🎁❤️จริงเหรอที่เขาว่า การให้หรือการมีเมตตา (ถึงแม้จะเพียงเล็กน้อย) ต่อใครสักคน นั้นมันช่างดีต่อใจทั้งคนให้และคนรับ
How can a small gesture of kindness be a win-win situation?
🎁❤️การที่เราได้ช่วยเหลืออะไรใคร หรือให้อะไรใคร ๆ ให้โดยไม่หวังผลตอบแทน ให้ด้วยความจริงใจนี่มันดีจริง ๆ นะครับ
The act of kindness, genuine kindness without expecting anything in return, is a great gesture.
🎁❤️คือว่ามันมีข้อดีที่เห็นได้ชัดเจนคือคนรับเขาจะมีอบอุ่น มีความสุขใจที่ได้รับขึ้นมาทันที
This is because it generates an immediate feel-good-effect to the recipient; the person can sense the warmth and happiness from your kind act.
🎁❤️เพียงแค่เรามีความตั้งใจที่จะให้อะไร ช่วยเหลือใครสักคน คนทีเป็นผู้รับเขาจะรู้สึกได้ถึงความตั้งใจดี ๆ ตรงนั้น
It is the good intention, the kind thought that counts. Surely, the recipient will sense that.
🎁❤️จริง ๆ แล้วสิ่งที่เราจะมอบให้คนอื่นนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นอะไรชิ้นใหญ่ ๆ หรือมีราคามากมาย หรือเป็นการเสียสละครั้งยิ่งใหญ่อะไรมากมายนัก
I am not suggesting that what you give must be an enormous object, a priceless present or the real act of altruism.
🎁❤️การมอบของหรือการทำอะไรให้คนอื่นเพียง เล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น การเปิดประตูให้คนอื่นเข้าไปก่อน การให้คนที่เร่งรีบกว่าเรา ได้คิวเราไป (อันนี้ต้องดูดี ว่าไม่มีคนอื่นเข้าคิวต่อจากเรา ไม่งั้น อาจจะโดนอะไรเอาง่าย ๆ ผมเตือนคุณแล้วนา🤕) ก็สามารถมีผลกระทบดี ๆ ด้านจิตใจให้กับผู้รับได้
In fact, a small, teeny-weeny act of kind gestures such as open the door for others, allow a person who is in a hurry to jump the queue in front of you (be mindful that you are the last one in the queue, otherwise you might be in trouble from your kind act if the people in the queue behind you are not happy with it!) could make the recipient feel lucky and grateful.🙏
🎁❤️โอเค! เข้าใจแล้ว OK! I get the point.
🎁❤️แต่สำหรับผู้ให้หล่ะ มันมีผลดีต่อใจตรงไหนกัน ไหนลองแจกแจง แถลงไขออกมาซิ
What about the giver? What do they get? Elaborate and explain more...
🎁❤️มีซิ คือว่ามัน... Sure. Let’s say...
🎁❤️มีงานวิจัยหลายชิ้นและหนังสือหลาย ๆ เล่มกล่าวเป็นอันเดียวกันว่า ถ้าเรามีความเมตตาต่อผู้อื่น สมองส่วนที่ควบคุมการหลั่งสารความสุขและการให้รางวัลกับตัวเองก็จะมีการส่งสัญญาณวิ่งหากันปรู๊ดปร๊าดไปหมด (เอ๊ะ จะเรียกตามภาษาวัยรุ่นว่า เส้นสมองส่วนนี้จะ วาร์ป ซึ่งกันและกันนั่นเอง จะได้ไหมอ่ะ)😄🥳
Several neuroscience of empathy and compassion studies and related books found that when you are kind to others, the pleasure and rewarding regions of your brain light up as if you were the recipient of the good deed – not the giver. Interesting huh? 😃The brain cells or neurons will fire to one another, and that make you feel good, warm and happy from your own kind act.
🎁❤️คือเอาเข้าจริง ๆ มันก็เหมือนกับว่าคนที่มอบความสุขให้คนอื่น (อูย...สำหรับตรงนี้ ห้ามตีความสองแง่ สามง่ามเชียวนา... 🤦🏻♂️☺️) กลับกลายเป็นคนที่ได้รับความสุขจากการให้ในครั้งนี้ไปด้วยเช่นเดียวกัน
The truth is when you help others, give others or you make them feel happy, in return you feel happy from your giving because you realise that hmm...it is good to be able to help others. You feel good about it! 😇😃
🎁❤️งานวิจัยบางชิ้น ยังกล่าวผลการวิจัยเพิ่มเติมว่า การเข้าใจความเดือดร้อนและช่วยเหลือผู้อื่นนั้น อาจจะทำให้คุณมองเห็นความเดือดร้อนของตัวเองเป็นเรื่องเล็กลงไปเลยทีเดียว 🤔🤷🏻♂️
Some studies even suggested that when you have empathy for others and help them out, you tend to realise that in fact your problem is not that bigger deal any longer.
🎁❤️เห็นไหม? การให้ความช่วยเหลือคนอื่นนั่น มันทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นมากทีเดียว
See? This makes you feel much better about yourself, your life situation.
🎁❤️นี่ไงครับถึงเรียกว่า การให้นี่มันได้ต่อใจทั้งสองฝ่ายจริง ๆ
This is what I mean when saying that ‘Giving is a win-win situation.’
