6 มี.ค. 2021 เวลา 03:20 • กีฬา
#ดีลนี้ไม่มีวันลืม
โดย มิสมาต้า
ถ้าจะมีคนเคยคิดว่าสองนักเตะทีมชาติอาร์เจนตินา​ชุดเหรียญ​ทองฟุตบอลโอลิมปิก​ปี 2004 และ กำลังเป็นดาวรุ่งของวงการฟุตบอล​อเมริกา​ใต้ จะย้ายมาร่วมทีมกลางตารางของอังกฤ​ษที่แทบจะไม่มีประวัติ​ศาสตร์​อันยิ่งใหญ่อะไรเลย
1
มิสเชื่อว่าคนในยุคปี 2006 เกือบจะทุกคนจะขำกับข่าวลืออันนี้มากๆ เพราะทั้ง คาร์ลอส เตเวซ​ กับ ฮาเวียร์​ มาสเค​ราโน่​ คือนักเตะดาวรุ่งที่มีแต่ท็อปทีมของโลกอยากได้
เมื่อเรามองไปที่ทีมอย่าง เรอัล​ มาดริด​, บาร์เซโลน่า​, เอซี มิลาน และ อีกมากมายหลายทีมในตอนนั้นที่ให้ความสนใจสองนักเตะอาร์เจนไตน์ เราจึงไม่น่าคิดว่าพวกเค้าจะได้มาเป็นนักเตะของ เวสต์แฮม​ ยูไนเต็ด ทีมขนาดกลางประจำกรุงลอนดอน ที่มีผลงาน 5 ฤดูกาลสุดท้ายก่อนการมาของสองคนนี้ เป็นแบบนี้
2000/2001 อันดับ15
2001/2002 อันดับ7
2002/2003 ตกชั้น
2003/2004 ลีกแชมเปี้ยน​ชิพ​
2004/2005 ลีกแชมเปี้ยน​ชิพ​
2005/2006 อันดับ9
อลัน พาร์ดิว คือโค้ชของทีมในตอนนั้นเองยังไม่เชื่อว่าครั้งนึงในชีวิต เค้าจะได้โค้ชสองนักเตะเวิลด์​คลาส
แต่การย้ายครั้งนั้นเกิดขึ้นเพราะ เคีย ชูรับเชี่ยน แห่ง Media Sports Investment (MSI)​ หวังที่จะพากลุ่มทุนของเขาเข้ามาซื้อกิจการสโมสรฟุตบอล​แห่งนี้ การย้ายทีมของสองคนนี้จึงเป็นไปด้วยเหตุผลทางธุรกิจ เพราะ เทอร์รี บราวน์ เจ้าของเวสต์แฮมในตอนนั้นอยากจะขายทีม
เคีย และ MSI จึงใช้สองนักเตะนี้เป็นเหมือนเงินมัดจำเอาไว้ก่อน เพราะโดยปกติแล้วนักกีฬาทั่วไปจะมีเอเยนต์​คอยทำงานด้านการทำธุรกรรม​ให้ แต่ เตเบซ กับ มาสเคราโน ไม่ได้อยู่ในสังกัดของ MSI ในฐานะลูกค้า แต่พวกเขาคือสินค้าที่มี MSI เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์​
การย้ายมาเล่นที่ อัพทัน พาร์ค จึงเป็นเหมือนการให้ยืมสิทธิ์เท่านั้น จึงไม่ใช่การซื้อขาย หรือ ขอยืมตัวอย่างที่เคยดำเนิน​การ​กันมา
1
อันที่จริงนะคะ เรื่องมันจะไม่เป็นเรื่องขึ้นมา ถ้ามิสเตอร์บราวน์จะขายสโมสรให้ MSI ได้ แต่ปรากฎว่า เอ็กเกิร์ท แม็กนุสสัน นักธุรกิจชาวไอซ์แลนด์กลายเป็นคนที่มาเงียบๆ แต่ขนเงินมาเพียบจนเอาชนะ MSI ไปได้
