พาชีมีปีก อัศวแดนสวรรค์
สัญลักษณ์ของการท่องเที่ยวประเทศจีนและหนึ่งในสัญลักษณ์ของเส้นทางสายแพรไหมที่หลายท่านเคยเดินทางไปเยือนประเทศจีนมา คงจะเคยเห็นผ่านตามาบ้าง
อัศวแดนสวรรค์เหยียบบนหลังนกนางแอ่น สุดยอดอาชาตะวันตก ที่ขุดค้นพบในสุสานเหลยไถ เมืองหวู่เวย ภาคกลางของมณฑลกานซู
รูปหล่อทองเหลืองอาชาผยอง หรือ ถงเปินหม่า 铜奔马 Bronze Galloping Horse ที่เรียกขานกันว่า “หม่าท่าเฟยเอี้ยน” 马踏飞燕 หรือ “ม้าเหยียบนกนางแอ่นเหินลม” ต้นแบบอาชาสวรรค์แดนตะวันตก หรือ “ซีเทียนหม่า” 西天马 จากเมืองต้าหว่าน 大宛 (หรือเมืองเฟอร์กาน่า Fergana ประเทศอุซเบกิสถานในปัจจุบัน)
สุดยอดปรารถนาแห่งจักรพรรดิฮั่นตะวันตกที่หมายจะได้มาครอบครอง เพื่อพิชิตแว่นแคว้นแดนประจิม
ในเดือนตุลาคม ปีค.ศ.๑๙๖๙ ได้มีการขุดค้นพบหลุมฝังศพแม่ทัพสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออก (อายุราวปีค.ศ.๑๘๖-๒๑๙) ที่เมืองหวู่เวย 武威 Wuwei เข้าโดยบังเอิญ ในระหว่างที่ชาวบ้านต่างกำลังช่วยขุดหลุมหลบภัยสงครามระหว่างจีนกับสหภาพโซเวียตที่คุกรุ่นกันขึ้น โดยในขณะนั้นด้านบนของหลุมฝังศพนี้
ชาวบ้านได้ใช้เป็นแท่นบูชาเทพแห่งสายฟ้า หรือ เหลยเสิน 雷神 จึงมีชื่อเรียกว่า เหลยไถ Leitai 雷台观 ภายในสุสานเหลยไถ Leitai Tomb of Han Dynasty ได้ขุดค้นพบโบราณวัตถุล้ำค่าสมัยราชวงศ์ฮั่นรวมกว่า ๒๓๐ ชิ้น อาทิเช่น เครื่องปั้นดินเผารูปทหาร ๑๗ คน ผู้รับใช้ ๒๘ คน ม้าทองเหลือง ๓๙ ตัว รถม้าทองเหลือง ๑๔ คัน และควายทองเหลือง ๑ ตัว พร้อมทั้งโลงศพและตราประทับบอกตำแหน่งแม่ทัพแซ่จาง เป็นต้น
โบราณวัตถุชิ้นสำคัญสุดที่ขุดค้นพบคือ รูปหล่อทองเหลือง “หม่าท่าเฟยเอี้ยน” มีรูปลักษณ์งามสง่าในท่วงท่ากำลังกระโจนทะยานมุ่งไปเบื้องหน้าอย่างทระนงองอาจ เท้าทั้งสามกำลังเหาะเหินกลางนภา เท้าที่สี่เหยียบอยู่เหนือตัวนกนางแอ่นที่กำลังถลาลม มีรูจมูกเปิดกว้างและปากกำลังพ่นควันระบายออกมา ร่ำลือกันว่าเหงื่อของม้าสวรรค์นี้มีสีแดงประดุจชาด (ฮ่านเสวี่ยเป๋าหม่า 汗血宝马) ในยามที่ส่งเสียงร้องอย่างคึกคะนองนั้น สามารถสยบม้าของศัตรูให้มอบราบคาบได้โดยง่ายดาย
อนุสาวรีย์หม่าท่าเฟยเอี้ยน ที่หน้าหลุมขุดค้นแม่ทัพสมัยราชวงศ์ฮั่น
และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่สุดเมืองหวู่เวยก็คือ สุสานโบราณเหลยไถสมัยราชวงศ์ฮั่นอันลือนาม พลันที่เดินเข้าสู่เขตสุสาน หลังประตูทางเข้าปรากฏรูปหล่อทองเหลือง “หม่าท่าเฟยเอี้ยน” หรือ “อาชาสวรรค์เหยียบนกนางแอ่น” ตั้งโดดเด่นสูงตระหง่านเป็นสัญลักษณ์อันสง่างาม ด้านล่างมีอักษรเขียนบนแผ่นหินว่า “อาชาอันดับหนึ่งในใต้หล้า” 天下第一马
ด้านหลังมีฝูงอาชาและรถเทียมม้าทองเหลืองที่ขยายส่วนจากที่ขุดค้นพบในสุสานด้านหลัง เดินถัดเข้าไป เป็นที่ตั้งของห้องสุสานหมายเลข ๑ ภายในมีขนาดความลึก ๔๐ เมตร มีพื้นที่ ๖๐ ตารางเมตร แบ่งเป็นห้องหน้า ห้องกลาง และห้องหลัง “หม่าท่าเฟยเอี้ยน” ถูกค้นพบในบริเวณห้องกลางของสุสาน ขนาดของตัวม้ามีความสูง ๓๔.๕ เซนติเมตร ยาว ๔๕ เซนติเมตร และมีน้ำหนัก ๗.๑๕ กิโลกรัม
ขบวนอาชาสวรรค์ตะวันตกหน้าสุสานเหลยไถ
ภายหลังการขุดค้นพบหลุมสมบัติล้ำค่าใต้แท่นบูชาเทพสายฟ้านี้แล้ว “อาชาสวรรค์เหยียบนกนางแอ่น” ตัวนี้ ได้ถูกนำไปจัดแสดง ณ พิพิธภัณฑ์ประจำมณฑลกานซูที่นครหลานโจว
จนในปีค.ศ.๑๙๗๑ นักคิดนักเขียนคนสำคัญของจีนคือ กัวม่อรว่อ 郭沫若Guo Moruo นำอาคันตุกะจากประเทศกัมพูชามาเยือนนครหลานโจว หลังจากได้ชมรูปหล่อทองเหลืองอาชาสวรรค์ตัวนี้แล้ว ท่านจึงกล่าวชื่นชมด้วยความประทับใจขึ้นว่า “อาชาแดนสวรรค์เหาะหินตัวเดียวกลางนภา เห็นควรนำไปประกาศศักดา ให้ชาวโลกได้เป็นที่ประจักษ์ในคุณค่าแห่งงานศิลปกรรมชิ้นนี้” พร้อมทั้งได้ตั้งชื่อให้ว่า “หม่าท่าเฟยเอี้ยน” แล้วนำเสนอให้รัฐบาลกลางนำมาจัดแสดง ณ กรุงปักกิ่ง
โบราณวัตถุสำคัญที่ขุดค้นพบภายในสุสานเหลยไถ จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ภายในบริเวณสุสานเหลยไถ
และนับแต่บัดนั้น “อาชาสวรรค์เหยียบนกนางแอ่น” ได้ถูกนำเหาะเหินขึ้นท้องฟ้าไปจัดแสดงในหลายทวีปทั่วโลก และได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งอัศวแดนสวรรค์ตะวันตก และ การท่องเที่ยวของประเทศจีนไปในที่สุด
พาชีมีปีก อัศวแดนสวรรค์ สัญลักษณ์การท่องเที่ยวของจีน
อ่านแล้วชอบ โปรดกดแสดงความรู้สึก กดติดตาม กดแชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนสร้างสรรค์ผลงานต่อไปครับ ขอบคุณครับ
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
