8 มี.ค. 2021 เวลา 01:34 • อาหาร
Homemade สโคน(Scone)
Homemade Scone
ผู้ดีอังกฤษกับวัฒนธรรมการจิบชายามบ่าย หรือ English Afternoon Tea เป็นที่ของคู่กัน ซึ่งจริงๆ เป็นอาหารว่างยามบ่าย จะจัดขึ้นในช่วงบ่าย ๆ ของวัน เพื่อคลายความหิวก่อนอาหารเย็น ซึ่งสมัยก่อนการจิบชายามบ่ายเป็นพบปะการสังสรรค์สำหรับสาวสังคมชั้นสูง ซึ่งหญิงสาวทุกคนจะแต่งเดรสยาว สวมถุงมือและสวมหมวก เพื่อเข้าร่วมพิธีดื่มชายามบ่าย
ประสบการณ์การดื่มชายามบ่ายของก้อย เกิดจากก้อยได้มีโอกาสได้ไปใช้ชีวิตที่ประเทศอังกฤษ เนื่องจากได้เดินทางไปศึกษาปริญญาโทต่อที่นั่น ก่อนที่จะเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัย ก้อยได้ไปเรียนภาษา ที่ เมือง Saffron Walden มณฑล Essex
หลังจากนั้นก้อยย้ายไปเรียนภาษาที่มหาลัย King’s College ในลอนดอนต่อค่ะ เพราะว่าหลงรักลอนดอนอย่างโงหัวไม่ขึ้นค่ะ เคยเข้ามาลอนดอน 2 - 3 ครั้งค่ะ มีร้านอาหารไทยที่อร่อยที่สุด ร้าน Four Seasons ร้านอาหารจีนที่มีเป็ดย่างที่อร่อยที่สุดในสี่โลก ด้วยความที่ชอบกินเป็ดย่างร้าน Four Seasons เป็นชีวิตจิตใจ ก้อยได้บ้านพัก แถว Bayswater ด้วยความบังเอิญซึ่ง ห่างจากร้านเป็ด ประมาณ 300 เมตร รู้สึกฟินนาเล่มากค่ะ
แถมมีร้านค้ามากมายตระการตา ดูเหมือนว่าได้เข้าเรียนภาษาที่ King’s College ดูสวยหรู ยังกับก้อยเป็นนักเรียนได้เกียรตินิยมอันดับ 1 มาเรียนนะคะ อย่าเพิ่งคิดนะคะ ก้อยได้เรียนในห้องที่โหล่ ที่สุดคือห้องสามค่ะ จากนั้นก้อยตัดสินใจที่จะเรียนที่ลอนดอนค่ะ
ก้อยเข้าศึกษาต่อปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัย Westminster University ในสาขา International Business & Management ค่ะ เกริ่นยาวมากเลย วันนี้เรามาเล่าเรื่อง English Afternoon Tea กัน แต่ก้อยกลับชักแม่น้ำทั้งห้า มาแม่น้ำ ปิง วัง ยม น่าน มาทีเดียว ผู้อ่านอย่าเพิ่งตำหนิก้อยนะคะ พอเล่าถึงความหลังแล้วมีความสุข ค่ะ มา เล่าต่อกันค่ะ ว่าทำใมถึงหลงใหลในการดื่มชาแบบ อังกฤษ
ครั้งแรกการได้ดื่มชาดำใส่นมของก้อย คือการได้ไปอยู่กับ Host Family ซึ่งตอนนั้นก้อยอายุประมาณ 22 ปี ซึ่ง ณ. เวลานั้นภาษาอังกฤษของก้อยแย่ยิ่งกว่าเด็ก ป.3 สมัยนี้ค่ะ และไม่สามารถพูดเรียงคำพูดเป็นประโยคได้เลยค่ะ เรียกอีกแบบก็คือ พูดไม่ได้เลย ฟังก็ไม่เข้าใจ ไม่รู้เรื่อง
ช่วงที่ก้อยไปอังกฤษครั้งนั้นคือประมาณปลายตุลาคม ย่างเข้า เดือนพฤศจิกายน อากาศที่ประเทศอังกฤษช่วงนี้คือ หนาวเข้าถึงกระดูก เริ่มมีหิมะตก บรรยากาศคือ เทา ๆ มัว ๆ เย็น ยะเยือกเข้าถึงสันหลัง บางวันก็มีฝนตกพรำ ๆ อากาศจะยิ่งเย็นหนักมาก มือเท้า เย็นแทบจะแข็งเป็นน้ำแข็ง ตอนกลางคืนก้อยหนาวตัวสั่นจนนอนไม่หลับ นอนหนาวด้วยความทรมานมาก ด้วยความที่ตัวเองยังพูดภาษาอังกฤษยังไม่ได้เลย ไม่กล้าบอกเจ้าของบ้าน
จนกระทั่งคืนที่ 3 ทนไม่ไหว จึงไปขอผ้าห่มกับเจ้าของบ้าน และถามเขาว่า สามารถเร่งฮีสเตอร์ได้ใหม เขาถึงทราบว่าก้อยหนาวมากจนเกือบเป็นใข้ ค่ะ เขาจึงไปชงชาดำใส่นม Host Family เขาใจดีมากค่ะ ชงชามาให้ก้อยถึงบนห้องนอน
นับตั้งแต่บัดนั้นก้อยตกหลุมรักการดื่มชาดำใส่นม และเป็นการหลงไหลกับวัฒนธรรมการดื่มชา และอีกอย่าง การดื่มชาทำให้ร่างกายเราอบอุ่นด้วยค่ะ
จนกระทั่งก้อยกลายเป็นนักดื่มชาตัวยง ดื่มชาทุกชนิด เกือบจะเป็นผู้เชียวชาญในเรื่องชา ถึงขนาดทำชาไว้ดื่มเองทีเดียวค่ะ
ประเพณีที่ทุกคนกล่าวขาน ว่า Very very British คือการดื่มชายามบ่ายของชาวอังกฤษซึ่งผู้ที่ริเริ่มประเพณีการจิบชายามบ่ายคือ แคทเธอรีนแห่งบราแกนซา สมเด็จพระราชินีในสมเด็จพระเจ้าชาร์ลที่ 2 แห่งอังกฤษ
ในระยะแรก การดื่มชาเป็นประเพณีของสังคมชนชั้นสูงเท่านั้น เพราะว่าชาสมัยนั้นราคาแพงมากและจึงถูกจัดให้เป็นสินค้าฟุ่มเฟีอย ต่อมาราคาชาได้มีราคาถูกลง ทำให้วัฒนธรรมการดื่มชาแพร่หลายไปทั่วประเทศอังกฤษ
การทานสโคนกับการจิบชายามบ่าย เป็นอาหารว่างยามบ่าย หรือเรียกอีกอย่างว่า ประเพณีการดื่ม cream tea มีการเสริฟ สโคน กับ ครีมข้น (Clotted cream) กับแยม Clotted cream ๆ ที่ดีที่สุดคือ มาจากเมือง Conwall, Devon, Summerset ซึ่งจะมีรสชาติหวานมัน เข้มข้น เนื้อสัมผัส ของครีมจะนุ่มเนียนละเอียด หวานประแล่มติดลิ้นนิด ๆ สัมผัสถึงความสดใหม่จึงขึ้นชื่อว่า เป็น Clotted cream คุณภาพดีที่สุด
วัตถุดิบและอุปกรณ์ที่เตรียมค่ะ
Ingredients รายการวัตถุดิบ
 
1. แป้งสาลี 500 กรัม
2. แคนเบอรี่ ลูกเกด แอฟพิคอต แห้ง ประมาน 150 กรัม
3. น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ
4. เนยจืด 150 กรัม
5. ผงฟู 2 ช้อนชา
6. เกลือหิมาลายา 1 ช้อนชา
7. นมสด 4 ช้อนโต๊ะ (ดูจากแป้งถ้าไม่พอก็เพิ่มได้)
8. ใข่ไก่ 2 ฟอง
ขั้นตอนการปรุงอาหาร
1. นำแป้งสาลีใส่ในชามพลาสติก ตามด้วยน้ำตาล เกลือ ผงฟู และ ผลไม้แห้งผสมเข้าไปด้วยกัน
2. นำเนยจืดหั่นเต๋า เนยจืดนำออกมาจากตู้เย็นและใช้ทันที (ไม่ควรใช้เนยที่อยู่อุณภูมิห้องเพราะจะทำให้แป้งโดร์อ่อนไม่แข็งตัว)ผสมโดยใช้มือบี้ เนยและ แป้งให้เข้ากันแบบเร็ว ๆ จนแป้ง ร่วนซุย
3. ใส่ไข่และนมลงไป จนแป้งไม่แห้ง และ เหลวจนเกินไป นวดแป้งคลุกเคล้าแบบเร็ว ๆ นะคะ อย่านานเกินไป ไม่ต้องเนียนเกินไป หากแป้งแห้งเกินไปเติมนมสดเข้าไปอีกเล็กน้อย
4. หลังจากนั้นนำแป้งโดร์นำมาแผ่ ให้หนาประมาน 1 นิ้วก่อนที่จะแผ่ควรโรยแป้งสาลีลงไปเพื่อป้องกันการติดของแป้งโดร์
5. นำ คุ๊กกี้คัตเตอร์ นำมาตัด
6. หลังจากนั้นนำนมสดทาบนตัวสโคนก่อนนำไปอบ
7. นำเข้าเตาอบที่อุณภูมิ 190 C ประมาน 12 นาที แล้วนำออกมาเสริฟเลยค่ะ
อุปกรณ์ที่ใช้
1. คุ๊กกี้คัตเตอร์ (Cookie Cutters)
2. ช้อนตวง ที่ใช้วันนี้เป็นของ Jamie Oliver เชฟดังของชาวอังกฤษซึ่งเป็นสีฟ้าอ่อน คล้ายกับสี เบบี้บลู และสีเทาออกน้ำตาลอ่อน
เห็นครั้งแรก อดใจซื้อไม่ไหวค่ะ สีน่ารักมาก คือสีของเค้าเหมาะมากสำหรับแม่บ้านรุ่นใหม่ ทันสมัย ที่มีสไตร์ความเป็นแม่บ้านแบบ Martha Stewart ดูหรูเลิศ เข้ากั้น เข้ากัน กับแม่บ้านสมัยนี้นะคะ
และที่สำคัญ คุ๊กกี้คัตเตอร์เวลาตัด สโคนเริสมากคะ เขามีความคมกริบ ทำให้ตัดแป้งโดร์ได้คมชัด และทำให้รูปร่างของสโคนออกมาสวยเพอเฟค ค่ะ
สิ่งที่ประทับใจอีกอย่างหนึ่งของ คุ๊กกี้คัตเตอร์ ยี่ห้อ Jamie Oliver เวลาล้าง หรือ เอาเข้าเครื่องล้างจาน เขาไม่ขึ้นสนิมค่ะ ก้อยเคยซื้อ คุ๊กกี้คัตเตอร์ (Cookie Cutters) ที่เป็นแบบสแตนเลส พอนำมาล้างครั้งแรก สนิมก็ขึ้นค่าาาคุณขา ทำให้เสียความรู้สึกและเสียดายเงินที่ซื้อไปค่ะ
จากประสบการณ์ของก้อยนะคะ อุปกรน์ การทำขนม พิมพ์สำหรับทำเค๊กต่างๆ ของ Jamie Oliver มีคุณภาพดี พิมพ์ ค่อนข้างหนา ปกติพิมพ์เค้กต่างๆ จะค่อนข้างบาง และบางมาก หายากที่จะได้พิมพ์ เค้กหนาๆ หนักๆ ซึ่งมีผลต่อรสชาติของเค้กด้วยนะคะ
3. เตาอบที่ใช้คือ เตาอบยี่ห้อ Siemen เป็นเตาอบแบบฝังผนัง สามารถปรับอุณหภูมิได้ถึง 250 และสามารถ ใช้ย่างได้ ข้อดีของเตาอบของ ยี่ห้อนี้ คือพัดลมเป่าเพื่อเร่งความร้อนซึ่งเป็นระบบช่วยประหยัดไฟได้ด้วยค่ะ
ใครสนใจอยากทีอุปกรณ์ ทำเค้ก แบบ กิ๊บเก๋ ยูเรก้า แวะได้ที่
ขั้นตอนการเสริฟ
เวลาก้อยเสริฟสโคน จะเอาออกมาจากเตาร้อน ๆ และ เสริฟทันทีค่ะ เพราะว่า ก่อนทานก็จะต้องมีการชงชากัน ก่อน ระหว่างนี้ สโคน ก็จะค่อย ๆ เย็นลงเล็กน้อย เดี๋ยวก้อยมาเล่าทีหลังพิธีการ การเสริฟชานะคะ
ช่วงที่แขกกำลังชงชาทำให้ได้กลิ่นหอมของสโคนเพิ่งออกมาจากเตาใหม่ด้วย ซึ่งทำให้ได้อารมณ์ของการทานอาหารแบบ Homemade และ ทานกันแบบร้อน การทานสโคนให้ แบ่งสโคนเป็นสองส่วน แล้วทาครีมข้น (Clotted cream)ลงไปหนา พูน ๆ ค่ะ
เป็นกฏเหล็กของก้อยค่ะ เวลาเชิญใครมาดื่ม Afternoon Tea ถ้าแขกมาทานสโคนและทาครีมแบบบางเฉียบ อาจจะต้องโดน ก้อยดุค่ะ ต้องให้ทา Clotted cream แบบหนา ให้ทาแบบไม่ขี้เหนียว Clotted cream เพราะจะทำให้มีอรรถรสในการทาน ความอร่อยของการทานสโคน อยู่ตรงนี้ค่ะ
มักจะมีประเด็นว่า ให้ทา Clotted cream ก่อน แยม หรือว่า แยม ก่อน Clotted cream ถ้าการเสริฟแบบชนชั้นสูง หรือสมาชิกราชวงศ์ ตามประเพณีการดื่ม cream tea เป็นกฏเลยนะคะ ว่าจะต้องทาแยม ก่อนแล้วตามด้วยClotted cream ค่ะ
ท่านผู้อ่านลองไปทำทั้งสองแบบก็ได้นะคะลองดูว่าแบบไหนอร่อยกว่ากันนะคะ
สโคนทาครีมก่อนแยมค่ะ
การทำสโคนทุกคนสามารถทำทานที่บ้านได้คะ เพราะว่าใช้เวลาน้อยมากในการอบ คือ ประมาน 12 นาที
การเตรียมของในการทำ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที การทำสโคนทานเองนอกจากจะ อร่อยมาก และแขก หรือ เพื่อน ๆ หรือ เชิญแก๊งเพื่อนสาวมาปาร์ตี้ชาแบบผู้ดีอังกฤษ แล้ว เรายังสร้างความประทับใจ สร้างความสุขให้เพื่อน ๆ สร้างรอยยิ้ม ความอบอุ่นให้ครอบครัวด้วยค่ะ
ขอแอบกระซิบว่า เพื่อน ๆ ของก้อยนะคะ จะขอมาดื่มชายามบ่ายที่บ้านก้อยประจำค่ะ อีกเมนูง่ายๆ เต็มไปด้วยความงดงามของวัฒนธรรมของผู้ดีอังกฤษค่ะ
ได้โปรดติดตามบทความต่อไปของก้อยนะคะ มีเรื่องน่าสนใจมากมายมาเล่าสู่กันฟังค่ะ
ผู้เขียน
Blue Nigella , สตรีมีคลาสสาย ฝอ.
เชี่ยวชาญเรื่อง Green Beauty
ผู้หลงใหลในการทาน และเสพติดความงดงามของการทำอาหารและ การตกแต่งบ้าน
หลงรักวัฒนธรรมการดื่มชาเป็นชีวิตจิตใจ
รักการท่องเที่ยวและการเดินทางแบบผจญภัย
ช่องทางการติดต่อ
FB: KÔEY NIGELLA SKINCARE
IG: Koeynigella
Line: @koeynigella
Tiktok: koeynigell
call: 09 669 73628
 
สอบถามพูดคุยได้ที่
โฆษณา