1
จากนั้นปัญหาทุกอย่างก้อตามมา เริ่มจากการปลด อลัน พาร์ดิว เด็กดีของ MSI แล้วตั้งบอสคนเก่งของทีมเกรดไซส์ SME อย่าง อลัน เคอร์บิชลีย์ เข้ามาแทน แล้วทำให้ มาสเคราโน่ ที่เพิ่งลงสนามไปแค่ 7 เกม ได้กลายเป็นส่วนเกินของทีมไป
1
เดือนมกราคม ปี 2007 ลิเวอร์พูล​คือทีมที่ได้ตัวมาสเคราโนไปในราคาย่อมเยามากๆ แม้จะต้องใช้เทคนิคเข้าช่วยนิดนึงก็ตาม แต่ค่าเสียหายมูลค่า 5.5 ล้านปอนด์หลังจากนั้นคือค่าปรับที่แพงที่สุดในประวัติศาสต​ร์วงการฟุตบอล
ส่วนเตเวซที่เล่นไปชิวไปตั้งแต่ย้ายมา เพราะใจของเขาไม่ได้อยู่กับทีมที่ไร้อนาคตแบบนี้ แต่พอเจ้าของลิขสิทธิ์เข้ามาบอกว่า แมนเชสเตอร์​ ยูไนเต็ด​ ให้ความสนใจยูนะ
เท่านั้นแหล่ะเจ้าค่ะ เจ้าของสถิติ 10 เกม 0 ยิง ก็ยิงไปถึง 7 ประตู จาก 10 เกมสุดท้าย พาเวสต์แฮม​ชนะได้ 7 จาก 10 เกมนั้น แล้วช่วยให้ทีมรอดจากการตกชั้น โดยมีคะแนนห่างโซนตกชั้นตั้ง 3 คะแนน
เรื่องก็ควรจะจบด้วยดีด้วยการที่ MSI ที่อาจจะแพ้ในดีลซื้อสโมสร แต่พวกเขาทำการตีตลาดนักเตะได้สมบูรณ์​แบบมากๆ เพราะคนนึงได้ไปลิเวอร์พูล​ และ อีกคนนึงจะได้ไปอยู่กับซูเปอร์ทีมของยุโรปในตอนนั้น
แต่ค่ะแต่ เชฟฟิลด์​ ยูไนเต็ด ที่ตกชั้นไปในฐานะทีมอันดับที่ 18 ได้ตามสืบความลับจากการย้ายทีมของมาสเคราโนได้ว่ามันมีความผิดปกติ
ด้วยการอ้างกฎข้อที่ว่า นักเตะคนนึงจะไม่สามารถเล่นให้กับสามสโมสรภายในปีเดียวได้ เพราะก่อนมาเวสต์แฮม​ มาสเคราโนเคยลงเล่นให้ โครินเธียนส์​ ทีมใหญ่ในลีกบราซิล
รวมทั้งตั้งข้อสังเกตุ​ว่านักเตะทั้งคู่เป็นสินค้าภายใต้การถือกรรมสิทธิ์​ของ MSI และ เวสต์แฮม​ เป็นเพียงผู้ครอบครองเท่านั้น
นักเตะทั้งคู่จึงมีความมิชอบในทางนิตินัย จึงยื่นเรื่องให้สมาคม กับพรีเมียร์​ ลีก​ เข้าตรวจสอบความผิดปกตินี้
เรื่องมันจึงจบที่การใช้คอนเนคชั่น​เคลียร์กันในระดับที่หนักมากๆ ทาง MSI อ้างปีปฏิทินการเตะของสมาพันธ์​ฟุตบอล​บราซิลว่าเป็นแบบปีต่อปี ไม่ใช่ข้ามปีแบบพรีเมียร์​ และ อ้างการครอบครองนักเตะแบบถือกรรมสิทธิ์​ว่าไม่ผิดกฎกติกา​มารยาทของที่นี่​แม้แต่นิดนึง
เรื่องนี้จึงมีทางออกด้วยการใช้เงินแก้ปัญหา​ ด้วยการที่ เวสต์แฮม​ ต้องจ่ายค่าปรับ 5.5 ล้านปอนด์ ให้สมาคม และเพื่อให้การซื้อขายของสองยอดทีมนั้นไม่มีปัญหา​ ใครก้อได้จะต้องพร้อมจ่ายค่าปรับให้ผู้เสียหายอย่าง เชฟฟิลด์​ ยูไนเต็ด ที่ต้องตกชั้นไป
เงิน 30 ล้านปอนด์ที่เชฟฟิลด์​ได้ไปจึงถือว่าเป็นการตกชั้นที่คุ้มมากๆ เพราะฟ้องไปก็ไม่รู้ว่าจะชนะหรือไม่ หรือ จะจบลงภายในกี่ปี ซึ่งทางประธานเองยังบอกว่านั่นคือการยื่นฟ้องเพียงเพื่อให้ตกชั้นนี้คุ้มที่สุดเท่านั่น
ส่วนเวสต์แฮม​ก็คุ้มค่าที่จ่ายเงินไปเพราะค่าลิขสิทธิ์​ต่างๆ ที่ได้จากการเล่นในลีกสูงสุดแห่งนี้ เงินแค่นั้นถือว่าน้อยมากๆ และ คิดว่านี่ไม่ใช่การควักกระปุกจ่ายเพียงฝ่ายเดียว
⚽⚽⚽
ซึ่งไม่ใช่แค่เชฟฟิลด์​นะคะที่มองเห็นช่องโหว่นี้ เพราะทั้งลิเวอร์พูล​ กับแมนเชสเตอร์​ ยูไนเต็ด ก็เห็นช่องว่างนี้เช่นกัน จึงรีบยื่นเข้ามาขอพาตัวนักเตะทั้งคู่ไปไว้กับทีม
1
มาสเคราโนไม่มีปัญหาอะไรตลอดอายุการใช้งาน เตเบซก็ได้ย้ายมาที่ทีมที่คู่ควร ที่แม้จะยุ่งยากกว่าเยอะแค่ก็คุ้มค่าเงินทุกเพนนี
1
ซึ่งมหากาพย์​เรื่องนี้ คนที่ทุกฝ่ายต้องหอบกระเช้ามากราบขอบพระคุณมีชื่อว่า เมาริซ วัทคินส์ เนติบริกรคนดังของปีศาจแดง ที่เค้าเป็นมือกฎหมาย​ที่เก่งมากๆ จนช่วยหาทางออกในคดี MSI Gate นี้ได้อย่างไม่มีใครช้ำใจ นั่นก็เพื่อช่วยให้สโมสรได้ตัวนักเตะตามที่คุณป๋าต้องการ
เตเวซถูกยืมตัวมาในราคา 10 ล้านปอนด์ โดยเป็นการซื้อช่วงลิขสิทธิ์​ต่อจากเวสต์แฮม​ ที่อ้างว่าเค้าครอบครองนักเตะคนนี้ถึงเดือนมิถุนายน ปี2010 เงินทั้งหมดจึงต้องเข้าคลังของสโมสร
เรื่องระหว่างผู้ถือกรรมสิทธิ์​กับผู้ครอบครองบานปลายจนไปถึงฟีฟ่า จนเกือบถึงศาลอนุญาโตตุลาการ​กีฬา​ แต่เรื่องก็จบลงที่เนติบริกรของเราแนะนำให้ MSI จ่ายค่าปิดสัญญาให้เวสต์แฮม​ 2 ล้านปอนด์
มิสแนะนำให้จำข้อความในพารากราฟบนด้วยการทดเอาไว้ในใจให้ดีๆ นะคะ เพราะในอีก 2 ปีต่อมามันจะกลายเป็นเรื่องขึ้นมาอีกรอบ
