6 มี.ค. 2021 เวลา 12:02 • ประวัติศาสตร์
รู้จัก Age of Enlightenment หรือยุคเรืองปัญญาของยุโรป แบบรวบรัด
10
หลังจากที่ยุโรปผ่านยุคสมัยที่เรียกว่า Renaissance หรือยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาการไปแล้ว ยุคโรปก็เข้าสู่ยุคสมัยที่เรียกว่า ยุค Scientific Revolution ในศตวรรษที่ 18 ซึ่งเป็นยุคที่มีนักคิด เสนอว่า วิธีการหาคำตอบต่างๆ ให้ใช้วิธีกระบวนการคิดแบบวิทยาศาสตร์ คือ สังเกต สงสัย ตั้งคำถาม ตั้งสมมติฐาน แล้วทดลองเพื่อหาคำตอบ
5
วิธีการคิดแบบนี้ ต่อมาถูกนำมาใช้กับสังคม คือ เริ่มมีคนตั้งคำถามกับชนชั้นในสังคม ตั้งคำถามกับเสรีภาพ การเมือง การปกครอง แล้วถามว่า ทำไมสังคมถึงต้องเป็นแบบนี้ ทำไมชนชั้นสูงถึงมีสิทธิ์และเสรีภาพมากกว่าคนอื่น ทำไมแค่การเกิดมาในคนละตระกูลทำให้คนถูกมองว่าไม่เท่ากัน

ซึ่งการตั้งคำถามและพยายามเข้าใจด้วยเหตุผลเช่นนี้ ก็นำยุโรปเข้าสู่ยุคเรืองปัญญา หรือยุคแห่งการใช้เหตุผล
ก่อนที่จะเข้าสู่ยุคเรืองปัญญานั้น สังคมในยุโรปจะมีความเป็นชนชั้นสูง โดยทั่วไปจะแบ่งคนในสังคมเป็นฐานันดรต่างๆหรือ Estates ต่างๆ 3 ฐานันดรด้วยกัน คือ Priests (นักบวช) Nobles (ขุนนาง) และPeasant (ชาวบ้าน) ซึ่ง 2 ฐานันดรบนจะเป็นคนกลุ่มน้อยของสังคม แต่เป็นชนชั้นที่ร่ำรวย ครอบครองที่ดินเป็นจำนวนมาก โดย 2 ฐานันดรบนจะเสริมอำนาจซึ่งกันและกัน เพราะศาสนาจะบอกว่า กษัตริย์หรือขุนนางได้รับอำนาจมาจากพระผู้เป็นเจ้า เพื่อที่จะมาปกครอง ส่วนกษัตริย์เองก็อุปถัมภ์ศาสนา ก็เลยทำให้ 2 ฐานันดรนี้มีผลประโยชน์ร่วมกัน
2
นอกเหนือไปจากนั้น สิทธืเสรีภาพของแต่ละชนชั้นก็ไม่เท่ากัน กฎหมายสำหรับแต่ละชนชั้นก็ไม่เท่ากัน โดยชนชั้นสูงมักจะมีสิทธิ์หลายๆอย่างมากกว่า และแม้ว่าสองฐานันดรแรกจะรวยกว่าแต่แทบไม่ต้องเสียภาษีให้กับรัฐ
แต่ช่วงเวลานั้นก็มีชนชั้นใหม่เกิดขึ้นมาซึ่งไม่เข้าฐานันดรไหน นั่นก็คือ ชนชั้นกลาง เพราะชนชั้นนี้ แต่เดิมก็คือลูกหลานของชาวไร่ ชาวนา แต่ต่อมาร่ำรวยขึ้นจากการค้าขาย จนมีฐานะเทียบเท่าหรือรวยกว่าขุนนาง 
ชนชั้นนี้จะมีการศึกษา อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ และใกล้ชิดกับกษัตริย์