🎁❤️จำไว้นะครับ สิ่งที่คุณจะให้นั้นไม่จำเป็นต้องเป็นวัตถุชิ้นใหญ่ มีมูลค่ามหาศาล ไม่ได้เกี่ยวกันเลย เพียงแค่ให้รอยยิ้ม ให้ความตั้งใจที่จะรับฟังความทุกข์ของคนอื่น ให้กำลังใจ เปิดประตูให้คนอื่น ช่วยถือของ อะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ แค่นี้ก็ทำให้คนอื่นมีความสุขไปทั้งวันได้ทีเดียว
Remember, it doesn’t need to be a big or expensive present or tangible objects but small acts of kindness (a gentle smile, listen to their problem attentively, open the door for someone or even carry things for those who need help or support) can have a huge impact by which you are making their day more pleasant.
🎁❤️ส่วนตัวผมทำสิ่งเหล่านี้ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นประจำ และตอนนี้ทำบ่อย ๆ เวลาออกไปวิ่งคือ ถ้าเจอคนที่วิ่งสวนทางกันก็ ถึงจะไม่รู้จักกัน แต่ผมจะโบกมือทักทาย หรือพยักหน้า ส่งยิ้มให้ (ไม่ได้หยุดคุย หรืออะไรกันนะ) และส่วนมากก็จะได้รับการตอบรับที่ดี ๆ กลับมา มันเหมือนกับเป็นวัฒนธรรมตัวหนึ่งของคนที่วิ่งน่ะครับ มันเป็นการให้กำลังใจซึ่งกันและกันนั่นเองครับ 🏃♂️👋
Mine? I do the above mentions all the times. Recently, while running, I always wave to a runner who is on the opposite direction. No, I don’t even know him/her. Sometimes, I give a gentle smile or a gentle nod and most of the times my act was reciprocated. It is an appropriate and understanding protocol between the runners. Meaning we give support to one another! 🙋🏻🙋♀️🏃♀️🏃👋
🎁❤️หรือไม่ก็เวลาวิ่งไปเจอคนเดินอยู่ข้างหน้า ผมก็จะชะลอการวิ่ง แล้วตีตัวออกห่างมาหน่อย (โดยเฉพาะตอนนี้เป็นอะไรที่เหมาะที่ควรเป็นอย่างมาก อ้าว...โกวิด-19 ไงครับ) เพื่อทิ้งพื้นที่ระยะห่างเล็กน้อย คงไม่มีใครอยากให้เหงื่อเราไปสะบัดใส่ใบหน้าเขามั้งครับ 🤮🤮🤣 ล้อเล่นครับ... แท้ที่จริงแล้ว อันนี้คือการให้พื้นที่ การเคารพความเป็นส่วนตัวของพวกเขาครับ
Also, if I realise that a group of people walking ahead of me, I would move myself out of their way slightly (especially during the pandemic, it is a must). Just to give them personal space (I honestly don’t think that anybody want to smell my sweat! Yuk!!) 🤮🤮🤣
Yo!, What’s up? 🏃♂️👋😄
🎁❤️เห็นไหมครับ การคิดถึงคนอื่น การให้ การช่วยเหลือคนอื่นด้วยความตั้งใจจริง มันทำให้เรามีความสุขเปรียบเสมือนว่าเราเป็นผู้รับเสียเอง
Right now, I am sure you can see how helping others could make you feel happy. Would you agree?
🎁❤️ข้อเตือนใจ (โดยเฉพาะในกรณีที่จะช่วยคนอื่นในเรื่องใหญ่ ๆ) อย่าให้มากจนชีวิตคุณหรือคนในครอบครัวคุณ ต้องลำบาก และทุกข์ทรมาน จากการให้ของคุณหล่ะ อย่างไง ๆ การเดินทางสายกลาง ตามคำสอนของพระพุทธองค์ก็ต้องนำมาใช้พิจารณาการตัดสินใจให้ของตัวคุณด้วยนะครับ
A gentle reminder: do not over-giving especially if that overact of giving will make you or your family members suffer! 🤦🏻♂️😞 That is not great. You need to know the balance. Perhaps, the Buddhism’s philosophy of ‘the middle ground’ might be brought into your consideration when you are about to give something to others. 😇
🎁❤️คือถามตัวเองสักนิดหนึ่งว่า เอ๊ะ ถ้าฉันช่วยคนนั้นแล้วเนี่ย... ตัวฉันและครอบครัวฉันจะเดือดร้อนไหม
Just ask yourself a question of ‘appropriateness’ before you offer your act or your gesture of kindness. Check it before you wreck it! 🤔
🎁❤️ข้อเตือนใจข้อที่สอง ก่อนที่คุณคิดจะให้ความสุขกับคนอื่นแล้ว ถามตัวคุณเองสักนิดนะครับว่า คุณเคยให้อะไรดี ๆ กับตัวเองบ้างหรือยัง ถ้ายัง หัดมอบสิ่งดี ๆ ให้กับตัวเองก่อนครับ ตรงนี้สำคัญมากที่เดียวในการที่จะทำให้ชีวิตคุณมีความสุข
Another reminder: before you want to help others, perhaps ask yourself ‘Have I ever give myself or do myself any kindness?’ 🤔 This is vital. You must give yourself love and kindness before you can genuinely offer it to others. 💕
🎁❤️ข้อคิดเพื่อชีวิตดี ๆ วันนี้ : Today Happy Life Ideas... 💡😃
🎁❤️คุณคิดหรือยังว่า วันนี้จะให้อะไรดี ๆ กับตัวเองและจะช่วยอะไรใครบ้างครับ
What kindness would you give yourself and others today?
🙏👨🏽💻🎁❤️ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันครับ : Thank you for reading.
✍🏼Copyright: Worawet Sittichai วรเวทย์ สิทธิชัย
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