⚽⚽⚽
ฤดูกาล​ 2007/2008
เตเวซอยากมาเล่นที่โอลด์​ แทร็ฟฟอร์ด​ ถึงขนาดปฏิเสธ​ข้อเสนอของ อินเตอร์​ มิลาน​ แบบไม่ต้องเสียเวลาคิด
ฤดูกาล​แรกทุกอย่างเป็นยิ่งกว่าฝัน เมื่อสามประสาน รูน-โด้-เตฟ ช่วยกันยิงจน แมนยูไนเต็ด​ ได้เป็นแชมป์​ยุโรปอีกครั้ง
เตเบซเล่นได้ดีจนได้เป็นรองดาวยิงสูงสุด​ของเรา ทุกนาทีในสนามเต็มไปด้วยแพสชั่น เพื่อนร่วมทีมรัก แฟนบอลรัก แต่กับทีมเกรดลิมิเต็ด​ แพลตตินั่ม​ เอดิชัน คุณป๋าเริ่มมองไปที่อนาคตในสองฤดูกาลข้างหน้า
การที่ คริสติอาโน โรนัลโด จะต้องย้ายทีมหลังจบฤดูกาล 2008/2009 จึงเป็นอะไรที่ เซอร์​ อเล็กซ์​ เฟอร์กูสัน​ต้องมีแพลนบี เงิน 30 ล้านปอนด์ถูกจ่ายเป็นค่าตัวของ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
ฤดูกาลที่สองจึงเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่เรามีซูเปอร์​กองหน้าถึง 4 คนอยู่ในทีมเหมือนข่วงปลายยุค90s ที่เราเคยมี โคล , ยอร์ค , เชอริงแฮม และ โซลชา ที่ต่างคนต่างรู้บทบาทของตัวเองเป็นอย่างดี
แต่ในปี 2008 รูนีย์ กับ โรนัลโด​ คือการันตีตัวจริง  เบอร์บาตอฟ​คืออนาคตที่ราคาแพง เตเบซ​จึงกลายเป็นตัวเลือกสุดท้ายเหมือนบอสคนปัจจุบัน​ของแมนยูไนเต็ดเคยผ่านมา
1
แต่เรื่องของใจคนนั้นอย่าได้ถามหาความเท่ากันเลยค่ะ เพราะโซลชาที่เข้าใจสภาพ​ด้วยจิตใจ​ของนักสู้  ส่วนเตเบซที่มีปูมหลังของชีวิตต่างออกไปไม่สามารถรับการเปลี่ยนแปลง​นี้ได้
เขามาจากสภาพครอบครัวที่เข้าขั้นแร้นแค้น มีอดีตชีวิตวัยเด็ก​ที่โดนอะไรมาเยอะท่ามกลางชุมชนที่ยากจน มีการก่ออาชญากรรม​ และยาเสพติดมากมาย ที่เด็กชายเตเวซในวันนั้นมองออกมาที่นอกหน้าต่างด้วยความหวาดกลัวในทุกๆ วัน จนสร้างปมในใจที่ฝังแน่นอยู่ในดีเอ็นเอยิ่งกว่ารอยแผลเป็นที่ใบหน้าของเขา
จนทำให้ช่วงครึ่งฤดูกาล​หลังนั้น เตเบซทำตัวเป็นเด็กมีปัญหา​ด้วยการเฟี้ยงความเป็นมืออาชีพทิ้งไว้ที่บ้าน เคีย ชูรับเชียน และ MSI เริ่มเข้ามามีบทบาทอีกครั้ง การกล่อมให้เตเบซย้ายทีม และ กดดันสโมสรเรื่องการซื้อขาด
