6 มี.ค. 2021 เวลา 12:45 • ประวัติศาสตร์
รองเท้าแตะฟอร์ทร็อค (Fort Rock) รองเท้าที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
โดยมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ราว ๆ 9,300 - 10,500 ปี ที่ถูกพบขึ้น
1
credit : pinterest
รองเท้าแตะฟอร์ทร็อคเป็นรองเท้าไฟเบอร์โบราณที่มีลักษณะเฉพาะซึ่งพบในโอเรกอนตะวันออกเฉียงใต้และเนวาดาตอนเหนือในช่วงปี ค.ศ. 1938
ซึ่งชื่อได้ถูกตั้งขึ้นโดยนักนักมนุษยวิทยาที่มีนามว่าลูเธอร์ เครสแมนจากมหาวิทยาลัยโอเรกอน ซึ่งได้ค้นพบรองเท้าแตะและรองเท้าแตะหลายสิบชิ้นจากถ้ำฟอร์ตร็อค
พบอยู่ใต้ชั้นของเถ้าภูเขาไฟซึ่งต่อมาได้รับการระบุว่ามาจากการปะทุของ Mount Mazama อยู่ที่ประมาณ 7,600 BP
พื้นที่บริเวณของถ้ำฟอร์ตร็อค credit : pinterest
ซึ่งคุณเครสแมนเชื่อว่ารองเท้าแตะที่พบนั้นเป็นวัตถุตั้งแต่โบราณ แต่เนื่องจากตอนที่ค้นพบรองเท้าแตะ การตรวจหาอายุจากคาร์บอนกัมมันตรังสียังไม่ได้รับการพัฒนามากนัก ดังนั้นเขาจึงยังไม่พร้อมที่จะยืนยันในสิ่งที่เขาเชื่อมากนัก
จนกระทั่งปี ค.ศ. 1951 การตรวจหาอายุจากคาร์บอนกัมมันตรังสีที่ได้รับการพัฒนาขึ้นบวกกับการวิจัยอย่างละเอียด เขาก็ได้พบว่าโครงสร้างเส้นใยจากรองเท้าแตะมีอายุมากกว่า 9,000 ปี
อีกทั้งยังค้นพบจากการค้นหาเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากรองแตะในรูปแบบ Fort Rock แล้ว รองเท้าแตะฟอร์ทร็อคมีทั้งหมด 3 สไตล์
โดยสไตล์อื่น ๆ ได้ถูกพบในถ้ำฟอร์ตร็อคที่อยู่เมือง Great Basin ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือในบริเวณที่ห่างออกไป
โดยสไตล์อื่น ๆ ประกอบด้วยสไตล์ Multiple Warp และ สไตล์ Spiral Weft ซึ่งตั้งชื่อตามคุณสมบัติโครงสร้าง
โดยทั่วไปแล้วรองเท้าแตะฟอร์ทร็อคทำจากเปลือกไม้สะระแหน่หั่นฝอย รองเท้ามีลักษณะเป็นเกลียวโดยมีเส้นใยคู่หนึ่งบิดรอบเป็นเส้นโค้งอย่างคงทน ซึ่งมันตรงกันข้ามกับวิธีการสานแบบถักเปียที่เรียบง่ายและนุ่มนวลหรือที่เรียกว่าเครื่องจักสาน
credit : pinterest
ฐานของพื้นรองเท้าแบนเป็นวาร์ปหนาห้าเส้นประกอบด้วยเชือกยาวสองเส้นพับเป็นรูปพาราโบลา (รูปตัวยู) ที่ส้นเท้าและมีเส้นตรงกลางเส้นเดียว ขั้นตอนการทำเริ่มต้นจากการผูกเส้นใยจากส้นเท้าจากซ้ายไปขวา ผูกสลับกันไปมาเรื่อย ๆ จนถึงด้านบนของพื้นรองเท้า
แต่ละแถวด้านซ้ายจะถูกรวมเข้ากับแถวก่อนหน้าอย่างแน่นหนา เพื่อให้ครอบคลุมการขดงอได้อย่างสมบูรณ์และเพิ่มความแข็งแรงให้กับพื้นรองเท้า
