5 มี.ค. 2021 เวลา 04:13 • กีฬา
เป๊ป กวาร์ดิโอลา | อัจฉริยะผู้ถูกข้อครหาว่าใช้เงินซื้อความสำเร็จ
.
“ผู้คนมักพูดว่าทีมเรา (แมนฯ ซิตี้) ชนะได้ เพราะผมถลุงเงินซื้อนักเตะ ผมขอตอบว่า ‘ใช่ คุณคิดถูกต้องแล้ว มันคือความจริงที่สุด’”
อีกหนึ่งชั่วเวลาที่น่าตื่นตาตื่นใจของโลกฟุตบอล ในจับตามองว่า “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” จะเดินหน้าคว้า 3 แต้มไปได้นานแค่ไหน ?
ปัจจุบัน “เดอะ ซิตีเซนส์” เก็บชัยได้ติดต่อกันมาแล้ว 21 เกม และถ้าพวกเขาคว่ำคู่ต่อสู้ได้อีก 7 นัดหลังจากนี้
Manchester City จะกลายเป็น สโมสรที่ชนะต่อเนื่องยาวนานสุดในโลก แซงหน้า “เดอะ นิว เซนต์ส” ทีมจากเวลส์ ที่ทำได้ในฤดูกาล 2016-2017
บุคคลที่อยู่เบื้องหลังสถิติสุดบ้าคลั่งนี้ คือ “เป๊ป กวาร์ดิโอลา” ชายผู้เป็นเจ้าของแชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 2 สมัย และแชมป์ลีกสูงสุด 8 ครั้งจาก 3 ประเทศ หรือ พลาดไปเพียงแค่ 2 ฤดูกาลเท่านั้น ในอาชีพเฮดโค้ชชุดใหญ่
โจเซป กวาร์ดิโอลา ซาลา หรือ เป๊ป กวาร์ดิโอลา คือชื่อคอบอลยุค 90’s รู้จักเป็นอย่างดี เพราะนี่คือผู้เล่นผลิตของ FC Barcelona และมีดีกรีเป็นถึงอดีตนักฟุตบอลทีมชาติสเปน
แม้เพิ่งจับงาน กุนซือชุดใหญ่เต็มตัวครั้งแรก เมื่อปี 2008 แต่เขามีความสนใจด้านศาสตร์ฟุตบอลมาตั้งแต่เด็ก เพราะเกิดในเมืองเล็กของสเปน ไม่ได้มีเพื่อนมากนัก ยกเว้นแค่ลูกบอลเท่านั้นที่เป็นเหมือนคู่หูของเขา
ว่ากันว่า เป๊ป ชอบศึกษาแท็คติกในกีฬาที่สู้กันด้วยผู้เล่นข้างละ 11 คน ตั้งแต่สมัยยังเป็นเยาวชน ในศูนย์ฝึกลา มาเซีย ของบาร์เซโลนา
หัวสมองเขาครุ่นคิดแต่เรื่องฟุตบอลตลอดเวลา เป๊ป มีความฝันอยากทำงานโค้ชตั้งแต่อายุ 27 ปี คนรอบตัวรู้ดีว่าเขาคลั่งแค่ไหน ?
นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม บาร์เซโลนา เบ ถึงดึงตัว เป๊ป กวาร์ดิโอลา มาทำงานกุนซือทีมชุดเล็ก หลังเจ้าตัวแขวนสตั๊ดไปได้แค่ 1 ปี ซึ่งเวลานั้นเป็นตอนที่ เป๊ป ไปเรียนโค้ชเพื่อเอาไลเซนส์นั่นเอง
และ เป๊ป ก็ใช้เวลาไม่ถึงปี เอาชนะใจผู้บริหารสโมสรจนได้รับการแต่งตัวให้เป็น หัวหน้าผู้ฝึกสอนของหนึ่งในทีมที่ยิ่งใหญ่สุดอย่าง บาร์เซโลนา
ท่ามกลางความสงสัยจากแฟนบอลทั่วโลกที่ไม่รู้ว่า เฮดโค้ชป้ายแดงผู้ไร้ประสบการณ์รายนี้ จะมือถึงหรือเปล่า ? แต่เขาทำให้ทุกคนต้องอึ้ง ด้วยการสร้างยุคทองให้กับ บาร์เซโลนา เดินหน้าไล่ล่าความสำเร็จอย่างบ้าคลั่ง ตลอด 4 ฤดูกาลที่อยู่กับทีม
กวาร์ดิโอลา เลือกใช้ขุมกำลังหลักที่เป็น ผู้เล่นเด็กสร้างสโมสร อาทิ ชาบี เอร์นานเดซ, อันเดรส อิเนียสต้า, ลิโอเนล เมสซี, การ์เลส ปูโยล, เคราร์ด ปิเก้, บิคตอร์ บัลเดส, เปโดร, เซร์คิโอ บุสเกตส์
ไม่เพียงเท่านั้น ยุทธวิธี แนวทางการเล่นฟุตบอลภาคพื้นดิน เน้นการต่อบอลสั้นและขยับหาพื้นที่ ซึ่งเป๊ป กำชับนักเตะอย่างมาก ยังเป็นรูปแบบที่ค่อนข้างล้ำสมัยและทำให้คู่ต่อสู้ปั่นป่วน จนไม่สามารถต้านทานพายุเกมรุกของบาร์เซโลนาได้เลย
พวกเขากลายเป็นทีมครองบอลเหนียวแน่น ไล่ถล่มประตูเป็นว่าเล่น
ที่สำคัญ เป๊ป ยังปฏิวัติภาพจำของผู้เล่นปีก ที่ในอดีตคนมักคิดถึง นักเตะความเร็วสูง ครอสบอลได้แม่นยำ หรือเป็นจอมแอสซิสต์ให้กองหน้าทำประตูเพียงอย่างเดียว
เพราะระบบ 4-3-3 ของเป๊ป กับบาร์เซโลน่า ตัวรุกที่ยืนตำแหน่งริมเส้นสองฝั่ง ต้องขยับเข้ามาด้านในมากขึ้น รวมถึงถูกเรียกร้องให้ทำประตู เสมือนเป็นกองหน้าคนหนึ่งของทีม
สถิติการยิงของ ลิโอเนล เมสซี คือสิ่งที่บ่งบอกทุกอย่าง ก่อนหน้าที่ เป๊ป จะเข้ามาคุมทีม เมสซี ทำประตูในลีกตลอด 4 ซีซั่นแรก ไม่เคยเกิน 17 ลูกรวมทุกรายการ
เพียงแค่ฤดูกาลแรกที่ร่วมงานกัน เมสซี่ กดไปมากถึง 38 ประตู หรือเพิ่มขึ้น 2 เท่าจากซีซั่นก่อน (ยิงรวม 16 ลูก)
ฤดูกาลต่อมา 2009-10 เมสซี่ กระหน่ำไป 47 ประตู, ซีซั่นที่สามกับเป๊ป เขายิงมากถึง 53 ประตู และขวบปีสุดท้ายก่อนแยกย้าย เมสซี่ ซัลโวรวมทุกรายการไปถึง 73 ประตู
“เป๊ป มีบางอย่างที่พิเศษ เขาทำให้คุณเห็นสิ่งต่าง ๆ ในทิศทางเดียวกัน เขาจะบอกทั้งหมดว่า ควรต้องเตรียมสำหรับเกมนี้อย่างไร ? เล่นเกมรับและรุกแบบไหน ?"
