8 มี.ค. 2021 เวลา 07:09 • ท่องเที่ยว
แม่ค้าตาคม
เอนก นาวิกมูล เขียนเที่ยง 11.30 น. จ8มีนา2564
เหตุที่ผมชอบไปตลาดสามโคก จ.ปทุมธานีบ่อยๆตั้งแต่สำรวจเจอเมื่อปี2548 ก็เพราะบรรยากาศแถวนั้นสงบ
แม่ค้าคนหนึ่งก็หน้าตาคมเข้มดี เหมาะสำหรับทอดอารมณ์สมมติตนให้เข้ากับเพลงแม่ค้าตาคม ของครูไพบูลย์ บุตรขัน เป็นอันมาก
สำหรับผมแล้วเพลงหลายเพลงแอบฝังอยู่ในดวงจิต​ทำให้เกิดจินตนาการผูกโยงกับอารมณ์และสิ่งที่เข้ามากระทบตลอดเวลา
 
สามโคกเมืองเก่ามีตลาดเล็กๆอยู่ปากคลองบางเตย มีสะพานไม่กว้างนักเชื่อมไปยังวัดและโรงเรียนบางเตยพร้อมกลิ่นเก่าๆ เช่นน้ำมันยาง ปูนกินกับหมาก และขนมเด็ก เป็นต้น
มองออกไปเห็นแม่น้ำเจ้าพระยากับที่ว่างของใครไม่ทราบ
ณ ฝั่งนั้น ถัดที่ว่างก็คือวัดไผ่ล้อมซึ่งเคยมีนกปากห่างมาชุมนุมทำรังกันนับพันๆตัว จนกลายเป็นที่ท่องเที่ยวสำคัญเมื่อยุค 2500
แม้แต่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ก็ยังนำแขกเมืองไปทอดพระเนตร 17กพ2504 เดี๋ยวนี้เบาบางแล้ว
ผมเห็นภาพ ป.อินทรปาลิต ในยุค 2471 กำลังถือท้ายเรือกลไฟแล่นไปกลับท่าเตียน-ปากน้ำโพ(นครสวรรค์) ตามคำบรรยายของ “พลตระเวน”
พลตระเวน หรือนายหนหวย (ศิลปะชัย ชาญเฉลิม) เขียนในหนังสือชื่อ ศิลปินแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ (ได้อ่านมาตั้งแต่เด็ก) ว่าพี่ชายของป.หรือปรีชา ให้ ป.มาถือท้ายเรือกลไฟแทนการขับแทกซี่ที่แสนเบื่อหน่าย
 
“วันๆก็นั่งถือท้ายชมทิวทัศน์สองข้างตลิ่งไปพลาง ไม่ก็อ่านหนังสือหนังหาเรื่อยไปตามเรื่องตามราว ปล่อยจิตต์ใจไปตามอารมณ์
พูดง่ายๆก็ว่างานของนายท้ายทำให้เขาปล่อยอารมณ์ได้มากกว่างานโชเฟ่อร์ละ ปรีชาทำงานหน้าที่นี้อยู่หลายเดือนก็ชักคุ้นกับประเพณีของแต่ละท่าเรือที่เขาจอดแวะ และได้ศึกษาชีวิตบนสองฟากฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างจุใจ
จนในที่สุดบนเรือไฟนี้เอง ปรีชาก็เกิดอารมณ์ที่จะแต่งหนังสือหนังหากับเขาบ้าง....”
 