ทั้งหมดนี้ก็คือภาพกว้างๆ ของสภาพสังคมก่อนเข้าสู่ Age of Enlightenment
2
ผลกระทบหนึ่งของยุค Scientific Revolution คือ นักคิด นักวิทยาศาสตร์หลายคน ทำให้จักรวาลและโลก เปลี่ยนสภาพจาก สรวงสวรรค์ที่พิเศษ มีส่วนประกอบและกฎเกณฑ์ที่ต่างไปจากโลก และมีความเป็นนิรันด์ กลายมาเป็น เครื่องจักรที่สามารถเข้าใจได้ด้วย คณิตศาสตร์และการใช้เหตุผล

คนจึงเริ่มคิดต่อว่า ขนาดสวรรค์ยังเข้าใจได้ด้วยการใช้เหตุผล สังคมมนุษย์ก็ควรจะเข้าใจได้ด้วยเหตุผลเช่นเดียวกัน สังคมมนุษย์ควรจะถูกตั้งคำถามได้ และถ้าอะไรมันไม่สมเหตุสมผล ก็ควรจะได้รับการเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น ดังนั้น คนจึงเริ่มตั้งคำถามกับความไม่เท่าเทียมต่างๆที่มีอยู่ในสังคม
23
พอคนเริ่มตั้งคำถาม สิ่งต่างๆที่เคยเชื่อตามๆกันมาก็เริ่มถูกท้าทาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ เศรษฐกิจ ชนชั้น กฎหมายที่ไม่เท่าเทียม รวมไปถึงเรื่องที่แต่ก่อนคนไม่กล้าที่จะตั้งคำถามอย่างเรื่องของศาสนา และสถาบันกษัตริย์
3
จากนั้น ผู้คนในสังคมก็เริ่มเรียกร้องสิ่งต่างๆที่เดิมไม่เคยเป็นประเด็น เช่น เรื่องของสิทธิเสรีภาพ เรื่องของการศึกษา เรื่องของกฎหมายที่ไม่เท่าเทียม ฯลฯ
สุดท้าย เมื่อคนส่วนใหญ่ในสังคมมีความคิดเปลี่ยนไป มองโลกเปลี่ยนไป สังคมแบบเก่าที่ตั้งอยู่บนความเชื่อและศรัทธา และให้ประโยชน์แก่คนส่วนน้อยในสังคม ก็เริ่มจะอยู่ไม่ได้
และความคิดที่เปลี่ยนนี้ สุดท้ายจึงนำไปสู่ความพยายามที่จะปฏิรูปสังคม แต่เมื่อความพยายามปฏิรูปถูกต่อต้านและกีดกัน สิ่งที่เกิดตามมาจึงเป็น การปฏิวัติ 
ซึ่งการปฏิวัติที่เห็นได้ชัดว่ามีรากความคิดมาจากยุคเรืองปัญญา ก็คือ การปฏิวัติของอเมริกา (American Revolution) ที่ชาวอังกฤษในทวีปอเมริกาตัดสินใจที่จะต่อสู้และปลดแอกตัวเองออกจากการปกครองของกษัตริย์อังกฤษ และปกครองตัวเองในฐานะของประเทศอเมริกา
1
อีกการปฏิวัติที่มีรากจากแนวคิดยุคเรืองปัญญา ก็คือ การปฏิวัติในฝรั่งเศส (French Revolution)

และทั้งหมดนี้ก็คือ ภาพรวมกว้างๆ ย่อๆ ของยุคสมัยสำคัญที่ทุกวันนี้เรารู้จักในชื่อ ยุคเรืองปัญญา หรือ The Enlightenment
2
ถ้าหากใครสนใจ สามารถไปฟัง podcast Age of Enlightenment
ฉบับเต็มได้ที่ลิงก์ที่แนบไว้ด้านล่างนี้ได้เลยครับ
🎧 Apple Podcast : https://apple.co/3kg7jRJ
🎧 Google Podcast : https://bit.ly/33r86IR
🎧 Soundcloud : http://bit.ly/3bMv4OS
🎧 Blockdit : https://bit.ly/2O6JUHq
ไม่อยากพลาดการแจ้งเตือนเมื่อมีโพสต์หรือบทความใหม่ๆ
Add Line เพื่อรับการแจ้งเตือนต่างๆได้ที่นี่
🔔 Line: @chatchapolbook
1
โฆษณา