2 มี.ค. 2021 เวลา 09:33 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
ประธานาธิบดี Biden รณรงค์ให้ยุติการใช้ระบบอาวุธอัตโนมัติที่ประมวลผลด้วย AI
1
ระบบอาวุธอัตโนมัติ หรือ autonomous weapons ถูกโปรแกรมสั่งการระบบอาวุธในการสังหารหรือทำลายเป้าหมายด้วยระบบ AI ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาเพื่อใช้งานในหลายประเทศ
1
ที่มาของภาพ: http://www.fletcherforum.org/the-rostrum/2019/3/10/the-challenges-of-using-artificial-intelligence-on-lethal-autonomous-weapons-systems
วัตถุประสงค์ในการรณรงค์ของ Biden ก็เพื่อให้ประชาคมโลกออกมาลงนามในสนธิสัญญาร่วมกัน เพื่อห้ามการใช้งานจักรกลสังหารด้วยระบบ AI ที่ไร้การควบคุมและตัดสินใจโดยมนุษย์
ปัจจุบันสหรัฐฯมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์ชิพนำหน้าจีนอยู่ 2 ขั้น และรัฐบาลสหรัฐฯพยายามที่จะลดการถ่ายทอดเทคโนโลยีดังกล่าวให้กับทางการจีน
โดยการออกนโยบายให้บริษัทเทคโนโลยีต่างๆกลับมาลงทุนที่สหรัฐฯ ด้วยนโยบายการลดภาษี และดึงดูดคนเก่งจากทั่วโลกให้มาทำงานใน Tech Company เพื่อดำรงความเป็นผู้นำโลกทางด้านนี้ไว้ให้นานที่สุด
ความพยายามในการปิดกั้นการเข้าถึงเทคโนโลยีของจีนนั้น เป็นเป้าหมายสำคัญในการยับยั้งจีน ไม่ให้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำโลก หรือสามารถต่อกรกับสหรัฐฯได้อย่างทัดเทียม
ขีดความสามารถในการทำสงครามของ AI ในอนาคตนั้น จะมีความสามารถมากกว่ากองกำลังและยุทโธปกรณ์ที่ใช้งานและตัดสินใจในการปะทะโดยมนุษย์
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสงครามที่มีขนาดใหญ่และมีหลายหน่วยเข้ามาเกี่ยวข้องในสมรภูมิ การใช้งานระบบอาวุธ Ai ที่ทันสมัยย่อมได้เปรียบต่อการบัญชาการรบ และเกิดการสูญเสียน้อยกว่ามาก
1
ในทางกลับกันหากมีการใช้ระบบอาวุธ AI ในสภาวะปรกติเพื่อการลาดตระเวนหรือรักษาผลประโยชน์แห่งชาติ อาจเกิดการปะทะหรือใช้อาวุธโดยไม่จำเป็นขึ้นได้ เพราะระบบถูกสั่งการให้ประมวลผลในรูปแบบที่โปรแกรมไว้เท่านั้น ทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะเกิดข้อพิพาทระหว่างกันได้ง่ายขึ้น
ระบบ Unmanned Vehicle คือ ระบบอาวุธที่ใช้มนุษย์ในการควบคุมการทำงานและตัดสินใจในการใช้อาวุธต่อเป้าหมาย ในขณะที่ระบบ AI นั้นถูกโปรแกรมให้สามารถตัดสินใจในการใช้อาวุธได้เอง ทำให้มีคุณลักษณะของหุ่นยนต์นักฆ่าที่ไร้หัวใจ และเป็นนวัตกรรมใหม่ที่สามารถฆ่ามนุษย์ได้ด้วยการตัดสินใจของ AI เอง
1
ข้อได้เปรียบของหุ่นยนต์นักฆ่าเหล่านี้ คือความสามารถในการปฏิบัติภารกิจได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ราคาถูก และเป็นการลดความสูญเสียของชีวิตกำลังพลของฝ่ายที่มีเทคโนยีนี้อยู่ในมือ
แม้ Biden จะออกมารณรงค์ให้ประชาคมโลกให้ความสำคัญกับการจำกัดการใช้ AI เพื่อพัฒนาระบบอาวุธนั้น หน่วยงานกลาโหมของสหรัฐฯเองได้มีการพัฒนาอาวุธ AI มาโดยตลอด
