ มีหลายคนลืมปิดไฟกระพริบฉุกเฉินหลังจากถอยหลังเข้าจอดในอาคารจอดรถ
2.สาเหตุต่อมา คือระบบชาร์จไฟของรถเริ่มมีปัญหา
ตัวการหลักจะเป็นไดร์ชาร์จ เริ่มเสื่อมสภาพลงทำให้กระแสไฟฟ้าที่ปั่นกลับเข้าไปไม่มีเพียงพอต่อปริมาณการจ่ายออกของแบตเตอรี่
3.เป็นที่ตัวของแบตเตอรี่เอง คืออายุโดยเฉลี่ยทั่วไปของแบตเตอรี่จะอยู่ราวๆ 1.5ปี - 2.5 ปี เมื่อมันเริ่มเสื่อมสภาพปริมาณการกักเก็บของไฟฟ้าจะเริ่มลดลง
4.สาเหตุนี้พบเห็นได้น้อย คือสายไฟกราวน์รั่ว ทำให้ไฟที่เก็บอยู่ภายในแบตเตอรี่ถูกนำออกมาใช้ตลอดเวลา
วิธีแก้ไขเบื้องต้น
ถ้าไฟในแบตเตอรี่ยังไม่หมดสามารถใช้วิธีการพ่วงแบตหรือจั้มแบต เพื่อสตาร์ทเครื่องได้ในกรณีที่แบตเตอรี่ของเรายังไม่เสื่อมสภาพ
ในยุคนี้ ร้านค้าแบตเตอรี่มีการปรับตัวปรับวิธีการขายมีบริการรับเปลี่ยนแบตเตอรี่นอกสถานที่ 24 ชั่วโมง
คำแนะนำในการดูแลรักษา
สำหรับผู้ที่ใช้แบตเตอรี่แบบน้ำหมั่นเช็คระดับของน้ำกลั่นแบตเตอรี่ให้ไม่ต่ำกว่าระดับ MIN อย่างสม่ำเสมอ
ห้ามน้ำกลั่นอยู่ต่ำกว่าขีด Lower Level !!
จะดูทางตาแมวของแบตเตอรี่ก็ได้เหมือนกัน
สีเขียว = ปกติ
สีขาว = เริ่มเสื่อมสภาพ,ควรชาร์จไฟ
สีแดง = ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่
ภาพจาก pantip.com
ถ้ารถของคุณมีอุปกรณ์หรือเซ็นเซอร์วัดกำลังไฟของแบตเตอรี่สามารถดูได้จากค่า Volt ของแบตเตอรี่
ขณะดับเครื่อง ควรวัดค่าได้ไม่ต่ำกว่า 12V
ขณะสตาร์ทเครื่อง ควรวัดค่าได้ไม่ต่ำกว่า 13.4vแต่ไม่ควรเกิน 14.8V
การวัดค่า CCA คือแม่นยำที่สุด
ค่า CCA ย่อมาจากคำว่า Cold Cranking Ampere
คือค่าความสามารถในการปล่อยปริมาณไฟในสภาวะอากาศหนาว
Q :ทำไมต้องดู CCA ด้วย
A: ค่าของ CCA สำคัญมากในการสตาร์ทรถ
เครื่องยนต์ยิ่ง CC ยิ่งสูง ยิ่งต้องใช้ค่า CCA มาก
สูตรคำนวณอย่างง่ายคือ ปริมาณ CC x 0.13 = CCA ต่ำสุดที่ต้องใช้ในการสตาร์ทรถ
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! คำเตือน !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ถ้าแบตเริ่มมีอาการบวมแล้ว ควรรีบเปลี่ยนทันทีอาจเกิดอันตรายขณะใช้งานได้
การพ่วงแบตหรือจั๊มแบต ระวังการหนีบสายพ่วงผิดขั้วแบต จะทำให้อุปกรณ์ในรถเกิดอาการช็อตเสียหายหรืออาจเกิดประกายไฟขึ้นได้
แบตเตอรี่เป็นส่วนประกอบที่สำคัญมากเลยใช่ไหมครับ
มีน้ำมัน แต่ไม่มีไฟแบต รถก็วิ่งไม่ได้เหมือนกัน
กด “ ติดตาม “ เพื่อเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะครับ
ถ้าหากอยากรู้เรื่องอะไรสามารถ inbox มาได้นะครับ จะพยายามหาข้อมูลมาทำบทความให้อ่านกัน
T.K
บันทึก
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย