15 มี.ค. 2021 เวลา 03:50 • ธุรกิจ
รู้จัก Baxter “โซฟา ตัวละล้าน” ต้องเป็นอย่างไร?
5
เมื่อพูดถึงกลุ่มธุรกิจที่เราสามารถเพิ่มมูลค่า
และสร้างเรื่องราวความหรูหรา เหนือกาลเวลา
ก็คงหนีไม่พ้นธุรกิจกระเป๋า นาฬิกา และรถยนต์
1
หากเราลองมาดูอายุของแบรนด์หรูระดับโลก
Hermès 183 ปี
Patek Philippe 181 ปี
Louis Vuitton 166 ปี
Rolls-Royce 114 ปี
Rolex 112 ปี
จากตรงนี้ก็ทำให้คิดได้ว่านอกจากเอกลักษณ์ และเสน่ห์ของแต่ละแบรนด์แล้ว
อีกส่วนสำคัญ ที่ทำให้แบรนด์หรูประสบความสำเร็จ
ก็น่าจะมาจากประวัติศาสตร์อันยาวนานเป็นร้อยปีของแต่ละบริษัทด้วย
2
แต่สำหรับวันนี้ เรามาดูอีกหนึ่งแบรนด์หรู ชื่อว่า “Baxter” ที่แม้จะก่อตั้งมาได้ 30 ปี แต่ก็ประสบความสำเร็จ และกลายมาเป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว ไม่แพ้แบรนด์หรูอายุ 100 ปี
ที่น่าสนใจก็คือ Baxter ไม่ได้เป็นผู้ผลิตกระเป๋า นาฬิกา และรถยนต์
แต่เป็นผู้ผลิต “โซฟาระดับอัลตร้าไฮเอนด์” ที่มีราคาระดับ “ล้านบาทต่อตัว”
1
บริษัท Baxter ถือเป็นธุรกิจครอบครัว และได้ถูกก่อตั้งขึ้น
โดย Luigi และ Paolo Bestetti สองนักธุรกิจชาวอิตาลี
ในปี 1990 หรือเมื่อ 30 ปีที่แล้ว
1
โดย Luigi และ Paolo Bestetti มีทุนเดิมที่ครอบครัวทำธุรกิจเฟอร์นิเจอร์อยู่แล้ว และต้องการมุ่งเข้าสู่ธุรกิจโซฟาหรู
คำว่าระดับอัลตร้าไฮเอนด์ในที่นี้ ก็คือ ต้องดีที่สุดในโลก เท่านั้น
1
แล้ว Baxter มีวิธีการผลิตโซฟาอย่างไร?
Luigi และ Paolo Bestetti มีกลยุทธ์ที่ว่า หากเราจะทำให้โซฟาให้มีคุณภาพดี
เราจะต้องควบคุมคุณภาพของหนังที่ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพก่อน
2
เพราะผู้ก่อตั้งทั้งสองเชื่อว่าการกินดีอยู่ดี และการดูแลสุขภาพผิวจะทำให้คุณภาพผิวของวัวดีขึ้น
อีกส่วนสำคัญก็คือ การเลือกใช้ผิวหนังชั้นนอก ซึ่งถือเป็นส่วนที่มีคุณภาพ และแพงมากที่สุด
เพราะเป็นชั้นที่นอกจากจะมีลวดลายสวยงามแล้ว หนังส่วนนี้ยังมีรูขุมขนของวัวจริงที่ทำหนังหายใจได้
1
หนังหายใจได้มันดีอย่างไร?
มันจะทำให้โซฟามีคุณสมบัติในการระบายความร้อนได้ดีที่สุด และสามารถปรับอุณภูมิให้เหมาะกับสภาพอากาศ โดยให้ความเย็นเมื่ออากาศร้อน และให้ความอบอุ่นเมื่ออากาศเย็น ข้อดีตรงนี้นี่เองที่ทำให้อายุการใช้งานของโซฟาหนัง Baxter มีอายุยืนยาวเป็น 100 ปี
1
ขั้นตอนการตัดเย็บ จะทำด้วยมือทุกขั้นตอน ปราศจากเครื่องจักร และย้อมสีหนังจากสีธรรมชาติโดยการแช่ในถังไม้โอ๊กเพื่อให้หนังดูดซับสีได้อย่างดีที่สุดในทุกอณู
1
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าหนังราคาระดับนี้ มันแตกต่างจากหนังทั่วไปอย่างไร
จริงๆ แค่ลองนั่งก็สามารถรับรู้ได้แล้ว เพราะถ้าหนังดีจะไม่มีกลิ่นหนัง กลิ่นสีทำให้รำคาญใจ และไม่รู้สึกเหนียวตัว (หลายๆ คนที่ไม่ใช้โซฟาหนังก็เพราะเหตุผลเหล่านี้
1
และอีกวิธีนึงก็คือการใช้กล้องส่องความละเอียดสูง จะมองเห็นได้ชัดเจนเลยว่าหนังของ Baxter จะมีความละเอียดของรูขุมขุนที่ชัดเจน แต่หนังทั่วไป จะมองแทบไม่เห็นรูขุมขนเลย เมื่อส่องกล้องดูจะเห็นถึงรอยหยาบของผิวหนัง
โซฟาหนังของ Baxter ผลิตตามความต้องการของลูกค้าเรียกว่า made to order เมื่อมีลูกค้าสั่งถึงผลิต และย้อมสีหนังใหม่สำหรับใช้กับโซฟาตัวนั้น โซฟา 1 ตัว จะใช้เวลา 5-6 เดือน ในการผลิตรวมถึงการขนส่งถึงบ้านลูกค้าด้วย
3
นอกจากนี้ สินค้าของ Baxter ทุกชิ้นจะถูกผลิตขึ้นตามหลักสรีรศาสตร์ และถูกออกแบบโดยดีไซเนอร์ชื่อดังระดับโลกอย่าง Paola Navone และ Pietro Russo
2
ถึงตรงนี้จะเห็นได้ว่าเรื่องราวกว่าจะมาเป็นโซฟาหนึ่งตัวของ Baxter มีรายละเอียดบางอย่างซ่อนอยู่ ซึ่งทำให้โซฟาซึ่งน่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่เรามองหาความแตกต่างได้ยาก กลายมาเป็นแบรนด์หรูที่มีราคาแพงมากได้
ทั้งหมดนี้ก็ได้ทำให้ Baxter กลายมาเป็นอีกหนึ่งแบรนด์หรู ที่แม้จะก่อตั้งมาได้ไม่นาน แต่ก็ประสบความสำเร็จ
จน 2 ปีที่ผ่านมา ทางบริษัทวางแผนที่จะต่อยอดธุรกิจ
โดยมุ่งเข้าสู่ธุรกิจโรงแรมหรู หรือ Baxter Hotel เพื่อนำเสนอประสบการณ์ของแบรนด์
รวมถึงเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการขยายฐานลูกค้าไปยังอีกหลายประเทศทั่วโลก
สำหรับประเทศไทยนั้น เท่าที่ลองค้นหาดูก็จะมีโชว์รูมย่านเอกมัย ชื่อ Seasons
ที่เป็นผู้แทนจำหน่ายอยู่เพียงผู้เดียว โดยโซฟาที่นำมาจำหน่ายในประเทศไทย
ก็มีระดับราคาตั้งแต่ 1 ถึง 3 ล้านบาทเลยทีเดียว..
แล้วเรื่องนี้ ให้ข้อคิดอะไรกับเรา?
1
จากเรื่องราวของ Baxter ก็ทำให้คิดได้ว่า
บางครั้ง หากเรามีธุรกิจที่เชี่ยวชาญเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
เราก็สามารถ ต่อยอด และทำให้มันกลายเป็นธุรกิจแบรนด์หรูระดับโลกได้ เช่นกัน
1
อย่าง Luigi และ Paolo Bestetti ที่ต่อยอดจากธุรกิจขายเฟอร์นิเจอร์ของครอบครัว
จนกลายเป็น Baxter แบรนด์โซฟาระดับอัลตร้าไฮเอนด์คุณภาพดีที่สุดในโลก ที่มีราคาได้ถึง หลักล้านบาท..
1
โฆษณา