ย้อนประวัติศาสตร์ ก่อนที่ ‘เกาหลี’ ต้องเเตกออกเป็นสอง
ชาวเกาหลีมีตำนานเล่าถึงกำเนิดชนชาติของตนอย่างสุดเซอร์เรียลว่า กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว โอรสของเทพสูงสุดบนสรวงสวรรค์ พระนามว่า เจ้าชายฮวางวุง ได้ลงมาสร้างเมืองที่ภูเขาแทแบ็ก ต่อมามีเสือกับหมีอยากเป็นมนุษย์ จึงเข้าไปขอพร พระองค์ทรงวางเงื่อนไขว่า ให้ทั้งสองบำเพ็ญเพียรและกินแต่กระเทียมเป็นอาหาร เสือทำได้ไม่นานก็เลิกลา ส่วนหมีมีความมุ่งมั่นแรงกล้า กระทำตามเงื่อนไขของพระองค์ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
จนกระทั่งวันหนึ่งหมีก็ได้เป็นมนุษย์สมใจ โดยเป็นหญิงสาวรูปงาม และได้อภิเษกกับเจ้าชายฮวางวุง (ผู้ให้พร) ต่อมาได้ให้กำเนิดพระโอรสพระนามว่า เจ้าชายตันกุน ซึ่งเป็นผู้ที่สร้าง อาณาจักรโชซอนโบราณ ขึ้นมา
โดยเผ่าโชซอนโบราณ รุ่งเรืองในระดับพีคสุดๆ เมื่อช่วงปี พ.ศ. 143 – 243 ก่อนจะถูกจีน มหาอำนาจในยุคนั้นบุกยึดในปี พ.ศ. 434 ผ่านไปกว่าสี่ร้อยปี เผ่าโคกูรยอ ก็ประกาศเอกราชได้สำเร็จ ในปี พ.ศ.856 ก่อนเข้าสู่ยุคเกาหลี 3 ก๊ก หรือ 3 อาณาจักร ได้แก่ ก๊กโคกูรยอ , ก๊กแพ็กเจ และก๊กชิลลา
ทั้ง 3 ก๊กนี้ ชิลลาเป็นก๊กที่มีทีเด็ดที่นโยบาย ดำเนินเกมการเมืองระหว่างอาณาจักรด้วยการเป็นพันธมิตรกับแพ็กเจ เพื่อต่อต้านโคกูรยอ อาณาจักรที่แกร่งที่สุดในช่วงเวลานั้น แต่บางช่วงก็เป็นพันธมิตรกับโคกูรยอ กระทั่งเมื่อแพ็กเจอ่อนกำลังจากการสู้รบกับโคกูรยอ ก็ถูกชิลลาเข้าบุกยึด
ต่อมาชิลลาก็ร่วมเป็นพันธมิตรกับราชวงศ์ถัง ของจีน รุมกินโต๊ะโคกูรยอจนล่มสลาย แล้วชิลลาก็ขับไล่จีนออกจากอาณาจักร จนได้ชื่อว่าสามารถรวบรวมเกาหลีเป็นหนึ่งเดียว แต่ก็ไม่เบ็ดเสร็จ เพราะต่อมาแม่ทัพจากโคกูรยอที่รอดชีวิต ได้รวบรวมไพร่พลสร้างอาณาจักรใหม่ที่ชื่อ พัลแฮ ขึ้นมา นักประวัติศาสตร์บางสำนักจึงเรียกเกาหลีในช่วงนั้นว่า ยุคอาณาจักรเหนือ – ใต้
หลังจากนั้น ก็เข้าสู่ยุคหลายอาณาจักรอีก ซึ่งเหตุการณ์ช่วงนี้ค่อนข้างอีรุงตุงนัง สรุปแล้วต่อมามี อาณาจักรโคกูรยอใหม่ เรืองอำนาจขึ้น และก็ปราบอาณาจักรต่างๆ ลงได้ จนเข้าสู่ ยุคโคกูรยอ (หรือจะเรียกว่าโคกูรยอใหม่ก็ได้) อย่างสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 1461 ก่อนถูกโค่นล้มโดย ราชวงศ์โชซอน (หรือโชซอนใหม่) ในปี พ.ศ.1935
ราชวงศ์โชซอนใหม่ ปกครองเเผ่นดินเรื่อยมา กระทั่งใน พ.ศ.2453 เกาหลีก็ถูกญี่ปุ่นยึดครอง และปกครองอย่างกดขี่ข่มเหง จึงสร้างความคับแค้นใจให้กับชาวเกาหลีเป็นอย่างมาก ญี่ปุ่นพยายามลบล้างความเป็นชาติของเกาหลี ด้วยการห้ามสอนประวัติศาสตร์และภาษาเกาหลีในโรงเรียน วัฒนธรรมเกาหลีเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ชาวเกาหลีถูกบังคับให้ใช้ชื่อเป็นภาษาญี่ปุ่น หนังสือพิมพ์ถูกห้ามตีพิมพ์ด้วยภาษาเกาหลี หนังสือประวัติศาสตร์เกาหลีถูกเผาทำลาย
และในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ชายเกาหลีก็ถูกบังคับให้ร่วมกับญี่ปุ่น รบกับฝ่ายสัมพันธมิตร ส่วนหญิงสาวก็ถูกส่งไปสนองตัญหาเหล่าทหารของญี่ปุ่น หลังสิ้นสุดสงคราม ญี่ปุ่นเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แล้วอเมริกาก็เคลื่อนกำลังเข้าควบคุมภาคใต้ของคาบสมุทรเกาหลีทันที ส่วนโซเวียต (รัสเซียในปัจจุบัน) ก็เข้าควบคุมภาคเหนือ โดยมีเส้นขนานที่ 38 เป็นเส้นแบ่ง ทั้งสองต่างดูแลเกาหลีตามแนวทางของตน
เกาหลีเหนือ การปกครองเป็นไปในระบบคอมมิวนิสต์ ตามแนวทางของโซเวียต ส่วนเกาหลีใต้ การปกครองเป็นไปในระบบประชาธิปไตย ตามแนวทางของอเมริกา กระทั่งเป็นชนวนเหตุให้เกิด สงครามเกาหลี ที่ยืดเยื้อถึง 4 ปี ก่อนจะมีการเจรจาสงบศึก
หลังจากนั้นทั้ง 2 ประเทศ ก็กระทบกระทั่งกันเป็นระยะ เนื่องจากรูปแบบการปกครองที่แตกต่างกัน แต่ก็มีโมเมนต์ชื่นมื่นให้ชาวโลกได้ชุ่มฉ่ำหัวใจ อาทิ ในการแข่งขันเทเบิลเทนิสชิงแชมป์โลก เมื่อปี พ.ศ.2534 ที่ทั้งสองประเทศรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน และคว้าแชมป์ได้อีกด้วย
อ้างอิง : workpointtoday
#현빈 #HyunbinForeverTH
#HyunBin
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
