6 มี.ค. 2021 เวลา 03:50 • ปรัชญา
รู้จัก Goal Gradient Effect ปรากฏการณ์ ที่ทำให้เราฮึดสู้ เพื่อให้ถึงเป้าหมาย
2
เคยไหม เวลาไปซื้อของที่ซูเปอร์มาเกต หรือห้างต่าง ๆ
พอกำลังจะจ่ายเงิน พนักงานก็ถามว่า “ซื้อเพิ่มอีกนิดนึงไหม เพราะจะได้ของแถม หรือส่วนลด”
ซึ่งสุดท้าย.. เราก็ยอมซื้อเพิ่ม เพื่อที่จะได้ของแถมหรือส่วนลดนั้น
4
ใครที่เคยเป็นแบบนี้ แสดงว่าคุณเป็นอีกคน ที่เคยเจอปรากฏการณ์ “Goal Gradient Effect”
Goal Gradient Effect เป็นปรากฏการณ์ ที่ทำให้เกิดพฤติกรรมที่ว่า ยิ่งเข้าใกล้เป้าหมายมากเท่าไร ก็จะยิ่งมีแรงฮึด และมีความกระตือรือร้นที่จะบรรลุเป้าหมายมากขึ้นเท่านั้น
โดยที่ Effect นี้ ถูกอธิบายไว้โดยนักจิตวิทยาชาวอเมริกันชื่อว่า คุณ Clark Hull
ซึ่งเกิดมาจากการทดลอง ที่เขาทำโดยการจับหนูมาใส่ในเขาวงกต แล้วปล่อยให้หนูวิ่งหาอาหารในนั้น เพื่อคอยจับตาดูการเคลื่อนไหวของมัน
3
จากการทดลองดังกล่าวทำให้เขาพบว่า
หนูจะมีความกระตือรือร้นและวิ่งเร็วขึ้น เมื่อเข้าใกล้อาหาร หรือได้กลิ่นอาหารแรงขึ้น
1
และหากเราลองสังเกตพฤติกรรมของเราเอง
ในบางครั้งก็จะพบว่า พฤติกรรมของมนุษย์ กับหนูในการทดลองนี้ แทบไม่ต่างกันเลย
ตัวอย่างเช่น ถ้าเรากำลังวิ่งออกกำลังกาย โดยมีการตั้งเป้าหมายในวันนี้ไว้ว่าจะวิ่งให้ครบ 5 กิโลเมตร
แน่นอนว่าในช่วงแรก เราอาจจะเหนื่อยจนอยากเลิกวิ่ง
แต่เมื่อไรที่เราวิ่งไปจนเข้าสู่ครึ่งกิโลเมตรสุดท้าย
ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหน ก็มักจะมีแรงฮึดขึ้นมามากเป็นพิเศษ
เพื่อที่จะวิ่งไปให้ถึงระยะเป้าหมายให้ได้
1
และในปัจจุบัน ก็มีบริษัทระดับโลกหลายราย
ที่ได้นำเอา Goal Gradient Effect มาประยุกต์ใช้
1
อย่างเช่น Starbucks ที่มีการเปิดตัว Loyalty program
เพื่อให้ลูกค้าที่ซื้อผ่านแอปได้สะสมดาว
โดยเมื่อสะสมดาวจนถึงจำนวนที่กำหนด
ลูกค้าคนนั้นก็จะมีสิทธิ์ได้รับของขวัญ และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ เมื่อซื้อแก้วต่อ ๆ ไป
1
จุดนี้เอง ที่กลายเป็นอีกพลังดึงดูดที่สำคัญ
ที่กระตุ้นให้คนอยากเข้ามาซื้อกาแฟของ Starbucks มากขึ้นได้
เพราะเมื่อซื้อกาแฟ ก็ได้สะสมดาว
ซึ่งยิ่งซื้อก็จะยิ่งได้เห็นว่าเรามีดาวสะสมที่เข้าใกล้เป้าหมายที่จะได้สิทธิประโยชน์มากขึ้นทุกที
และถ้ายิ่งเข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้นเท่าไร
หลายคนก็อาจถึงขนาดที่ ยอมจ่ายซื้อกาแฟแก้วที่แพงขึ้น
เพื่อจะได้ดาวถึงเป้าหมายเร็วขึ้นอีก
1
กว่าจะรู้ตัวว่าเราจ่ายไปเยอะมากขนาดไหนเพื่อให้ถึงเป้าหมาย
หลายคนก็กลายเป็นลูกค้าประจำของ Starbucks ไปเรียบร้อยแล้ว..
จะเห็นว่า Goal Gradient Effect ก็ถือเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์เชิงจิตวิทยา ที่เราน่าจะคุ้นเคยกันดี
และเราก็สามารถเอา Effect มาปรับใช้ เพื่อพัฒนาตัวเองกันได้ไม่ยาก
อย่างเช่น ถ้าในวันนี้เรากำลังทำอะไรที่ยาก ๆ
ให้ลองตั้งเป้าหมายให้ย่อยลงมาอีกนิด
เพราะเราจะเข้าใกล้เป้าหมายได้ง่ายขึ้น
และจะมีแรงฮึดขึ้นมาเรื่อย ๆ เป็นระยะ
1
ค่อย ๆ ทำให้บรรลุเป้าหมายย่อยนั้น
แล้วตั้งเป้าหมายขั้นต่อไป ให้สูงขึ้นเรื่อย ๆ ทีละนิด
รู้ตัวอีกที ความฮึดสู้ของเรา
ก็อาจเอาชนะเรื่องยาก ๆ โดยที่เราไม่รู้ตัวเลย ก็ได้..
3
โฆษณา