Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Superwins
•
ติดตาม
3 มี.ค. 2021 เวลา 02:25 • ปรัชญา
พระเจ้าในแบบของคุณ
ผมเคยมีทัศนคติเหมารวมว่าคนที่มีความเชื่อสายวิทยาศาสตร์อย่างเช่น นักฟิสิกส์ นักคณิตศาสตร์ จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับคนที่เชื่อในพระเจ้า เหตุเพราะหลังจากยุคมืดที่คริสตจักรครองอำนาจทั้งด้านความคิดและการเมืองเหนือประชาชน ก็คือยุคแห่งการรู้แจ้งที่อำนาจทางความคิดฝั่งคริสตจักรถูกท้าทายจนสั่นคลอนแล้วล่มสลายไปในที่สุด ทั้งๆที่คริสตจักรก็นำความรู้บางส่วนมาจากปราชญ์สมัยโบราณ อาทิเช่นเรื่องโลกแบนและเพศหญิงด้อยกว่าเพศชายโดยธรรมชาติจากอริสโตเติล ในยุครู้แจ้งนั้นก่อเกิดนักปรัชญาที่มีอิทธิพลต่อแนวคิดสมัยปัจจุบัน อาทิ เดการ์ต เดวิด ฮูม ไลบ์นิซ หรือนักวิทยาศาสตร์เลื่องชื่ออย่าง เซอร์ไอแซค นิวตัน กาลิเลโอ เป็นต้น
แต่เมื่อผมได้มาศึกษาแนวคิดของนักวิทยาศาสตร์หรือนักปรัชญาสมัยรู้แจ้งบางคน กลับพบว่าปัญญาชนผู้ให้กำเนิดทฤษฎีท้าทายความรู้สายของคริสตจักรเหล่านี้ กลับเชื่อในพระเจ้าอย่างแรงกล้าไม่แพ้คริสต์ศาสนิกชนผู้ศรัทธาและยึดมั่นในคำสอน เพียงแต่พวกเขาเชื่อในพระเจ้าในรูปแบบที่ใช้หลักเหตุผลในการนำ ยกตัวอย่าง เซอร์ไอแซค นิวตัน ผู้ค้นพบทฤษฎีแรงโน้มถ่วงเชื่อว่าพระเจ้าคือธรรมชาติ เหตุเพราะกฎธรรมชาติต่างๆที่เขาค้นพบนั้นงดงามและอัศจรรย์จนรู้สึกได้ว่าต้องเป็นฝีมือของพระเจ้า เพียงแต่วิธีการเข้าถึงพระเจ้าของเขาอาจจะไม่ถูกจริตคำสอนของทางคริสตจักร ส่วนอีกคนที่น่าสนใจก็คือ วิลเฮล์ม ไลบ์นิซ นักปรัชญาที่มีพื้นเพเป็นนักคณิตศาสตร์ มีความคิดว่าคณิตศาสตร์คือภาษาธรรมชาติ และพระเจ้าคือที่สุดของทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นที่มาของกฎธรรมชาติที่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบ ความรู้วิทยาศาสตร์ที่ได้ทำให้เรารู้จักรพระเจ้าได้ดีขึ้น นักปรัชญาและเทววิทยาอาจจะเน้นความสำคัญที่ว่าโลกคืออะไร แต่นักวิทยาศาสตร์มองในมุมที่ต่างไปเล็กน้อยคือให้ความสำคัญว่า โลกทำงานอย่างไร และจะใช้ประโยชน์อะไรจากมันได้บ้าง
ทฤษฎีวิวัฒนาการของชาร์ล ดาร์วิน สั่นคลอนความเชื่อทางคริสต์ศาสนาอย่างรุนแรง จะไม่สะเทือนได้อย่างไรในเมื่อทฤษฎีพยายามพิสูจน์ว่าเราวิวัฒนาการมาจากสิ่งมีชีวิที่มีลักษณะคล้ายลิงไร้หาง แทนที่จะเป็นสิ่งมีชีวิตที่พระเจ้าทรงสร้างถอดแบบจากตน ในทางกลับกันที่ผ่านมาเราอาจสร้างพระเจ้าขึ้นมาในสาระบบความเชื่อโดยถอดแบบจากตัวเราเอง สมมติว่าเราวิวัฒนาการผิดพลาดมามีหนวดสองข้างเหมือนกุ้งแล้วหัวเป็นม้า พระเจ้าของเราจะมีลักษณะคล้ายเช่นนั้นด้วยหรือไม่
