รีวิว Willy's Wonderland
ตำนานเมืองกับความกลัวอำนาจมืด
Willy's Wonderland หนังเรื่องล่าสุดของนิโคลัส เคจที่เข้าฉายในบ้านเรา เป็นหนึ่งในหนังเปิดปี 2021 ที่ แอดมินค่อนข้างปลื้มมากเลยค่ะ เพราะน้าเคจแกกลับมาเดือดเป็นภารโรงคลั่งได้อย่างสุดฮาสาแก่ใจคนที่เชียร์ให้แกคืนฟอร์มสักที แม้ว่าเรื่องนี้แกจะไม่ได้โชว์การแสดงระดับตำนานอะไร แต่เขาก็มีความเก๋าอยู่ และต้องเป็นแกเท่านั้นเลยที่จะมารับบทนี้แล้วทำให้คนดูสนุกไปกับเนื้อเรื่องได้ และหากผู้ชมได้รับรู้เรื่องราวชีวิตวายป่วงของเขาเป็น Back Story มาก่อนแล้วจะยิ่งอิน
ใครอยากรู้ว่าช่วงหลังนี้แกไปทำอะไรมา อ่านบทความนี้ได้ค่ะ
นิโคลัส เคจ (Nicolas Cage) : เล่นหนังใช้หนี้ ราชาหนังเกรดบี
ส่วนประเด็นอื่นๆ อ่านได้ทีละรูปเลยนะคะ
พอดีกลัวยาวเลยแยกไว้ให้อ่านง่ายค่ะ
***** เรื่องราวสนุกๆ ของ Willy's Wonderland ยังไม่หมดนะคะ
โพสต์หน้าจะมาเล่าเรื่องชวนขนลุกของ Chuck E. Cheese ที่เป็นต้นตำนานความสยองของเรื่องนี้ค่ะ ****
👻👻👻👻👻👻👻
ติดตามกันได้นะคะ
Willy's Wonderland
การคัมแบ็คสุดเก๋า
สำหรับแอดรู้สึกว่าเรื่องนี้ใช้ความเป็นนิโคลัส เคจได้อย่างดีเยี่ยมค่ะ ใครที่เป็นแฟนผลงานหรือเติบโตในช่วงแกดังๆ มาก็รู้กันดีอยู่แล้วว่าแกเจ๋งมาก เล่นได้ทั้งแนวบู๊ไปจนถึงแนวดราม่าและมีรางวัลออสสการ์การันตีมาแล้ว
ผีซ่า หรือจะสู้คนบ้า
แต่ด้วยความที่ผ่านยุคผ่านสมัยมา แม้ว่าแกจะมีผลงานอยู่เรื่อยๆ แต่สำหรับคนรุ่นใหม่ หรือเด็กสมัยนี้บางคนเกิดไม่ทันด้วยซ้ำ ก็จะไม่รู้ว่าตาลุงคนนี้เป็นใครกันนะ แล้วน้องๆ หนูๆ ก็ได้ตกตะลึงกับอภินิหารความเฮี้ยนของแกเองค่ะ
เพราะบทในเรื่องนี้ แกไม่ได้พูดเลยซักคำแต่ใช้การแสดงออกทางร่างกาย สีหน้า แววตา และจังหวะในการแสดง มีทั้งบู๊ทั้งฮา ทั้งดูบ้าเพี้ยนได้อย่างปล่อยของมากๆ
สมกับตัวละคร 'ภารโรง' หรือ The Janitor ที่เป็นเหมือนพระเอกยุคหนังคาวบอยทีี่ตามขนบแล้ว มักจะไม่มีที่มาที่ไป แค่ผ่านทางมา ช่วยชาวบ้านแก้ปัญหา แล้วก็จากไป
ตัวละครของนิโคลัส เคจก็เป็นแบบนั้น เราได้เห็นความเก่งกาจของเขาชนิดที่เรียกได้ว่าระดับปีศาจ และสร้างความบันเทิงได้อย่างถึงขีดสุด
หนังมันดี หรือ ก็แค่ดูไปงั้น
Willy's Wonderland สนุกดีหรือไม่มีอะไร ?
ตอนนี้กระแสหลังจากหนังออกฉาย เรียกว่าเสียงแตกมาก เพราะมีทั้งฝั่งที่ชอบมากๆ
ก็จะบอกว่าสนุก ตลก ได้กลิ่นอายความเป็นหนังสยองขวัญไล่เชือดยุค 80s ที่มันจะไม่ต้องมีอะไรซับซ้อนมากนอกจากตัวละครเดินเข้ามาในสถานที่ปิดตายและโดนฆ่าไปเรื่อยๆ แต่เรื่องนี้มีเก๋ตรงที่ตัวละครภารโรง
พระเอกของเรานั้นไม่ใช่เหยื่อที่ไอ้หุ่นผีจะฆ่าได้ง่ายๆ เขาสู้กลับฟัดกันมันสุดเหวี่ยงชนิดผีต้องร้องขอชีวิต
ฝ่ายนักวิจารณ์ที่ไม่ชอบบอกว่าหนังมันน่าเบื่อ พอนิโคลัส เคส ต่อยผีตัวแรกไปแล้วเรื่องราวก็วนๆ ซ้ำๆ ไม่มีอะไรแปลกใหม่ พลังดาราของน้าเคจไม่สามารถอุ้มชูหนังที่ไม่มีอะไรไปได้ตลอดรอดฝั่ง เรื่องนี้ดีกว่าหนังเกรดบีเรื่องอื่นๆที่น้าแกเล่นอยู่หน่อยตรงที่ว่ามันดูรู้เรื่อง มีต้น กลางจบ แต่นอกนั้นไม่มีอะไรพิเศษให้ว้าว หรือประหลาดใจ
ซึ่งต้องไปพิสูจน์กันเองว่าหนังเรื่องนี้จะถูกจริตเราไหม ถ้าเป็นสายหนังสยองอยู่แล้วเรื่องนี้ดูเพลินๆ ได้ไม่ยาก แต่ถ้าคาดหวังคุณภาพความดีงามระดับชิงรางวัลเรื่องนี้ไม่มีให้เลยค่ะ 5555
แต่ถ้าถามว่าหนังจะไร้สาระไปหมดทุกอย่างไหม บอกได้เลยว่า ไม่นะ มันมีประเด็นที่น่าพูดถึงอยู่
ซึ่งต่อไปนี้จะเป็นการตีความอวยหนังของแอดเองค่ะ และจะมีสปอยล์ถึงเนื้อหา
ใครยังไม่ได้ชมข้ามตรงส่วนนี้ไปได้ก่อนนะคะ
.
.
.
.
.
ตำนานเมืองกับความกลัวอำนาจมืดที่ทำให้ไม่กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง
สิ่งหนึ่งที่ชอบในเรื่องนี้ก็คือการใส่ที่มาของร้าน Willy's Wonderland ให้เป็นร้านที่เปิดโดยเหล่าฆาตกรโรคจิตที่ใช้ฉากหน้าของร้านอาหารเปี่ยมสีสันแหล่งความสุขสำหรับครอบครัว มาเป็นโรงเชือดคอยฆ่าคนในเมืองอันห่างไกลสนองความต้องการอันวิปริตของตัวเอง
แม้ว่าพวกฆาตกรเหล่านั้นจะตายไปแล้วแต่ยังคงวนเวียนเป็นผีฝังหุ่นที่คอยออกสังหารชาวเมืองอีกอยู่ดี แม้ว่าจะมีการพยายามทำลายร้านแห่งนี้แล้วแต่มันก็เฮี้ยนจนชาวเมืองขยาด ไม่กล้าไปแตะต้องมันแล้วทำสัญญาอุบาทว์ด้วยการจะพยายามป้อนเหยื่อให้มันได้กิน
การกระทำเหล่านี้ไม่ต่างกับเรื่องอิทธิพลท้องถิ่นเลย ที่แม้ว่าชาวบ้านจะต้องทุกข์ทนกับความชั่วร้ายแต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้ จนต้องจำยอม แล้วสุดท้ายกลายเป็นความเชื่อฝังหัวว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ต้องทำเพื่อความอยู่รอด และไม่เคยคิดที่จะลุกขึ้นมาสู้อีก โดยถือคติว่าเอาตัวรอดไว้ก่อน อีกทั้งเจ้าของคนปัจจุบันของร้านก็เป็นนายทุนที่มีอิทธิพลดีลกับชาวเมืองท้องถิ่นอีกเลยไม่มีใครกล้าทำอะไร หนำซ้ำนายอำเภอยังรู้เห็นเป็นใจ!
ผ่านยุคผ่านสมัยมาจนถึงยุคใหม่จนเกิดกระแส
ให้มันจบที่รุ่นเรา !
นื่องจากน้องนางเอกของเราเป็นคนที่โดนผลกระทบจสกวงจรอุบาทว์โดยตรงเธอจึงคิดที่จะหยุดวงจรนี้ด้วยการถอนรากถอนโคนต้นตอของปัญหาไปเลย แต่ตัวเธอเองก็ทำอะไรไม่ได้มาก แถมพาพรรคพวกไปซวยอีก
แต่เคราะห์ยังดีที่ยังมี น้านิค เคจ คนเก๋าที่เป็นเหมือนพระเอกมาช่วยล้างบาง โดยที่แกไม่ได้จะแคร์ที่มาที่ไปอะไรหรอกนะ แต่ก็ทำในสิ่งที่ควรทำก็เท่านั้น
เด็กสมัยนี้ ปะทะ ผู้ใหญ่สมัยนั้น
การปะทะกันของคนต่างวัย
เด็กเจน Z หัวร้อน ปะทะ Boomer ไม่ยอมปรับตัว
ที่หนังก็ใส่เอาไว้บางๆ ไม่ใช่ถึงขั้นที่ต้องเอามาตีความอะไรขนาดนั้น แต่มันสะท้อนให้เห็นยุคสมัย และช่วงวัย ที่ส่งผลต่อความคิด
ตัวละครเล็กๆ ที่น่าสนใจอีกตัวคือผู้ช่วยนายอำเภอ เป็นคนหนุ่มวัย 30 กว่ามีครอบครัวแล้ว แม้ว่าจะไม่เห็นด้วยกับการจัดการของผู้ใหญ่ แต่ก็ต้องจำยอมทำตามเพราะต้องเซฟตัวเองกับครอบครัว แม้ว่าคิดจะลุกมาต่อสู้ก็สายไปแล้ว
จุดนี้มันสามารถตีความได้ถึง Gen Y ที่มีบทความบางอันชี้ว่าเป็นยุค Failed Generation ที่แม้ว่าจะมีศักยภาพมาก แต่ทำอะไรไม่สำเร็จเพราะโดนกดทับอยู่พอถึงคราวที่ตัวเองจะต้องขึ้นมาก็ทำไม่ได้ แล้วโดนคลื่นลูกใหม่อย่าง Gen Z ไล่บี้
ทั้งหมดทั้งมวลที่ตีความมานี้ มันไม่บ่งชัดในตัวหนังขนาดนั้นหรอกค่ะ 5555 แต่มันเอามโนต่อยอดได้ แม้ว่าหนังจะเน้นความบันเทิง ไม่ใช่หนังแฝงการเมืองใดๆ เลย แต่ก็สัมผัสได้ว่าตัวผู้สร้างเองก็ไม่ได้ทำงานนี้ออกมาแบบตื้นเขินไปซะทีเดียว
การตีความของแอดอาจจะมโนไปเองหรือไม่นั้นก็แล้วแต่ผู้ที่ชมจะพิจารณากันเอาเอง
เพราะฉะนั้นอยากชวนให้ไปดูกัน ในฐานะหนังที่ดูเพลินดูเอามันส์เรื่องหนึ่งก็ได้ เพราะลำพังแค่เรื่องของความบันเทิง หนังเรื่องนี้ก็ทำหน้าที่ของมันได้สมบูรณ์แล้ว
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