"เขาเป็นคนที่อธิบายทุกอย่างได้ชัดเจนว่า รูปเกมจะออกมาลักษณะไหน และเราควรต้องโจมตีอย่างไร ถึงจะชนะ” ลิโอเนล เมสซี พูดถึง กวาร์ดิโอลา
แค่เพียง 4 ฤดูกาลที่คุมบาร์เซโลนา “เป๊ป” ทำให้ทุกคนต้องคารวะในมันสมองอันปราดเปรื่อง และแท็กคติกที่ไร้เทียมทาน
การันตีด้วยการเป็น เฮดโค้ชประสบความสำเร็จมากสุดตลอดกาลของ บาร์เซโลนา ฟาดทั้งหมด 14 ถ้วย เป็นแชมป์ยุโรป 2 สมัย, แชมป์ลาลีก้า 3 สมัย, โคปา เดอเรย์ 2 สมัย, แชมป์สโมสรโลก 2 สมัย และอื่น ๆ อีก 5 โทรฟี่
หลังจากนั้น เป๊ป ก็ทำเรื่องช็อกด้วยการลาออกจาก บาร์เซโลนา ทั้งที่เขาสามารถเก็บเกี่ยวความสำเร็จจากยุคทอง ไล่ล่าเกียรติยศได้อีกหลายรายการ แต่เขากลับเลือกพักผ่อน 1 ปี
ก่อนจะมาตอบรับข้อเสนอจาก FC Bayern München ทีมยักษ์ใหญ่ของเยอรมัน โดยระหว่างที่เขาไม่ได้จับงานโค้ช เป๊ป ยอมลงทุนเรียนภาษาด๊อยช์ทอย่างจริงจัง ถึงขั้นที่สามารถสื่อสารได้อย่างคล่องแคล่ว
สแปนิชบอส ทำงานอยู่กับ บาเยิร์น มิวนิค 3 ฤดูกาล พาทีมซิวแชมป์ได้อีก 7 โทรฟี่ จากนั้นในปี 2016 เป๊ป จึงย้ายมาเป็นเจ้านายข้างสนามในอังกฤษกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เนรมิตแชมป์ให้สโมสรมาแล้ว 8 ถ้วย
บาเยิร์น มิวนิค และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีส่วนที่คล้ายคลึงกันคือ เป็นทีมใหญ่, บริการจัดดี, มีขุมกำลังชั้นยอด และงบประมาณเสริมทัพมหาศาล
แม้ เป๊ป กวาร์ดิโอลา จะพิสูจน์ให้เห็นว่า เขาเป็นยอดโค้ชอัจฉริยะผู้ไอเดียฟุตบอลล้ำสมัย ไม่เคยซ้ำเดิม เป็นคนที่เปลี่ยนแปลงปรับตัวตลอดเวลา ดูเหมือนจะนำหน้าคนอื่นเสมอ เพราะเขาพาทีมประสบความสำเร็จแทบทุกปี
แต่ก็ยังมีคนตั้งคำถามตัวต่อเขาว่า “ถ้าเก่งจริง ทำไมเลือกคุมแต่สโมสรที่มีทุนหนา อุดมไปด้วยผู้เล่นระดับท็อปของโลก และมีงบให้ช็อปปิ้งไม่อั้น”
คำตอบอาจเป็นเพราะ เป๊ป กวาร์ดิโอลา เสพติดความสมบูรณ์มากเกินไป และต้องการสร้างสิ่งใหม่แก่โลกฟุตบอล
เขาเคยเปิดปากบอกเองว่า เหตุผลที่ซื้อนักเตะแพง เพราะผู้เล่นชั้นนำมักมีราคาค่าตัวที่สูง และเขาไม่สามารถรบได้เต็มประสิทธิภาพตามที่วาดไว้ หากปราศจากอาวุธหนักครบมือนั่นคือ นักฟุตบอลเกรดพรีเมียม
