3 มี.ค. 2021 เวลา 10:53 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
TIMEOUT
Ford v Ferrari (2019) - นักแข่งชั้นล่าง
โดย ธ.เจริญมิตร
6
*บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาสำคัญของภาพยนตร์
ปี 1963 เฮนรี ฟอร์ดที่ 2 กำลังโมโหที่ยอดขายรถตกฮวบฮาบ ลี ไอเอค็อคคา รองประธานบริษัท ผู้ผลักดันรถฟอร์ดมัสแตงจนโด่งดัง เสนอไอเดียว่ารถแข่งอย่างเฟอร์รารี รุ่นรอสโซ-คอร์ซาเป็นรถที่ดูเซ็กซี่นัก ถ้าฟอร์ดได้ชัยชนะรายการ เลอ มองส์ 24 ชั่วโมง บ้างคงจะขยับภาพพจน์ได้ไม่น้อย
5
ไม่รอช้า เฮนรีส่งคนไปเจรจาซื้อบริษัทเฟอร์รารีทันใด โดยจะยังให้อำนาจเต็มแก่ เอ็นโซ เฟอร์รารี ควบคุมดูแลงานแข่งรถต่อไป ทว่าเอ็นโซกลับใช้ข้อเสนอนี้ไปต่อรองราคากับบริษัทเฟียตแทน ตั้งใจดูถูกเฮนรีโดยเฉพาะ และเฟียตก็ยอมซื้อบริษัทเฟอร์รารีจริงๆ โดยยังให้เอ็นโซเป็นผู้บริหารต่อไปด้วย พอเฮนรีรู้เข้าก็แค้นใจนัก ตกลงใจจัดตั้งแผนกแข่งรถขึ้นมาเองแบบด่วนจี๋ ตอนนี้เหลือเวลาเพียง 90 วันให้ทำงาน
ลีติดต่อ แคร์โรลล์ เชลบี นักแข่งอเมริกันคนเดียวที่เคยชูถ้วยที่เลอ มองส์เมื่อปี 1959 ให้มาเป็นหัวหน้าโปรเจ็กต์แข่งรถนี้ ให้สิทธิ์เขาออกแบบและทดสอบรถเองด้วย แคร์โรลล์ติดต่อหานักแข่งมือดีที่สุดในสายตาเขา นั่นคือ เค็น ไมล์ส ภรรยาเค็นได้เห็นทั้งสองคนคุยกันถูกคอ ชักสงสัยว่าคุยอะไรกัน เค็นบอกแค่เพียงแคร์โรลล์มาจ้างเขาไปขับรถแข่ง
แคร์โรลล์ เชลบี (แม็ตต์ เดมอน) ต้องเลิกขับรถแข่งเด็ดขาด หมอสั่งห้ามเขาไว้เนื่องจากสภาพหัวใจผิดปกติ เขาเลยผันตัวมาเป็นเซลล์ขายรถยนต์ แคร์โรลล์พูดจาไพเราะ ผู้คนถูกใจ ทั้งยังเก่งเรื่องงานออกแบบและวิศวกรรมยานยนต์ด้วย
ส่วน เค็น ไมล์ส (คริสเตียน เบล) นักแข่งรถฝีมือฉกาจสัญชาติอังกฤษ เปิดอู่ซ่อมรถเล็กๆ ของตัวเอง แค่พอมีรายได้ดูแลมอลลีภรรยากับปีเตอร์ลูกชายไหว เค็นเป็นคนพูดจาตรงไปตรงมา ไม่เคยบิดเบือนอะไรเลย จนลูกค้าเขาปรี๊ดแตกบ่อยๆ
ครั้งหนึ่งเค็นเคยโวยใส่คณะกรรมการที่ปรับเขาตกรอบเพราะรถผิดหลักเกณฑ์ แคร์โรลล์เข้าไปห้ามปราม เลยกลายเป็นทั้งสองมีปากเสียงกันเองหนักหน่วง ปิดท้ายด้วยเค็นเขวี้ยงประแจใส่ ทว่าแคร์โรลล์หลบได้หวุดหวิด
งานเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาบ้างแล้ว ช่วงนี้กำลังทดสอบรถฟอร์ด GT40 MK I อยู่ที่สนามบินลอสแอนเจลีส รองประธานบริษัทฟอร์ด ลีโอ บีบี แวะมาติงแคร์โรลล์ว่าเค็นเป็นพวกลุกลี้ลุกลน เอาแน่เอานอนไม่ได้ ภาพพจน์ไม่เหมาะกับรถฟอร์ด แถมถ้าให้ออกสื่อแล้วจะยิ่งพังอีกต่างหาก อันที่จริงที่เขาไม่อยากให้เค็นเป็นนักขับของฟอร์ดก็เพราะเคยมีปัญหาส่วนตัวกันนั่นเอง ลีโอส่งนักขับคนอื่นมาลงแข่งเลอ มองส์ปี 1965 แทน แคร์โรลล์พยายามต่อสู้ให้เค็นแต่ก็ไม่ไหว จำต้องบอกเค็นตามตรง เค็นหัวเสียสุดๆ จนกระทั่งผลแข่งออกมาแพ้ตามคาดไว้
แคร์โรลล์เจอสาเหตุที่รถพังแล้ว เขาต่อสายตรงกับเฮนรีขอให้เค็นกลับมาร่วมทีม พอได้ไฟเขียวแล้วแคร์โรลล์จึงตามไปง้อเค็นถึงบ้าน พยายามขอโทษขอโพยและขอร้องให้กลับมาช่วยกันอีกรอบ แต่สองหนุ่มก็มีปากเสียงกันจนลงไม้ลงมือ เหนื่อยหอบทั้งคู่ มอลลีก็เห็นแต่ไม่ได้ใส่ใจอะไร แค่ยกน้ำมาให้สองหนุ่มดื่มชื่นใจเท่านั้นเอง
เค็นคืนสู่ทีมได้ก็ตั้งใจทำงานหามรุ่งหามค่ำ ปรับปรุงรถ GT40 MK II ต่อเนื่อง ส่วนลีโอตอนนี้ขึ้นคุมแผนกรถแข่งเบ็ดเสร็จ กำลังหาทางเล่นงานเค็นให้ได้ ลีรู้เข้าจึงมาเตือนล่วงหน้า ...พอลีโอพาเฮนรีมาถึงอู่ แคร์โรลล์ลวงลีโอไปขังไว้ในห้องทำงาน ก่อนพาเฮนรีไปลองนั่งสัมผัสบรรยากาศในรถแข่ง เฮนรีตื่นเต้นและประทับใจมากมาย แคร์โรลล์เสนอเฮนรีดังนี้ ขอให้เค็นลองลงแข่งรายการเดย์โทนาดู ถ้าชนะขอให้เขาแข่งต่อรายการเลอ มองส์ด้วย แต่ถ้าแพ้เขาจะยกบริษัทเชลบี อเมริกันที่นี่ให้เฮนรีควบคุมเองทั้งหมด
ที่สนามเดย์โทนา นอกจากแข่งกับทีมอื่นแล้ว ทีมของแคร์โรลล์ยังต้องแข่งกับทีมฟอร์ดของลีโอด้วย ทีมนั้นจ้างโฮลแมน-มูดีจากวงการนาสคาร์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความว่องไวในพิทสต็อปมา ทว่าเค็นกดคันเร่งเต็มพิกัดจนแตะ 7,000 รอบต่อนาที ชนะขาดแบบไร้ข้อกังขา นั่นหมายความว่าเขาจะได้ลงแข่งที่รายการเลอ มองส์ 24 ชั่วโมง แน่นอนแล้ว
ณ สนามเลอ มองส์ ประเทศฝรั่งเศส ปี 1966 เอ็นโซและเฮนรีใจจดจ่ออยู่ท่ามกลางคนดูมากมาย ตอนรอบแรกประตูรถเค็นปิดได้ไม่สนิทเลยทำความเร็วได้ไม่สุด ซ่อมเรียบร้อยแล้ว รถทำความเร็วสูงได้ก็จริง แต่เบรกมีปัญหาอีก เมื่อเข้าพิทสต็อปช่างต้องเปลี่ยนเบรกทั้งชุดใหม่ ช่างอิตาเลียนโมโหกันใหญ่โวยว่าผิดกติกา แคร์โรลล์ชี้ที่หนังสือคู่มือบอกว่าเขาต้องเปลี่ยนอะไหล่ได้สิ ไม่ได้ระบุว่าชิ้นไหนเสียหน่อย