และตั้งแต่ส้นเท้าจรดปลายของรองเท้าก็จะทำการเกลียวไปจนกว่าจะได้ความยาวที่ต้องการ
ที่ปลายเท้าเส้นใยที่โค้งงอแบบหนาจะถูกแบ่งย่อยออกเป็นแถวที่ละเอียด และพับกลับไปด้านบนของพื้นรองเท้าและบิดไปมาเพื่อสร้างขอบรองเท้า
เว้นช่องว่างระหว่างกลางแถวปลายรองเท้า โดยจะมองเห็นเป็นเส้นที่โค้งงอ (เกลียวเปิด) เพื่อใช้สำหรับเป็นขอบของพนังไว้ห่อนิ้วเท้า โดยยึดกับขอบของพื้นรองเท้า
ในส่วนที่ใกล้กับส้นเท้ามีเชือกผูกที่ติดกับขอบอีกข้างซึ่งใช้สำหรับรัดรอบข้อเท้าให้แน่น
ในขณะที่รองเท้าแตะถูกพบในสถานที่อื่นที่ไม่ใช่แค่ในถ้ำฟอร์ทร็อค แต่ไม่มีพื้นที่ไหนที่ทำออกมาหลายขนาดอย่างที่เห็นในถ้ำฟอร์ทร็อค
โดยมีตั้งแต่ขนาดของเด็กจนถึงผู้ใหญ่ ส่วนใหญ่มีการสึกหรออย่างมากหรือมีการแตกหัก ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่ารองเท้าพวกนี้ถูกทิ้ง โดยแทนที่จะถูกเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลัง
รองเท้าแตะสไตล์ฟอร์ทร็อคก็ได้ถูกพบในพื้นที่อื่น ๆ อีกหกแห่งในโอเรกอนตะวันออกเฉียงใต้และทางตะวันตกเฉียงเหนือของเนวาดาและเส้นใยจากรองเท้าแตะมากกว่ายี่สิบคู่จากพื้นที่ที่แตกต่างกันได้รับการระบุอายุด้วยเรดิโอคาร์บอน (การหาอายุจากคาร์บอนกัมมันตรังสี)
ซึ่งได้ระบุว่าอายุของรองเท้าเหล่านี้มีตั้งแต่ประมาณ 9,100-10,400 ปี ทำให้รองเท้าแตะฟอร์ทร็อคเป็นรองเท้าที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
รองเท้าแตะฟอร์ทร็อคอาจเป็นเครื่องแต่งกายที่ใช้สำหรับช่วงฤดูหนาว นักชาติพันธุ์วิทยาได้ว่าบันทึกชาวอินเดีย Klamath และ Paiute ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่ฟอร์ทร็อค
ในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมาโดยทำรองเท้าจากพืชที่มีชื่อว่า Tule reeds และ Sagebrush โดยบางครั้งก็มีการยัดด้วยหญ้าแห้งเพื่อช่วยให้ความอบอุ่นพร้อมทั้งยังป้องกันเท้าพื้นที่ที่เป็นน้ำแข็งด้วย
พืช tule reeds และ sagebrush  credit : wikipedia
และสุดท้ายรองเท้าร็อคฟอร์ตทั้งหลายก็ได้ไปรวมกันอยู่ที่มหาวิทยาลัยโอเรกอนพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติและวัฒนธรรม และที่อื่น ๆ อย่างพิพิธภัณฑ์รัฐเนวาดาและรัฐแคลมัท พิพิธภัณฑ์ในเขตทะเลสาบ และสมาคมประวัติศาสตร์โอเรกอน
เรียบเรียงโดย : โลกหนึ่งใบ ล้านเรื่องราว
หากมีข้อผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
โฆษณา