#รีบรีวิว RAYA AND THE LAST DRAGON รายา กับมังกรตัวสุดท้าย การผจญภัยสุดตระการตา วัฒนธรรมอาเซียนอลังการล้นจอ
นับว่าเป็นความภาคภูมิใจของไทย และภูมิภาคอาเซียน ที่ในที่สุด Walt Disney ก็ประเดิมเล่าเรื่องราวที่มีพื้นหลังเป็นวัฒนธรรมเราในรูปแบบแอนิเมชันขนาดยาวสักที (ไม่นับชิพกับเดลนะ 😝) พูดได้เต็มปากว่าเอเชียเราไม่ได้มีแค่มู่หลานอีกต่อไป เพราะตอนนี้เรามี รายา กับมังกรตัวสุดท้าย
การผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ ได้เริ่มต้นขึ้นในโลกสุดมหัศจรรย์ คูมันตรา เมื่อดรูน พลังความชั่วร้าย ที่กลืนกินวิญญาณมนุษย์จนกลายเป็นหิน และพรากเหล่ามังกรทั้งหมดไปเมื่อ 500 ปีที่แล้ว ได้กลับมาสร้างความสูญเสียให้กับทั้ง 5 อาณาจักรอีกครั้ง มันจึงเป็นหน้าที่ของนักรบพเนจรผู้สันโดษ อย่าง รายา ที่จะต้องตามหาตัวมังกรตัวสุดท้ายในตำนาน และรวบรวมชิ้นส่วนมณีมังกรที่กระจัดกระจายไปตามอาณาจักรต่าง ๆ ของคูมันตรา เพื่อฟื้นฟูแผ่นดินที่แตกระแหง และรวมใจผู้คนที่แยกให้กลายเป็นหนึ่งเดียว
หลาย ๆ คนอาจสงสัยว่าทำไมถึงไม่หยิบเอาประเทศใดประเทศหนึ่งมาเป็นแรงบันดาลใจเหมือนกับใน MULAN ที่เป็นประเทศจีนไปเลย แต่ถ้าหากดูจากเนื้อเรื่องดี ๆ และได้ดูเรียบร้อยแล้ว ก็พบว่าทีมผู้สร้างนั้นได้คิดคอนเซปต์นี้มาอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อขับเน้นประเด็นการอยู่ร่วมกันของเพื่อนมนุษย์จนหลอมรวมกันเป็นหนึ่ง ไม่มีแบ่งฝักแบ่งฝ่าย หรือถือว่าชาติของฉันดีกว่าอย่างนู้นอย่างนี้ ซึ่งเป็นประเด็นที่ร่วมสมัยมากในแอนิเมชันของ Disney ที่กล้าเล่าประเด็นที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้น เพื่อให้ผู้ชมวัยเด็กได้เข้าใจถึงทิศทางของโลกใบใหม่นี้
ประเด็นต่าง ๆ ถูกถ่ายทอดออกมาด้วยเทคนิคต่าง ๆ ที่ล้ำหน้าที่สุดของสตูดิโอ ทั้งการเลือกใช้แสงสี และมุมกล้องที่เข้าใกล้ความเป็นภาพยนตร์อย่างน่าตกใจ ถ้าคุณเคยทึ่งกับ TOY STORY 4 และ SOUL มาแล้ว RAYA AND THE LAST DRAGON จะทำให้คุณร้องว้าวไปกับรายละเอียดของภาพได้ไม่แพ้กัน ซึ่งฉากที่โชว์ศักยภาพได้ดีที่สุด เห็นจะเป็นฉากแอ็กชันโชว์เพลงดาบ และศิลปะการต่อสู้ที่เดือดดาลราวกับหนังแอ็กชันขึ้นหิ้ง อย่าง The Raid และต้มยำกุ้ง ผสมกับแนวผจญภัยสไตล์ Indiana Jones
สองผู้กำกับอย่าง Don Hall และ Carlos Lopez Estrada สามารถใช้เครื่องมือต่าง ๆ อย่างเชี่ยวชาญ เพื่อบาลานซ์ความเป็นภาพยนตร์กับแอนิเมชันได้อย่างงดงาม ซึ่งต้องยกความดีความชอบให้กับทีมงานจากทั้งฝั่งตะวันตก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ดูรู้เลยว่าทำกันด้วยใจ ทีมงานมีคนไทยอยู่ไม่น้อย หนึ่งในนั้นคือหัวหน้าทีมออกแบบภาพหรือ Head of Story อย่างพี่ฝน วีระสุนทร ที่คุมหัวเรือทำผลงานออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม และเคารพในวัฒนธรรมมาก ๆ เซอร์วิสแฟน ๆ ชาวไทยเป็นพิเศษ ตั้งแต่พวกดีไซน์พระราชวัง ข้าวปลาอาหาร ไปจนถึงเครื่องแต่งกายต่าง ๆ และแน่นอน น้องตุ๊ก ๆ ที่บอกเลยว่าได้ใจเราไปเต็ม ๆ
ความสมจริงเหล่านี้ก็ยิ่งเสริมกับเสียงพากย์ของ Kelly Marie Tran นักแสดงลูกครึ่งอเมริกันเวียดนามจากแฟรนไชส์ Star Wars ที่มอบมิติของอารมณ์ผ่านเสียงที่มีลูกเล่นราวกับเป็นตัวละครมนุษย์จริง ๆ แต่อารมณ์ขันก็มีมาไม่ขาดจากตัวละครมังกรน้ำอย่างซิซูที่ให้เสียงโดย Awkwafina เรื่องนี้เธอก็ยังเป็นเธอ แต่ฮามากขึ้นกว่าเดิม
ถ้าจะให้ติสักหน่อยคือน้ำหนักการเล่าเรื่องที่ยังบาลานซ์ได้ไม่กลมกล่อมมากนัก มีเล่นสนุกจนลืมใส่ความเข้มข้นแซ่บนัวไปนิด แต่ก็ถูกทดแทนได้ด้วยจุดไคลแมกซ์ที่ขยี้แบบสุดฤทธิ์ และต้องมีหลายคนฉงนใจว่าทำไมถึงมีนักแสดงจากอาเซียนไปให้เสียงน้อยเหลือเกิน มีแค่ Kelly ที่เป็นตัวหลักเท่านั้น ซึ่งมันก็เป็นข้อถกเถียงที่ถูกต้อง แต่มันก็คือประตูบานแรก เราอาจคาดหวังให้มันเพอร์เฟกต์ร้อยเปอร์เซนต์เสียทีเดียวก็คงไม่ได้ มันยังต้องมีปัจจัยในแง่การตลาดเข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อให้ไปสู่สายตาผู้ชมได้มากที่สุด แต่เชื่อสิว่าอนาคตต้องมีความหลากหลายเพิ่มขึ้นในวงการหลังจากหนังเรื่องนี้ได้ออกฉายอย่างแน่นอน
รู้ไว้ก่อนดู: https://youtu.be/Gy29q2iV1Qc
เจาะลึกเบื้องหลัง: https://youtu.be/a_oWwZHP56A
RAYA AND THE LAST DRAGON รายา กับ มังกรตัวสุดท้าย
วันนี้ ในโรงภาพยนตร์
#จดอ #JUSTดูIT #RayaTH
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