การค้นพบฟอสซิลและซากสัตว์ดึกดำบรรพ์ทำให้ความเชื่อว่าพระเจ้าสร้างมนุษย์ขึ้นในวันที่ 6 เกิดข้อกังขา แต่มองอีกมุมหนึ่งอาจจะเป็นบททดสอบของพระเจ้าก็ได้ พลังแห่งความศรัทธาที่แท้จริงคือพลังที่อยู่เหนือยิ่งกว่าเหตุผล เหมือนที่พระเจ้าทดสอบอับราฮัมด้วยการปรากฎตัวต่อเขาแล้วบอกให้เขาสังเวยบุตรชายของตัวเอง แต่เมื่อพระเจ้าได้ประจักษ์แล้วว่าศรัทธาของอับราฮัม เป็นของจริงจึงเนรมิตลูกแกะขึ้นมาแล้วใช้มันบูชายัญแทน ทุกวันนี้ศรัทธาที่บริสุทธิ์แรงกล้าเหนือกว่าเหตุผลเริ่มดำรงอยู่ยากขึ้นเรื่อยๆ หากกว่าลูกแกะที่พระเจ้าจะเนรมิตไม่มีอยู่จริงเล่า หากเสียงที่พระเจ้าบอกเป็นเพียงแค่เสียงแว่ว (Hallucination) จากอาการของโรคจิตเภท (Schizophrenia) เราควรศรัทธาต่อหรือเลือกไปหาจิตแพทย์ แล้วเราจะเสียโอกาสในการแสดงศรัทธาที่แท้จริงหรือไม่ ไม่แน่ว่าซากฟอสซิลและความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์อาจจะเป็นผลงานของเจ้างูร้ายในสวนที่หลอกล่อลูกหลานของอดัม และ อีฟ อย่างพวกเรา ให้ถอนความศรัทธาออกมาจากความเชื่อในพระเจ้า เราอาจจะพลาดโอกาสชนะแรงโน้มถ่วงแล้วได้ไปอยู่กับพระเจ้าหลังวันแห่งการพิภากษาก็เป็นได้
ประโยคอมตะของ นิตเช่ ที่ว่า “พระเจ้าตายแล้ว” สะท้อนแนวคิดสำคัญที่เป็นรากฐานสำหรับปรับปรัชญาสมัยใหม่อย่างเช่น อัตถิภาวนิยม ซึ่งเชื่อว่าเรามีเจตจำนงเสรีของเราอย่างเต็มที่ ไม่ได้เป็นไปตามที่พระเจ้าหรืออำนาจพิเศษเหนือธรรมชาติใดๆบัญญัติไว้ แต่ไม่แน่ว่าพระเจ้าอาจจะยังไม่ได้ตายจริงๆ แค่เปลี่ยนรูปแบบไปเป็นอย่างอื่น ธรรมชาติส่วนลึกคนเราโหยหาที่จะเข้าใจและได้เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าตนเอง สิ่งที่มีอิทธิพลของชีวิต ความรู้สึกนี้เองที่ทำให้เกิดพระเจ้าของเรา พระเจ้าในรูปแบบ ซุส โอดิน พระเยซู พระยะโฮวา พระพุทธเจ้า หรือการดึงเอาอำนาจเจตจำนงเสรีเข้ามาอยู่ในตัวเองอย่าง “อัตถิภาวนิยม” ก็อาจจะเป็นการย้ายรูปแบบของพระเจ้าแบบหนึ่ง ให้พลังอำนาจบางส่วนของท่านมาอยู่ในตัวเองมากขึ้น และการที่เรามีเจตจำนงเสรีเป็นของตัวเอง การที่เราตัดสินใจเมินความชั่วแล้วทำความดีก็ย่อมมีความหมายมากกว่าการถูกอำนาจเบื้องบนลิขิตชะตาไว้แล้ว เผลอๆอาจอยู่ใกล้พระเจ้ามากกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ
อันที่จริงต้องสารภาพว่าความรู้เรื่องปรัชญาผมยังมีจำกัด ผมเพียงแต่ตั้งข้อสังเกตในขอบเขตที่ผมรู้ หากเป็นความเข้าใจผิดพลาดประการใดขออภัยล่วงหน้ามา ณ ที่นี้ครับ ผมแค่ขอใช้สิทธิตั้งคำถามที่พึงมาโดยไม่อยากรอให้รู้จักมันอย่างสมบูรณ์ เหมือนลูกศิษย์ที่ยกมือถามระหว่างที่อาจารย์ยังสอนไม่จบ
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย