5 มี.ค. 2021 เวลา 03:10 • หนังสือ
มีงานวิจัยอย่างหนึ่งในหนังสือ Outliers ที่น่าสนใจเกี่ยวกับพรสวรรค์และ IQ มีผลต่อความสำเร็จในชีวิตคนเราหรือไม่ ซึ่งน่าสนใจมากวันนี้ผมจะมาเหลาให้ฟัง เผื่อสร้างกำลังใจและแรงบันดาลใจให้หลายๆคนกำลังท้อต่อโชคชะตา วาสนา ให้ลุกขึ้นสู้นะครับ
มีการทดลองและวิจัยมาหลายสิบปีในอเมริกา โดยมีนักวิจัยคนหนึ่งทำการทดลองโดยค้นหานักเรียนทั่วประเทศประมาณ 2 แสนกว่าคน และคัดเลือกเด็กที่ IQ สูงกว่า 120-200 ได้มาประมาณ 1400 คน
อธิบายก่อนว่าคนส่วนใหญ่ในโลกจะมี IQ ประมาณ 90-120 โดยปกติจะมีประมาณ 90% ของประชากรทั้งหมด คนที่มี IQ 120-200 จะเป็นพวกคนแปลกแยกหรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Outlier จะมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 5-10% ของประชากรทั้งหมด ยิ่งคน IQ 200 นี่น่าจะมีน้อยกว่า 1% ของประชากรในโลกทั้งหมด
3
นักวิจัยจากอเมริกามีความเชื่อมั่นและตั้งสมมติฐานว่าเด็ก IQ สูง 120-200 นี่จะต้องโตมาประสบความสำเร็จในชีวิตทุกคนเนื่องจากมี IQ และพรสวรรค์มากกว่าคนปกติ
1
หลังจากคัดเลือกแล้วนักวิจัยจะตามติดชีวิตของเด็กนักเรียนที่ IQ 120-200 หรือพวก Outlier ตั้งแต่เด็กจนเติบโตเป็นเวลามากกว่า 10 ปี ทำวิจัยโดยส่งทีมวิจัยตามติดเกาะติดชีวิตตลอด 10 กว่าปี
โดยนักวิจัยแบ่งกลุ่มความประสบความสำเร็จตอนโตเป็น 3 เกรด คือ เกรด A ประสบความสำเร็จอย่างสูงเช่น นักธุรกิจร่ำรวย หมอ ทนายความผู้พิพากษา นักการเมือง ล้สนแต่มีชื่อเสียง
เกรด B คือพวกประสบความสำเร็จกลางๆทั่วไป คือเหมือนพวกเราปกติไม่ได้ดีเด่นอะไร อาชีพทั่วไปเช่นหมอ วิศวกร นักธุรกิจแต่ไม่ได้ร่ำรวยหรือมีชื่อเสียงเท่าไร
เกรด C คือสอบตก คือพวกเอาตัวรอดได้อย่างลำบาก บางคนก็จนไปเลยไม่พอกิน ล้มเหลวเมื่อเทียบกับ IQ ที่มีมากกว่าคนปกติ
สามารถเดาออกไหมครับว่ากี่ % ที่ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง 90% ขึ้นไปใช่ไหมครับ???
คำตอบคือ แค่ 40% ครับที่เด็ก IQ สูงได้อยู่ในพวกเกรด A ส่วน เกรด B และ C ก็ประมาณ 30-40% เป็นสัดส่วนพอๆกัน
งานวิจัยนี้ได้ตบหน้าฉาดใหญ่ใหคนที่เชื่อว่าคนมีพรสวรรค์และ IQ จะประสบความสำเร็จมากกว่าคนปกติ คำตอบของงานวิจัยนี้คือไม่เป็นความจริงว่าพรสวรรค์หรือ IQ ที่สูงไม่ได้การันตีว่าจะประสบความสำเร็จ
1
จริงอยู่ IQ 120 จะการันตีว่ายังไงก็ประสบความสำเร็จมากกว่าคน IQ 60-70 แต่ถ้า IQ สูงมากว่า 110-200 จะแทบไม่แตกต่างกัน เพราะถือว่าเป็น IQ ขั้นต่ำที่ผ่านมาตรฐานแล้วครับ กล่าวง่ายๆคือ ถ้าคุณมี IQ 110-120 คุณก็มีโอกาสประสบความสำเร็จเท่ากับคน IQ 200
2
มันมีปัจจัยหลายๆอย่างที่จะประสบความสำเร็จที่มากกว่า IQ สูง เช่นการปลูกฝังและครอบครัวมีผลอย่างมากที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จ ในหนังสือมีงานวิจัยและสังเกตทดลองคือ ถ้าคน IQ สูงแต่เติบโตในครอบครัวยากจน โอกาสจะประสบความสำเร็จน้อยมากเนื่องจากครอบครัว การสอนสั่งไม่อำนวย ผิดกับคนที่มี IQ ปานกลางและครอบครัวพร้อม Suport ดีมีฐานะ มีโอกาสจะประสบความสำเร็จมากกว่า
2
โชค ชะตาวาสนา การปลูกฝัง การฝึกฝน วินัยและพื้นฐานของครอบครัวมีผลต่อความสำเร็จมากกว่า IQ หรือพรสวรรค์
อย่าปฎิเสธส่วนนี้กันเลยครับมันคือเรื่องจริงทั้งนั้น
ในหนังสือ Outliers สอดคล้องบทความที่ผมเขียนมาสองปี เรื่อง คนเราจะรวยหรือจนอยู่ที่ โชคชะตา วาสนา?????
บทวิจัยนี้ช่วยสนับสนุนเรื่องคนส่วนใหญ่ที่รวย เพราะพ่อแม่รวยครับ แต่ไม่ใช่ทุกคนครับ แค่ส่วนใหญ่หมายถึงความน่าจะเป็นของคนที่เกิดในครอบครัวมีอันจะกิน จะรวยและประสบความสำเร็จมากกว่าคนที่ไม่ได้เกิดมามีพ่อแม่รวย
เน้นอีกครั้งนะครับ ไม่ได้บอกว่าคนที่เกิดมาจนไม่มีโอกาสรวยหรือประสบความสำเร็จ ผมเห็นคนไต่เต้าตัวเองจากไม่มีอะไรสามารถรวยได้
แต่มันมีไม่เยอะถ้าเทียบเป็นเปอร์เซนต์เท่ากับคนที่เกิดมารวย…..
ทำไมถึงเป็นแบบนั้น เพราะอะไรทำไมคนจนไต่เต้าขึ้นสู่ความรวยได้ยาก จากประสบการณ์ของผมที่พบเจอคนหลากหลาย มีเพื่อนทุกระดับ และได้คุยกับเพื่อนที่จบ Doctor มา สาเหตุที่เป็นนั้นคือ
พ่อแม่รวย จะมีเวลามากกว่าเนื่องจากมีความพร้อมด้านการเงินและเวลา สามารถใช้เวลากับลูก สั่งสอนบ่มเพาะได้มากกว่า ในทางกลับกัน พ่อแม่ที่มีรายได้ไม่มากพอก็ต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ในการหาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัว ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้รายได้มาประทังชีวิตและครอบครัว แน่นอนครับอยากได้เงินก็ต้องเอาเวลาไปแลก เวลาที่แลกไปก็คือเวลาที่สั่งสองเลี้ยงดูลูกๆ
1
ความรู้และ Mindset ของพ่อแม่รวยที่บ่มเพาะลูก มีแนวทางโอกาสที่ลูกจะประสบความสำเร็จมากกว่า เนื่องจากพ่อแม่ทำสำเร็จมาแล้วจึงสอนลูกเรื่องความผิดพลาด แนวทางการเดินทางไปสู่ความสำเร็จได้มากกว่าพ่อแม่จน
ฐานะทางการเงินและ Connection ของพ่อแม่รวยแน่นกว่า เนื่องจากพ่อแม่รวยประสบความสำเร็จจะมีเพื่อนๆหรือ connection ในแนวทางเดียวกัน มีสังคมที่ให้ลูกบ่มเพาะความคิด mindset และ connection ดีดี สามารถต่อยอดในอนาคตอีกมากมาย
ส่วนตัวผมบอกได้เลยว่าเกิดมาจากพ่อแม่ที่ไม่ได้มีฐานะอะไรมากมาย ป๊าแม่ผมจบแค่ ป4 ป๊าผมเคยเล่าให้ต้องทำงานตั้งแต่อายุ 12 เพราะเตี่ยแม่ไม่มีเงินเดินทางมากเมืองจีนเสื่อผื่นหมอนใบ มีพี่น้องมากต้องกระจัดกระจายกันไป พอป๊าแต่งงานป๊ามีลูกนั่นก็คือผม ก็เล่าให้ฟังว่าตอนนั้นก็ไม่รู้จะเลี้ยงลูกยังไง ตัวเองต้องทำงานหนัก ยกของ(เพราะขายส่งนม เป๊บซี่หรือโชห่วยนั่นเอง) หาเงินมาดูแลครอบครัว จะให้ผมไปเรียนที่ไหนยังไงก็ไม่มีความรู้เพราะตัวเองก็ไม่ได้เรียนสูง ทำได้แค่สั่งสอนเรื่องความอดทน ความพยายาม ทำงานหนักแทน จะว่าไปผมก็โชคดีที่เดินทางมาถูกต้อง เรียนจนจบโท ผมลองสอบถามเพื่อนที่จบปริญญาเอก เพื่อนผมก็บอกเช่นกันสมัยก่อนพ่อแม่ไม่ค่อยมีเงินและเวลา ต้องทำงานหนัก พวกเราต้องเดินคลำทางกันเอง
โฆษณา