Xi Jinping ผงาดผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ผู้ทรงอิทธิพลสูงสุดในประวัติศาสตร์จีน
การประชุมประจำปีของพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ถูกเลื่อนออกไปเมื่อปี 2020 นับเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี สาเหตุมาจากการแพร่ระบาดของ COVID-19
https://www.lowyinstitute.org/the-interpreter/echoes-mao-xi-jinping-ends-term-limits
ประเทศจีนภายใต้การนำของนาย Xi Jinping สามารถฝ่าฟันวิกฤติการแพร่ระระบาดได้อย่างรวดเร็ว
เพื่อพลิกฟื้นสภาวะเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด และกำลังจะกลายเป็นว่าที่ผู้นำโลกทางด้านเศรษฐกิจในอนาคตอันใกล้นี้
การควบคุมการแพร่ระบาดได้ดี ส่งผลให้จีนเป็นประเทศที่ฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้ก่อนชาติอื่น ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาด ที่สร้างสภาวะการหดตัวทางเศรษฐกิจทั่วโลก
ผลงานที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งคือการช่วยเหลือประชาชนจีนกว่า 100 ล้านคน ให้สามารถหลุดพ้นจากกับดักความยากจนได้สำเร็จ
ด้วยภาวะผู้นำที่ยอดเยี่ยมและการบริหารจัดการรับมือกับการแข่งขันทางการค้า และการจัดการปัญหา COVID-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ประธานาธิบดี Xi Jinping ก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์จีนยุคใหม่
ปัจจุบันประธานาธิบดี Xi Jinping จะดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งกำลังจะครบวาระในปี 2022
สื่อต่างๆคาดการณ์ว่าเค้าจะยังคงเป็นผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคฯต่อไปอีกวาระหนึ่งอย่างแน่นอน ด้วยความมั่นคงทางการเมืองของประธานาธิบดี Xi Jinping ทำให้เค้าจะเป็นผู้นำจีนอีกยาวนาน เปรียบประดุจดังจักรพรรดิจีนในศตววรษที่ 2020
การประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนถูกจัดให้มีขึ้นในเดือนมีนาคมของทุกปี
ในปีนี้ประเทศจีนตั้งเป้าหมายในการผู้นำด้วยขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกให้ได้ ภายในปี 2028 ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายเดิม 5 ปี
ประเด็นที่สำคัญของปีนี้คือการรับรองแผน 5 ปีของจีน เพื่อกำหนดเป้าหมายที่สำคัญทั้งทางด้านเศรษฐกิจ ภาวะโลกร้อน และการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี
โดยแผนชาติฉบับที่ 14 นี้ จะใช้จนถึงปี 2025 ซึ่งสรุปเป้าหมายที่สำคัญได้ดังนี้
1. ด้านการเกษตร มุ่งเน้นการสร้างความมั่นคงทางอาหารภายในประเทศ และการพัฒนาเทคโนโลยีเมล็ดพันธุ์พืช เพื่อส่งเสริมการเพาะปลูกเองให้ได้ภายในประเทศจีน
2. ด้านเทคโนโลยี มุ่งเน้นการพัฒนายุทธศาสตร์เทคโนโลยี พัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์ และการพัฒนาเทคโนโลยี 5G, Smart cities, Internet of Things และ cryptocurrency
อย่างไรก็ตามนโยบายทางด้านเทคโนโลยีนั้นอาจเกิดอุปสรรคขึ้นได้ เนื่องจากปัจจุบันสหรัฐฯได้ออกนโยบายเพื่อลดการถ่ายทอดเทคโนโลยีทางด้านสถาปัตยกรรม AI และ semiconductors ให้กับจีน โดยการออกนโยบายส่งเสริมการกลับมาลงทุนของบริษัทเทคโนโลยีบนแผ่นดินสหรัฐฯ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของจีน ปัจจุบันสหรัฐฯมีความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีนำหน้าจีนอยู่ 2 ขั้น
https://news.cgtn.com/news/2020-09-15/U-S-my-way-or-the-Huawei-is-bound-to-fail-TNxkmuGDKM/index.html
3. ด้านการเงิน มุ่งเน้นการพัฒนาธนาคารกลางเพื่อสกุลดิจิตอล เพื่อให้เกิดการใช้อย่างแพร่หลายในธุรกิจ E-commerce
ที่ประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้กำหนดแผนชาติระยะยาวจนถึงปี 2035 ด้วยยุทธศาสตร์แบบก้าวกระโดดครั้งยิ่งใหญ่ เพื่อก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของโลกในอนาคต นั่นหมายถึงการอยู่ในอำนาจต่อไปในระยะยาวของผู้นำจีนคนปัจจุบัน
นอกจากนี้ที่ประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้ประกาศยกเครื่องระบบการเลือกตั้งของฮ่องกงใหม่ทั้งระบบ เพื่อใช้ในการควบคุมฮ่องกง และเป็นการขจัดผู้แทนในสภาฮ่องกงที่สนับสนุนประชาธิปไตยและมีเป้าหมายในการปลดปล่อยฮ่องกงเป็นเอกราชจากจีน
ข้อได้เปรียบของจีนที่มีเหนือสหรัฐฯคือความมั่นคงทางด้านยุทธศาสตร์ชาติระยะยาว
เพราะตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯนั้นเป็นตำแหน่งที่มีความอ่อนไหวทางด้านการเมือง และจะต้องมีการเลือกตั้งทุกๆ 4 ปี ทำให้นโยบายทางด้านยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯนั้นมีการเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด
ในขณะที่จีนสามารถพัฒนาประเทศได้ตาม Road Map ที่วางเอาไว้ได้อย่างต่อเนื่อง เพราะตำแหน่งผู้นำจีนคนปัจจุบัน เป็นตำแหน่งที่มั่นคงแข็งแรงและปลอดภัยที่สุดในบรรดาผู้นำโลก
https://edition.cnn.com/2021/03/04/asia/xi-jinping-china-npc-successor-intl-hnk/index.html
ในวาระครบรอบ 100 ปี พรรคคอมมิวนิสต์จีนที่ผ่านมา นาย Xi Jinping ได้ออกมากระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เรื่องราวในอดีตของการต่อสู้ในสงครามการปฏิวัติจีน อันจะนำไปสู่ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของจีนในการบรรลุเป้าหมายของชาติในอนาคต
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
