5 มี.ค. 2021 เวลา 10:39 • บันเทิง
จิ๋นซีฮ่องเต้...ตอนที่ ๙
ฉินอ๋องเจิ้งล้มป่วยรอบนี้ ห้าสิบห้าสิบว่ารอดมั้ย ถึงขนาดที่ประชุมขุนนางลงมติเลือกรัชทายาทไว้รอเลย...
คนที่ถูกหวย แต่ไม่รู้จะซวยรึเปล่าคือน้องชายต่างแม่...องค์ชายเฉิงเฉียว...
และคนที่เป็นหัวเรือใหญ่เสนอชื่อเฉิงเฉียวคือ แม่ทัพฟั่น...
...
พอข่าวว่าฉินอ๋องเจิ้งป่วยหนัก แถมยังมีการตั้งองค์ชายเฉิงเฉียวเป็นรัชทายาท...ไปเข้าหูหลี่ปู้เว่ยที่กำลังทำสงครามอยู่ต่างแดน...ข่าวใหญ่สั่นคลอนฐานอำนาจขนาดนี้ มหาอุปราชก็อยู่เฉยไม่ไหว...รีบฝากงานลูกน้องแล้วตนเองก็เผ่นกลับรังอย่างด่วน...
กลับมาถึงแคว้นฉินได้สักพัก กำชับหมอหลวงให้รักษาฉินอ๋องเจิ้งให้สุดฝีมือแบบ ถ้าอ๋องตายมึงตายด้วย...ในที่สุดฉินอ๋องเจิ้งก็หายป่วยจนเกือบเป็นปกติ...
...หลังจากหายป่วยคราวนี้ ฉินอ๋องเจิ้งเริ่มตั้งสติได้ ก็เริ่มวางแผนกำจัดหลี่ปู้เว่ย...แต่แผนแบบนี้ผลีผลามไม่ได้ ต้องค่อยๆเป็นนค่อยไป เริ่มต้นด้วยการ...ต้องรู้ว่าหลี่ปู้เว่ยมีวิธีคิดยังไง...
1
สมัยนั้น...แนวความคิดขงจื๊อกำลังดัง โดยเฉพาะตำราที่ขงจื๊อแต่งชื่อว่า ชุนชิว...
หลี่ปู้เว่ยเองก็อีโก้จัดไม่แพ้ใคร...ขงจื๊อแต่งตำราได้ กูก็ต้องแต่งได้เหมือนกันนี่หว่า...ก็รวบรวมทั้งความคิดตนเอง รวมเอาจากพวกนักเกาะกินบ้าง...มาเขียนเป็นตำราชื่อ หลี่ซือชุนชิว...แปลเป็นไทยว่า...ตำราชุนชิวของคนแซ่หลี่...โดยหวังว่าตำราของตนจะโด่งดังถูกกล่าวขวัญเหมือนตำราของขงจื๊อ...
2
ตำรานี้เขียนแล้วก็เอาไปเก็บไว้ในห้องสมุด...ฉินอ๋องเจิ้งก็ชวนเพื่อนสนิทสองสามคน ลอบเข้าไปอ่านตำราของหลี่ปู้เว่ยแทบทุกวัน...
อ๋องเจิ้งเป็นคนฉลาดและเก่งในหลายๆเรื่อง...พอได้อ่านตำราของหลี่ปู้เว่ย ก็เริ่มมองอะไรออกขึ้นอีกเยอะ...จะว่าไปแล้ว หลี่ปู้เว่ยก็เป็นเหมือนอาจารย์ทางอ้อมให้กับอ๋องเจิ้งเหมือนกัน...เพียงแต่ว่า ความรู้ที่อ๋องเจิ้งศึกษา...จุดมุ่งหมายคือจะเอามาถวายคืนให้กับอาจารย์หลี่อย่างสาสม...เมื่อโอกาสมาถึง...
...
ฝ่ายองค์ชายเฉิงเฉียว...ขานี้ก็ไม่ได้มักใหญ่ใฝ่สูงอะไร แถมยังขี้ขลาดซะด้วย...พอแม่ทัพฟั่นเสนอชื่อเป็นรัชทายาท ก็ไม่เกรงบารมีแม่ทัพฟั่นซะอีก เลยไม่กล้าพอที่จะปฏิเสธ...แต่พออ๋องเจิ้งผู้พี่ชายหายป่วย แล้วรู้ว่าหลี่ปู้เว่ยกลับมาแล้ว...ก็รีบลนลานเข้าเฝ้าพี่ชาย...
ไม่ได้แก้ตัวกับพี่ชายหรอก แต่ฝากพี่ชาย...เฮียช่วยหนูหน่อย ช่วยชี้แจงท่านมหาอุปราชหลี่ด้วยว่า หนูไม่ได้มักใหญ่ใฝ่สูงนะ คนอื่นเค้าเสนอชื่อหนูเอง...ก็ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง...อ๋องเจิ้งก็รับปาก เพราะตนก็ไม่ได้คิดมากกับน้องชายคนนี้อยู่แล้ว
...พอเก็บข้อมูลความเป็นไประหว่างที่ตนไม่อยู่ได้จนพอใจแล้ว...มหาอุปราชเรียกประชุมขุนนาง...เฉิงเฉียวก็เข้าประชุมด้วย โดยยืนแปะอยู่ข้างแม่ทัพฟั่น...หลี่ปู้เว่ยผู้เหี้ยมโหดไม่ได้เดินแผนแบบธรรมดา แต่มาแบบล้ำลึกคาดไม่ถึง...เพราะถ้าโวยวายเรื่องการตั้งรัชทายาทข้ามหน้าตน...ก็จะดูว่าจะใจแคบเกินไป...
1
หลี่ปู้เว่ยกลับประกาศขอบคุณพวกขุนนาง และชมเชยองค์ชายเฉิงเฉียวว่า ระหว่างที่อ๋องเจิ้งประชวรและตนไม่อยู่ เฉิงเฉียวดูแลบ้านเมืองแทนได้อย่างดีเยี่ยม...ขออนุมัติเลื่อนขั้น แถมขึ้นเงินเดือนให้...
1
อ๋องเจิ้งอนุมัติ เฉิงเฉียวถอนใจด้วยความโล่งอกนึกว่าไม่มีอะไรแล้ว...แต่เรื่องไม่จบง่ายยังงั้น...
1
หลี่ปู้เว่ยรายงานเรื่องสงคราม...ไอ้พวกห้าแคว้นที่มันยกมาตีกบาลเรา เป็นเพราะไอ้แคว้นจ้าวเป็นตัวตั้งตัวตี...เพราะฉะนั้น เราต้องยกไปกระทืบแคว้นจ้าวก่อน...
2
...ที่จริงศึกใหญ่ขนาดนี้ ควรให้ท่านอ๋องเจ้าแคว้นออกศึกด้วยตนเอง...แต่อย่างที่ทุกคนเห็น ฉินอ๋องเพิ่งหายป่วย...หลี่ปู้เว่ยเว้นระยะพูดนิดนึง...
1
ข้าเห็นว่า ผู้สมควรจะนำทัพไปตีแคว้นจ้าวคือ องค์ชายเฉิงเฉียว กับแม่ทัพฟั่น...
คำประกาศของหลี่ปู้เว่ยทำเอาที่ประชุมผงกหัวกันงกๆ...ไม่ใช่ผงกเห็นด้วย แต่ทุกคนเห็นว่า...ไอ้หลี่นี่แม่งใจโหดดีแท้...
1
เพราะด้วยสถานการณ์ตอนนั้น แคว้นจ้าวไม่ใช่กลองเพล ใครจะไปตีได้ง่ายๆ...โอกาสตายมากกว่าชนะ...การส่งองค์ชายมือตีนบางอย่างเฉิงเฉียวไป ก็เท่ากับไล่ให้ไปตาย...
1
แต่ว่า...แม้แต่ฉินอ๋องเจิ้งเองยังไม่กล้าค้าน แล้วขุนนางหน้าไหนจะกล้าค้านหลี่ปู้เว่ย...องค์ชายเฉิงเฉียวที่น่าสงสารและไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรเลย ก็ดวงซวย...ถูกส่งไปเป็นแม่ทัพบุกแคว้นจ้าว...
...และคงกลัวว่าเผื่อฟลุคชนะสงครามขึ้นมา จะไม่เป็นไปตามแผน...หลี่ปู้เว่ยยังถ่วงเวลาการส่งเสบียงให้กับกองทัพของเฉิงเฉียวอีก...คราวนี้ก็อาการหนักเลย...
แม่ทัพฟั่นในฐานะรองแม่ทัพ ได้รับรายงานว่า...แม่ทัพเฉิงเฉียวแกคลุ้มคลั่งอย่างหนัก ก็รีบไปดู...
สภาพที่เห็นคือ หนุ่มน้อยในชุดแม่ทัพ...กำลังร้องไห้งอแง...เดี๋ยวก็ร้องจะกลับบ้าน เดี๋ยวก็จะสั่งทหารบุกกองทับจ้าเดี๋ยวนั้นเลย...เรียกว่าสติแตกยับเยินไปซะแล้ว...
1
รองแม่ทัพฟั่นที่เป็นทหารตัวจริง ต้องตบกบาลให้สงบสติอารมณ์ แล้วเสนอแผน...
...ไหนๆมันก็ตั้งใจส่งพวกเรามาตายแล้ว สู้ก็ตายถอยก็ตาย...กบฏแม่งเลยมั้ยองค์ชาย...
โฆษณา