คุณป๋าทราบดีว่าเตเวซ​เป็นคนมีของเมื่ออยู่ในสนามบอล แต่นอกสนามเขาก็เป็นคนชอบก่อเรื่องเช่นกัน อันที่จริงเวลานักเตะที่ต้องเสียตำแหน่งจะต้องพิสูจน์​ตัวให้เห็นว่ามีดีกว่าคนอื่น
แต่เตเวซเลือกโชว์ของด้วยการมาซ้อมสาย ไม่ตั้งใจซ้อม ไม่ตั้งใจเล่น จนทำให้คุณป๋าเมินที่จะส่งลงสนาม
1
ทั้งที่เตเวซควรทราบดีว่า จบฤดูกาล​นี้ทีมจะไม่มีโรนัลโด​แล้ว เขาควรที่จะเข้าใจโลก และ รอคอยจังหวะเวลาที่ดีมากกว่าการทำตัวเป็นไอ้เด็กขาดวินัยแบบนั้น
1
ส่วน MSI ที่คงจะประเมินได้ว่าค่าตัวของโรนัลโดนั้นต้องมากมายมหาศาล​ แล้วก็คงทราบว่าตัวคุณป๋าเองก็พึงพอใจผลงานของสินค้าตัวเอง  ก็เลยใช้วิธีเจรจาแบบเป็นต่อสโมสร
จำเงิน 10 ล้านปอนด์ที่เป็นค่าซื้อสิทธิ์ และ ค่าปรับ 2 ล้านที่  MSI จ่ายให้เวสต์แฮม​ได้ชิมิคะ
อิตาเคียมองว่าตอนนั้นเงิน 2 ล้านปอนด์ ทางแมนยูไนเต็ด​ควรจะเป็นคนจ่าย ก็เลยโชว์สเต็ป​เทพด้วยการตีความในสัญญา​ว่า เงินค่าตัวการซื้อขาดจำนวน 35 ล้านปอนด์นั้น จะต้องไม่มีการหักออก 10 ล้านปอนด์จากค่าซื้อสิทธิ์​
ซึ่งคนอย่าง เซอร์ อเล็กซ์​ เฟอร์กูสัน​ มีเหรอคะที่จะยอม เคีย ชูรับเชียน จึงวิ่งข้ามฟากเมืองไปเจรจา​กับ แมนเชสเตอร์​ ซิตี้​ จนได้เงินกินเปล่ามาราว 43.5 ล้านปอนด์
⚽⚽⚽
คาร์ลอส เตเบซ จึงได้ย้ายข้ามไปฝั่งแมนเชสเตอร์​สีฟ้าๆ และ ปิดฤดูกาล​ด้วยป้ายฉลองแชมป์ R.I.P. Fergie แบบที่มิสขอเรียกว่านั่นคือการเปิดตัวนักเตะที่เป็น FCUKing Celabration​ อย่างที่สุด
1
เตเบซอาจจะมีฝีเท้าดี และประสบความสำเร็จอย่างมากมายกับแมนเชสเตอร์​ ซิตี้​ แต่สมองของเขาน่าจะขาดปลาซาร์ดีนแหล่ะค่ะ ก็เลยเข้าใจว่าพฤติกรรม​ของตัวเองก่อนย้ายนั้นดี แล้วยังมองว่าข้อความบนป้ายนั้นมีความคูลๆ ชิกๆ จนทุกคนชื่นชมว่าคนที่บ้านไม่น่ามีเวลาสั่งสอน
อันที่จริงจะเสียเวลาด่าเตเบซคนเดียวก็คงจะไม่ยุติธรรม​มากนัก  เพราะคนที่อยู่เบื้องหลังการปั่นสมองเด็กไม่รู้จักโตก็คือ เคีย ชูรับเชียน นั่นเอง
ครั้งนึงในงานปาฐกถาที่เจ้าภาพอย่างทีมรักบี้ เคล ชาร์ค เชิญให้ เซอร์ ​อเล็กซ์​ เฟอร์กูสัน​ ไปกล่าวอะไรบนเวที และเมื่อพิธีกรให้พูดเกี่ยวกับ ปอล ป็อกบา ที่ท่านเล่าขำๆ ว่า
2
"ถ้าให้ผมพูดถึง ปอล ป็อกบา  ผมบอกได้แค่ว่าเขามีเอเย่นต์ที่ห่วย และ เคีย ชูรับเชียน คือคนไร้ค่าพอๆ กับถึงอุจจาระ​#
ส่วนในหนังสืออัตชีวประวัติ​ของท่านก็เขียนถึงเรื่องนี้สั้นๆ ว่า
"มีเอเยนต์นักเตะอยู่แค่ 1 หรือ 2 คนเท่านั้นแหล่ะที่ผมไม่ชอบ และ มิโน่ ไรโอล่า ต้องเป็น 1 ในนั้นแน่นอน"
ตอนนั้นคนต่างเดาไปว่าน่าจะเป็นเอเยนต์​ของ กาเบรียล ไฮน์เซ ที่เคยงอแงขอย้ายไปลิเวอร์พูล​ หรือ เอเยนต์​ของ เวย์น​ รู​นี่ย์​ ที่ยื่นข้อเสนอขอค่าแรงแสนแพงจนทำลายเพดานค่าเหนื่อยของสโมสร
แต่เมื่อนำบทสนทนา กับเหตุการณ์​หลังเกิดเหตุ​ทุกกรณีมาร่วมประมวลผล​ 1 ใน 2 เอเยนต์​คนที่เหลือที่คุณป๋าไม่ชอบหน้า เห็นจะไม่พ้น เคีย ชูรับเชียน อย่างแน่นวล
มิสยังเคยแอบคิดเลยว่ากระสุนที่คุณป๋าเคยแซวเล่นๆ ว่าผมขอ 2 นัด เพื่อจะมอบให้ อาร์แซน​ เวน​เกอร์​ กับ วิคทอเรีย อดัมส์​
ถ้าคำถามนี้เกิดหลังปี 2009 ท่านน่าจะขอกระสุนเพิ่มแบบยกมาทั้งแมกนั่ม เพื่อมอบนัดที่เหลือให้ MSI ทั้งคณะ เลยเจ้าค่ะ
พอล แมคกรัธ, นอร์แมน ไวท์ไซด์ ที่เคยถูกขายทิ้งเพราะพฤติกรรม​การดื่มที่ห้ามไม่ฟัง
รุด ฟาน นิสเตอรอย ที่เคยด่าคุณป๋าว่าไอ้แก่เอ้ย
เดวิด เบ็คแฮม​ ที่ทำให้คุณป๋างอนเพราะมีเมียที่เป็นสตรีที่พ่อผัวเบอร์สองสั่งห้าม
หรือ รอย คีน ที่ถูกขายทิ้งเพราะลุแก่อำนาจ
ก็ยังไม่เคยมีใครมาทำอะไรที่จาบจ้วงจนเกินเบอร์แบบนั้น นอกจากที่ รอย คีน เคยฟาดแบบพาดพิงมาบ้างแบบแสบๆ
แต่กับการที่ เตเบซที่ทำตัวเองด้วยการไร้ความเป็นมืออาชีพที่ดี แถมยังมั่นหน้ากล้าย้ายข้ามเมือง และชูป้ายที่บ่งบอกสภาพสติสัมปชัญญะ​
เขาจึงเป็นหนึ่งในรายชื่อที่แฟนบอลหมายหัวเอาไว้ในฐานะศัตรูที่เคยส่งเสียงเชียร์ เพราะแม้แต่ อังเคล ดิ มาเรีย ยังแค่ได้รับเกลียดเบาๆ แค่เสียงโห่ฮา และขวดเบียร์
ตอนอยู่ควรทำตัวให้คนเค้ามอบใจ เพื่อตอนเราจากไปคนเค้าจะได้คิดถึง
#มิสมาต้า #เตเวซ #เวสต์แฮม #มาสเค​ราโน่ #ข่าวบอล #ผลฟุตบอล #ผลบอล #ฟุตบอล #Football #Soccer #PlayNowThailand #KhelNowThailand
โฆษณา