เป๊ป รู้แจ้งว่าแผนการเล่น, ระบบฟุตบอลที่ตัวต้องการเป็นอย่างไร ถึงขั้นสามารถกำหนดสเป็กผู้เล่นที่อยากได้
เขาพร้อมจพโละผู้เล่นคนสำคัญที่อยู่มาก่อนออกจากทีมอย่างง่ายดาย ถ้านักเตะคนนั้นไม่ตอบโจทย์กับแท็กติกที่เขาใช้
ยกตัวอย่าง “ยายา ตูเร่” มิดฟิลด์คนสำคัญของบาร์เซโลนา ถูกขายออกจากทีมในปี 2010 โดย เป๊ป เปิดทางให้ เซร์คิโอ บุสเกตส์ กองกลางเด็กปั้นสโมสร ขึ้นมารับผิดชอบบทบาทนี้แทนอย่างเต็มตัว ทั้งที่บุสเกตส์ มีรูปร่างผอมบาง และไม่ใช่แข้งสายปะทะเหมือน ตูเร่
สไตล์ทั้งสองคนแตกต่างสิ้นเชิง แต่ในสายตาของเป๊ป เขามองเห็นว่า บุสเกตส์ มีคุณสมบัติที่เข้ากับระบบมากกว่ามิดฟิลด์ชาวไอวอรีโคสต์
เพราะ บุสเกตส์ เป็นนักเตะอ่านเกมได้ดี, เขาไม่จำเป็นต้องวิ่งพล่านทั่วสนาม แต่อาศัยการเคลื่อนที่ฉลาด ก็สามารถแย่งบอลคืนได้
แถมบุสเกตส์ ยังจ่ายบอลได้ ครองบอลดี คุมจังหวะของเกมได้อีก ท้ายที่สุดพอระบบลงตัว บาร์เซโลน่า ติดเครื่องก็แทบไม่มีใครมานั่งรำลึกถึงการขาย ยาย่า ตูเร่
เรื่องน่าตลกคือเมื่อ เป๊ป ย้ายอยู่กับ แมน ฯ ซิตี้ ในปี 2016 ยายา ตูเร่ ที่เป็นหัวใจแผงแดนกลางของซิตี้ก่อนหน้านี้ ก็ถูกลดบทบาทลง โดยผลักดันให้ แฟร์นาดินโญ กองกลางชาวบราซิเลียน รับผิดชอบส่วนนี้แทน ในที่สุด ยายา ตูเร่ ต้องออกจากทีมในปีถัดมา
ไม่เพียงแค่นั้น ตอนที่มาคุมแมน ฯ ซิตี้ ใหม่ ๆ เป๊ป ตัดสินใจไม่ใช้งาน โจ ฮาร์ต นายทวารมือ 1 ของทีม หันไปซื้อ เคลาดิโอ บราโว มาเฝ้าเสาเป็นตัวจริงแทน เนื่องจากมองว่า โจ ฮาร์ต ใช้เท้าออกบอลไม่ดี
ฟังดูเหมือนเป็นเหตุผลที่งี่เง่าพอสมควร ฮาร์ต ในตอนนั้นก็ไม่ใช่ผู้รักษาประตูที่แย่สักหน่อย เขามีดีกรีเป็นถึงมือ 1 ทีมชาติอังกฤษ ที่เพิ่งจบทัวร์นาเมนต์ ยูโร 2016 แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป มันชัดเจนว่า เป๊ป ไม่ได้บ้าบอเสียสติ
แท็คติกของเป๊ป เรียกร้องให้ผู้เล่นทุกตำแหน่งต้องสามารถใช้เท้าเล่นกับบอลได้ดี ไม่เว้นแม้แต่ผู้รักษาประตู เพราะเขาต้องการ build-up เกมให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
ฟุตบอลในอดีต มีการแบ่งสัดส่วนบทบาทหน้าที่ชัดเจน นายทวารกับเซ็นเตอร์แบ็กเน้นทำหน้าที่ป้องกันประตู
แบ็กคอยตั้งรับเกมริมเส้นคู่แข่ง และเติมเกมรุกในบางโอกาส กองกลางมีหน้าที่สร้างสรรค์เกม คอนโทรลบอล จ่ายบอลไปให้ แดนหน้าทำประตูจบสกอร์
แต่ เป๊ป ต้องการให้เกมรุกสามารถถูกเซ็ทได้ตั้งแต่หน้าปากประตูฝั่งตัวเอง ฉะนั้นผู้รักษาประตูที่เขามองหาจึงต้องใช้เท้าได้ดี เช่น มานูเอล นอยเออร์, เคลาดิโอ บราโว มาจนถึงล่าสุด แอแดร์สัน ทั้งหมดล้วนตอบโจทย์กับแผนการที่ ยอดโค้ชอัจฉริยะรายนี้ต้องการ
ไม่หมดแค่นั้น เป๊ป กวาร์ดิโอลา ยังขึ้นชื่อในเรื่องของการจับนักเตะกองกลางไปยืนเป็น เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ เพื่อหวังให้พวกเขาเหล่านั้น ใช้ความสามารถด้านการจ่ายบอลไปอย่างข้างหน้าอย่างรวดเร็วและแม่นยำ อาทิ ฮาเวียร์ มาสเคราโน, ฆาบี มาร์ติเนซ, ชาบี อลอนโซ, แฟร์นันดิญโญ
ในทางตรงกันข้าม เป๊ป ใช้นักเตะฟูลแบ็กบางคนให้ปรับไปเล่นกองกลาง อย่างเช่น ราฟินญา, ฟิลิปป์ ลาห์ม, โยชัว คัมมิช
หรือช่วงระยะหลัง กับแท็กติกสุดล้ำที่วางให้ “เจา กานเซโล” ขยับขึ้นเข้าด้านใน ยืนสูงขึ้นเป็น มิดฟิลด์ คู่กลาง โดยให้ฟูลแบ็กอีกฝั่ง ขยับมาเป็น เซ็นเตอร์แบ็กคนที่ 3 เมื่อทีมเล่นเกมบุก
แต่หากทีมตามที่เล่นเกมรับ กานเซโล จะถอยกลับมาคืนตำแหน่งเป็นฟูลแบ็ก ในระบบกองหลัง 4 คน
เป๊ป มีชื่อเสียงอย่างมากในด้านการสร้างสรรค์เกมรุกที่หลากหลายมิติ เต็มไปด้วยรายละเอียดปลีกย่อยมากมาย
เขาจึงต้องใช้ผู้เล่นที่มีเทคนิคเป็นเลิศ ความเข้าใจเกมสูง เป๊ป ไม่ได้ใช้แค่เงินอย่างเดียว แต่เขามักเรียกร้องการทำงานหนักจากนักเตะ ยามอยู่ในสนามซ้อม ดังที่เห็นในสารคดี All or Nothing: Manchester City ว่า เป๊ป ซีเรียสขนาดไหนยามเข้าสู่โปรแกรมเทรนนิ่ง
ถึงตอนนี้ เป๊ป ผลาญเงินสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปแล้วถึง 509.1 ล้านปอนด์ เพื่อใช้สำหรับซื้อนักเตะกองหลังแค่อย่างเดียว
มีทั้งคนที่ล้มเหลวและสำเร็จ ผ่านการทดลองมาหลายราย จนมาเจอคู่เซ็นเตอร์ที่ลงตัว ฟูลแบ็กที่สามารถตอบสนองแท็กติกอันยุ่งยาก และตัวสำรองที่คุณภาพไม่ได้ลดหลั่นไปกว่าตัวจริง
เมื่อจิ๊กซอว์ที่สลับซับซ้อนมากสุดอันหนึ่งในโลกฟุตบอลถูกประกอบขึ้นโดยเป๊ป กวาร์ดิโอลา จึงเป็นเหตุผลที่ว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึงเก็บชัยชนะได้อย่างต่อเนื่อง และดูเหมือนไม่มีใครจะหยุดพวกเขาได้ง่าย ๆ