เช่น ระบบ SEA HUNTER: Anti-Submarine Warfare Continuous Trial Unmanned Vehicle (ACTUV) ที่มีขีดความสามารถในการค้นหาและทำลายเรือดำน้ำไร้คนขับ ที่สามารถโจมตีเรือดำน้ำข้าศึกได้ด้วยตัวเอง และสามารถปฏิบัติการในทะเลเปิดได้นานนับเดือน
ที่มาของภาพ: https://thediplomat.com/2018/02/worlds-largest-anti-submarine-robot-ship-joins-us-navy/
การพัฒนาเครื่องบินโจมตีไร้คนขับที่สามารถปฏิบัติการโจมตีเรดาร์ป้องกันภัยทางอากาศและระบบป้องกันภัยทางอากาศด้วยตนเอง ภายใต้การชี้เป้าโดยนักบินขับไล่ในระหว่างการปฏิบัติการทางอากาศ
กองทัพบกสหรัฐฯอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบ Squad Multipurpose Equipment Transport (SMET) เพื่อปฏิบัติภารกิจร่วมกับกองกำลังภาคพื้น
ที่มาของภาพ: http://www.army-guide.com/
ในขณะที่รัสเซียมีการพัฒนาระบบ Uran-9 หุ่นยนต์รถถังขนาดเล็ก และ Vikhr หุ่นยนต์รถถังหนัก ที่มีการติดตั้งปืนใหญ่ และจรวดที่สามารถทำการโจมตีเป้าหมายได้ด้วยตัวเอง
ที่มาของภาพ: https://www.dailymail.co.uk/news/article-4457892/Russian-army-puts-new-remote-controlled-robot-tank-test.html
จีนเองก็มีการพัฒนาหุ่นยนต์นักฆ่าที่ใช้ในการปฏิบัติการทั้งบนบก ในทะเล และอากาศ เพื่อท้าทายมหาอำนาจทางการทหารอย่างสหรัฐฯ
นโยบายดังกล่าวของประธานาธิบดีสหรัฐฯถูกผลักดันให้เกิดขึ้นโดยที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงสหรัฐฯ ที่ต้องการยับยั้งการพัฒนาเทคโนโลยี AI ของจีน ที่พยายามจะเป็นผู้นำโลกด้านการใช้เทคโนโลยี AI ภายในปี 2030
ท่ามกลางการแข่งขันกันพัฒนาระบบอาวุธ AI ของนานาชาติ ส่งผลให้เกิดความตระหนักรู้ถึงภัยคุกคามต่อสันติภาพของโลก หลายภาคส่วนต่างจับตาและหารือร่วมกันในการยับยั้งการใช้ระบบอาวุธ AI ในการปฏิบัติการทางการทหาร
เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่หุ่นยนต์เหล่านี้อาจตัดสินใจบางอย่างที่เป็นการละเมิดหลักสิทธิมนุษยชน กฏการปะทะ และกฏหมายสงคราม ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นให้เกิดการใช้กองกำลังขนาดใหญ่เข้าปะทะกัน หรืออาจจะลุกลามบานปลายไปจนถึงขั้นการใช้อาวุธนิวเคลียร์ขึ้นเลยทีเดียว
ประเด็นเรื่องระบบอาวุธ AI ได้ถูกนำไปหารือใน Convention on Certain Conventional Weapons (CCW) เพื่อควบคุมการใช้ระบบอาวุธอัตโนมัติเหล่านี้ โดยมีการจัดตั้งคณะผู้เชี่ยวชาญจากหลายประเทศ เพื่อพิจารณามาตรการที่จำเป็นในการควบคุมการใช้งาน
เป้าหมายหลักคือการสร้างข้อตกลงระหว่างประเทศในการใช้งานระบบอาวุธอัตโนมัติเหล่านี้ โดยจะต้องมีการควบคุมการทำงานด้วยมนุษย์อยู่ตลอดเวลา เพื่อประกันได้ว่าการปฏิบัติภารกิจของหุ่นยนต์เหล่านี้ จะเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน กฏการปะทะ และกฏหมายสงครามทั้งหมด
เราคงจะต้องติดตามความก้าวหน้าของนวัตกรรมนี้ต่อไป ควบคู่ไปกับการรณรงค์ให้มีการควบคุมการใช้งานโดยมนุษย์ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่อสันติภาพของโลกจากหุ่นยนต์เหล่านี้ในอนาคต
โฆษณา