เค็นขับเคี่ยวกับบันดินี นักแข่งทีมม้าป่าอิตาเลียนจนมาถึงทางตรงมัลเซนน์อีกรอบ รถเฟอร์รารีเกิดเครื่องพัง รถหมุนเคว้งและชนในที่สุด ทำให้เค็นออกนำเดี่ยว จนผู้บรรยายในทีวีชื่นชมว่าเขาขับเลกนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ลีโอเสนอไอเดียว่าน่าจะให้รถฟอร์ดทั้งสามคันจากสามทีมเข้าเส้นชัยพร้อมกัน จะเป็นภาพที่ตราตรึงใจบนหน้าหนังสือพิมพ์ เฮนรีชอบใจใหญ่จึงให้ลีโอไปแจ้งแคร์โรลล์ ลีโอที่พยายามข่มแคร์โรลล์อยู่แล้วจึงได้ทีออกคำสั่ง แม้แคร์โรลล์ไม่เห็นด้วยสักนิด ทว่าเขาก็อุตส่าห์บอกข้อเสนอไป แล้วให้เค็นตัดสินใจเอาเอง
แน่นอนว่าเค็นไม่สนใจ ตะบึงรถต่อด้วยความเร็วสูง ทว่าก่อนถึงเส้นชัยเขากลับผ่อนคันเร่ง รอรถฟอร์ดอีกสองคันมาเข้าเส้นชัยพร้อมกัน ทุกคนร่วมฉลองชัยกับเค็น แต่แล้วคณะกรรมการเทคนิคแจ้งว่าเขาได้เพียงที่สองเท่านั้น แคร์โรลล์โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ขณะที่เค็นดูจะชินชากับเรื่องแบบนี้เสียแล้ว ขอแค่ได้ลงแข่งและรู้ว่าตัวเองชนะก็พอ ทั้งสองปลีกตัวจากผู้คน เดินคุยเรื่องรถคันใหม่ออกจากสนามแข่งไปด้วยกัน
2 เดือนต่อมา พวกเขากำลังทดสอบ เจ-คาร์ รถที่ออกแบบใหม่หมดจด เค็นเจอปัญหาเรื่องเบรกอีกหน แต่คราวนี้เกินควบคุม จนอุบัติเหตุคร่าชีวิตเขาไป 6 เดือนถัดมา แคร์โรลล์ไปหาครอบครัวเค็นที่บ้าน มอบประแจที่เค็นเคยเขวี้ยงใส่เขาที่วิลโลว์สปริงตั้งแต่ปี 1963 เอาไว้ให้ปีเตอร์ ลูกชายของเค็นรักษาไว้
รถยนต์ที่ แคร์โรลล์ เชลบี ออกแบบ ชนะรายการเลอ มองส์ 4 ปีซ้อน และ เค็น ไมล์ส ถูกบันทึกชื่อในหอเกียรติยศนักแข่งรถเมื่อปี 2001
นักแข่งรถฝีมือฉกาจ ทั้งยังขยันศึกษาหาความรู้ และซ่อนความสามารถระดับวิศวกรยานยนต์ชั้นเยี่ยมเอาไว้ด้วย ทว่ารูปลักษณ์เขาดูซอมซ่อผิดกับนักแข่งรถทั่วไปที่เฟี้ยวฟ้าวกันหมด แถมพูดจาโผงผางเหมือนเอาแต่ใจ จึงถูกประเมินจากคนฝ่ายบริหารว่าเป็นเพียงช่างเครื่องชนชั้นแรงงานเท่านั้น ซึ่งชนชั้นนายทุนไม่อยากร่วมงานแบบออกหน้าออกตาด้วยสักเท่าไร กลัวว่าภาพพจน์สินค้าของตนจะถูกบิดเบือน และภาพลักษณ์ตัวเองจะถูกดึงต่ำลงไป