เป๊ป เก่งจริงหรือเปล่า ? คำถามนี้ตอบง่ายนิดเดียวว่า “เก่งมาก ๆ” เพราะสิ่งที่เขาทำ ล้วนเป็นการปฏิวัติรูปแบบการเล่นของโลกฟุตบอลในช่วงเวลานั้นเสมอ
แล้วถ้าเก่งทำไมต้องใช้เงิน ? คำถามนี้ก็ตอบง่ายเหมือนกัน
หากมองเป๊ป เป็นหัวหน้างานคนหนึ่ง เขาก็คงเป็นคนที่มีความสามารถ เปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ไอเดียแปลกใหม่ และมุมมองที่ไม่เหมือนใคร
เขาลุ่มลึกลงไปในงานที่ตัวเองทำ อีกทั้งยังมีฝีมือและผลงานเป็นที่ยอมรับ จนบริษัทไหนก็อยากตัวไปทำงานด้วย
เป๊ป กวาร์ดิโลา จะเลือกเป็นอย่าง มาร์เซลโล บิเอลซา บรมกุนซือที่เขาเคารพนับถือก็ได้ ผู้มีอุดมการณ์จุดยืนชัดเจน เลือกทำแต่สโมสรเที่ประวัติศาสตร์และเรื่องราว แต่ต้องเผชิญหน้ากับข้อจำกัดมากมาย
หรือเลือกทางที่สอง มองหาองค์กรใหญ่ที่มั่นคง ซึ่งสามารถหาลูกน้องที่ตอบโจทย์ความต้องการของเขาได้
ดังนั้นถ้าคนที่เก่งและมีความสามารถสูงเป็นอัจฉริยะขนาดนี้ จะเลือกทางที่สอง ก็ไม่เห็นเป็นเรื่องแปลกเลย
เพราะในโลกการทำงานจริงทุกสาขาอาชีพ เป็นเรื่องปกติที่คนมันสมองระดับนี้ ใครก็อยากได้ตัว
แต่ถึง เป๊ป จะมีเงินให้ใช้ซื้อผู้เล่นเพลินมือ เขาก็ต้องแลกมากับการทำงานบนความเสี่ยง
ยิ่งสโมสรใหญ่แค่ไหน ลงทุนไปมากเท่าไหร่ พวกเขาก็ย่อมคาดหวังความสำเร็จสูงเพิ่มตามเท่านั้น ไหนจะต้องแบกรับความกดดันอีกมหาศาล
ตัวอย่างก็มีให้เห็นร่ำไป มีเฮดโค้ชชื่อดังมากมายที่ถูกตะเพิดออกจากทีมบิ๊กเนม เพียงเพราะเขาไม่สามารถทำตามเป้าหมายที่ทีมต้องการได้
นี่ยังไม่รวมเรื่องการบริหารจัดนักเตะ เมื่อคุณมีซูเปอร์สตาร์เต็มห้องแต่งตัว ทุกคนเก่ง มีความสามารถ และพกพาอีโก้ติดตัวมาด้วย
การจะละลายให้ทุกคนเป็นเนื้อเดียวกัน หรือยอมทำตาม เชื่อฟังสิ่งที่คุณสอน ก็จัดเป็น ศิลปะการสื่อสารและจิตวิทยาที่ไม่ใช่เฮดโค้ชทุกคนจะทำหรือปกครองได้อยู่หมัด
แต่ชายที่ชื่อ โจเซป กวาร์ดิโอลา ซาลา สามารถทำทุกเรื่องที่เราเขียนมาทั้งหมดได้ อย่างยอดเยี่ยมและเหนือชั้นเสมอ
ติดตามเราได้ทาง www.facebook.com/alongwrite
#PepGuardiola #MANCITY #ManchesterCity #ฟุตบอล
โฆษณา