ส่วนเพลงแม่ค้าตาคมนั้นครูไพบูลย์แต่งในทำนองหนุ่มคนหนึ่งไปพบรักกับแม่ค้าสาวชาวบ้านแพน ระหว่างโดยสารเรือด่วนสายท่าเตียน(กรุงเทพฯ) - บ้านแพน(อ.เสนา อยุธยา)
หัวใจตกหลุมระหว่างเรือแล่นถึงเมืองปทุม...
แม่ค้าคนนั้นมาซื้อลำไยเงาะส้มขนมต่างๆไปขายที่บ้านแพนเป็นประจำ
ตอนนี้ต้องนึกถึงเพลงสาวบ้านแพน อันแสนไพเราะของวงจันทร์ ไพโรจน์ แต่งโดย ส.สุวรรณทัต เจ้าของเพลงทุ่งบางพลีที่ผมชอบร้อง
แต่บัดนี้...พระเอกหนุ่มไม่เห็นแม่ค้าคนนั้นเสียแล้ว ฝากจดหมายนายท้ายไปก็ไม่มีเสียงตอบได้แต่เฝ้าคอย ...เธอหายไปไหน...?
 
ผมเทียวไปเทียวมาระหว่างภาษีเจริญกับสามโคก ระยะทางไป-กลับราวครั้งละ 100 กว่ากิโลเดือนละครั้งสองครั้งโดยไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยอยู่สิบกว่าปี
ดูทุ่งนาตามทางที่ขับรถผ่าน ดูท้องฟ้า วัดวาอาราม เสพบรรยากาศเก่าๆในตลาดและท่าน้ำ
ดูคนหาปลา ดูปลาเสือว่ายวนไปมาอย่างไม่ทุกข์ร้อน ดูเรือบรรทุกข้าวสารลำใหญ่ที่จอดอยู่เชิงสะพาน
ดูบ้านสามชั้นริมน้ำซึ่งมีดาดฟ้าน่าขึ้นไปนั่งเล่นมาก ดูเรือลากจูงในแม่น้ำ กินก๋วยเตี๋ยว ดื่มโอเลี้ยงและดูคนบางคน
แต่ก่อนมีคนไปเที่ยวด้วย ตอนหลังเขาเบื่อกันหมด เพราะไกลเกินไป แถมจบจากสามโคกแล้วยังแพ่นข้ามโลกไปรางกระทุ่มอีก ไม่เข้าใจว่าไปดูอะไรนัก ผมจึงต้องไปคนเดียว
เดี๋ยวนี้เพลาลงไปมาก เพราะเกรงใจคนในตลาด เขาเห็นเข้าคงนึกในใจว่า มาอีกแล้ว
นั่งเหม่อทีละนานๆ เดินไปเดินมาริมคลองเหมือนคนสติไม่ดี
แม่ค้าในจินตนาการก็คงรำคาญ ไม่เข้าใจว่าผมนึกอะไรอยู่ ...
มานั่งพินิจคิดตรองดูรู้สึกว่าหมดค่าน้ำมันไปหลายร้อยลิตรแล้วเธอก็ยังไม่ชายตามอง
โธ่...แม่ค้าตาคม...
แม่ค้าตาคม
เอนก นาวิกมูล เขียนเที่ยง 11.30 น. จ8มีนา2564
คำบรรยายภาพ
1.ป.อินทรปาลิต จากหนังสือ ป.อินทรปาลิต ชีวิตของคนขายฝัน โดย เริงไชย พุทธาโร SS-2196-055-จ11กย2560
2.ไพบูลย์ บุตรขัน จากพิพิธภัณฑ์ที่บ้านปากคลองสำมะแล อ.เชียงรากน้อย อ.สามโคก ซีดี3108-052-อา8มิย2557
3.สะพานข้ามคลองบางเตย ตลาดสามโคก เอนก นาวิกมูล ถ่าย SS-1259-002-อัง19มค2559
4.สามโคกหน้าน้ำ คลองบางเตย เอนก นาวิกมูล ถ่าย 01627-108-พุธ24พย2553
5.เรือใหญ่กับเรือโยง เอนก นาวิกมูล ถ่าย 01049-016-พฤ5พย2552
6.ที่ว่าการอำเภอสามโคกยุค 2460 เอนก นาวิกมูล ถ่าย 01334-019-พุธ26พค2553
7.เงา เอนก นาวิกมูล ถ่าย 01627-086-พุธ24พย2553
โฆษณา