ขณะที่ไมล์สเองก็ไม่อยากตอแยกับคนชนชั้นนายทุนเหล่านี้ ที่ตลบตะแลง ล่อลวงเขามานับครั้งไม่ถ้วน เห็นได้จากที่เค็นผิดหวังจนทิ้งถ้วยรางวัลลงถังขยะและเข็ดขยาดตั้งแต่เริ่มเรื่อง แต่เขาอยากร่วมงานกับ แคร์โรลล์ เชลบี ที่เข้าใจเขา คุยภาษาเดียวกัน และมีจุดหมายปลายทางร่วมกัน เค็นจะได้ทำสิ่งที่เขาถนัด สิ่งที่เขารัก และมีเพื่อนคู่คิดที่จะช่วยพัฒนาตัวเองไปได้สุดทาง ซึ่งแคร์โรลล์เชื่อมั่นในตัวเค็นเช่นกัน เขาถึงกับเอาบริษัทเชลบี อเมริกันของตัวเองเป็นเดิมพันกับ เฮนรี ฟอร์ด เอาไว้
แต่แล้วคนชนชั้นแรงงานก็เป็นเครื่องมือแสวงหาผลประโยชน์ของชนชั้นนายทุนวันยันค่ำ ถูกหลอกลวงซ้ำซาก ยังดีที่ชายทั้งสองไม่ยอมจำนนกับถ้วยรางวัลจอมปลอม
1
แม้บริษัทฟอร์ดจะเอาชนะเฟอร์รารีไปได้ในสนามประลองความเร็ว พิสูจน์ให้เห็นว่าคนจากโลกใหม่ผู้มาทีหลังมิได้ด้อยกว่าตำนาน ทั้งยังนำหนึ่งบนเวทีตลาดรถยนต์อเมริกา สร้างรายได้มหาศาล แต่กลับหลงลืมคุณค่าลึกซึ้งของชัยชนะที่แท้จริง น่าหดหู่ใจที่พวกเขาใช้ผลการแข่งขันเพียงเพื่อประโยชน์ในเชิงพาณิชย์อย่างเดียว ละเลยความเป็นเลิศด้านวิศวกรรมและใจรักในการขับแข่งรถที่บรรจบกันอย่างลงตัวตามที่แคร์โรลล์กับเค็นได้พยายามสร้างเอาไว้ อันเป็นหัวใจสำคัญที่ฟอร์ดเคยมีในวันนั้น
1
ซ้ำร้ายนายทุนเหล่านั้นไม่มีความเข้าใจในกีฬาแม้สักนิดเดียว พวกเขาสอบวิชามนุษยธรรม วิชาจริยธรรมตกแล้วตกอีก ไร้ซึ่งน้ำใจนักกีฬาโดยสิ้นเชิง คลายมนต์เสน่ห์ของกีฬาด้วยการล็อกผลการแข่งขันเพื่อผลทางการตลาดชั่วคราว ลดทอนคุณค่าและศักดิ์ศรีของแชมเปี้ยน บั่นทอนความสวยงาม และทำลายปรัชญาของกีฬาทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย
ด้วยแนวคิดห่างไกลความชอบธรรมนี้ทำให้องค์กรอ่อนแอลงเรื่อยๆ จึงไม่น่าแปลกใจว่าต่อมาไม่นานฟอร์ดพ่ายแพ้ทั้งในด้านตลาดและวิศวกรรมให้กับค่ายรถจากแดนอาทิตย์อุทัย ซึ่งเริ่มต้นธุรกิจด้วยใจรักในเครื่องยนต์กลไก แสวงหาความเป็นเลิศด้วยกระบวนการที่ถูกต้อง ตั้งต้นปรัชญาการผลิตด้วยจริยธรรม แบบเดียวกับที่สองคู่หู วิศวกรกับนักแข่งชั้นล่างที่เคยประกอบร่างกันเอาไว้
#Ford #Ferrari #FordFerrari #TIMEOUT #นักแข่งชั้นล่าง #เล่นเป็นเรื่อง #PlayNowThailand

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา