11 มี.ค. 2021 เวลา 03:30 • การตลาด
กรณีศึกษา ธุรกิจออกแบบ ‘กลิ่น’ ที่จะเพิ่มยอดขายให้ลูกค้า
1
เชื่อหรือไม่คะ ว่า “กลิ่น” สามารถกระตุ้นยอดขายและสร้าง “กลิ่นจำ” ของร้านค้าได้
ซึ่งหลาย ๆ แบรนด์ดังระดับโลก ก็มีการนำกลยุทธ์นี้มาใช้เช่นกัน
อย่างเชนร้านกาแฟสตาร์บัคส์ ก็เคยมีรายงานออกมาว่าติดเครื่องกระจายกลิ่นกาแฟ
เพื่อดึงดูดลูกค้า และสร้างบรรยากาศภายในร้าน
วันนี้ลงทุนเกิร์ล ได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณภรรธน์ ปิลันธนากุล ผู้ออกแบบ “กลิ่น” ให้กับแบรนด์ดัง ๆ
ตั้งแต่ร้านแว่น Owndays, โชว์รูม Mercedes-Benz ไปจนถึงโรงแรมหรูอย่าง Sindhorn Kempinski
สรุปแล้ว “กลิ่น” จะช่วยกระตุ้นยอดขายของได้อย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
คุณภรรธน์ เล่าว่ากลยุทธ์การตลาด ที่ใช้ “กลิ่น” ในต่างประเทศมีมานานแล้ว
แต่สำหรับในประเทศไทย ยังถือว่าเพิ่งมีหลาย ๆ แบรนด์หันมาให้ความสำคัญเมื่อไม่กี่ปีนี้
เมื่อก่อน พอนึกถึงการนำกลิ่นหอมมาใช้ในธุรกิจ
คนส่วนใหญ่อาจนำมาใช้เพื่อจุดประสงค์ในการ “ดับกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์”
หรือไม่อย่างนั้นก็อาจจะเพื่อ “สร้างความผ่อนคลาย” ให้กับลูกค้า
พอเมื่อลูกค้าผ่อนคลายจากกลิ่น ก็จะส่งผลให้ใช้เวลาอยู่ในร้านนานขึ้น แปลว่าโอกาสที่ลูกค้าจะซื้อสินค้าหรือบริการ ก็ย่อมเพิ่มขึ้นด้วย
นอกจากนั้น “กลิ่น” ยังมีความสามารถในการสร้างความทรงจำ ดังนั้นแบรนด์ที่มีกลิ่นชัดเจน ก็จะเข้าไปสลักอยู่ในความทรงจำของลูกค้าได้อย่างไม่ยากเลย
ด้วยความสามารถเหล่านี้ จึงไม่แปลกใจที่แบรนด์ต่าง ๆ จะพากันสรรหากลิ่นที่เหมาะสมกับเอกลักษณ์ของตัวเอง และนำมาใช้กับธุรกิจ
อย่างเวลาที่เดินเข้าไปที่บริเวณล็อบบีโรงแรมหรือสปา เราก็มักจะได้กลิ่นหอมแบบอโรมาเทอราพี
แต่ปัญหามันอยู่ที่ ถ้าเราเป็นแบรนด์โรงแรมหรู หรือแบรนด์ใหญ่ ก็คงไม่ได้อยากใช้ “กลิ่น” ที่ซ้ำหรือเหมือนกับเจ้าอื่น เพราะนั่นหมายถึงความไม่มีเอกลักษณ์นั่นเอง
พอเรื่องเป็นแบบนี้ คุณภรรธน์ จึงเห็นโอกาส และก่อตั้ง Vibeslab เพื่อทำธุรกิจเกี่ยวกับ “กลิ่น” แบบครบวงจร ตั้งแต่ให้คำปรึกษา ออกแบบกลิ่น ไปจนถึงการติดตั้งเครื่องกระจายกลิ่นให้กับลูกค้า
แล้วเราจะต้องเรียนจบอะไรหรือมีประสบการณ์อย่างไร ถึงจะเป็นนักออกแบบกลิ่นแบบคุณภรรธน์ได้บ้าง ?
คุณภรรธน์ เรียนจบด้านการตลาด และการสร้างแบรนด์จาก Monash University ประเทศออสเตรเลีย
แต่ด้วยความชอบน้ำหอมเป็นทุนเดิมจึงไปเรียนต่อสถาบัน Expressions Parfumées ด้าน Aromachology & Perfumery ซึ่งเกี่ยวกับจิตวิทยากลิ่นว่ามีผลต่ออารมณ์อย่างไร
สามารถทำให้รู้สึกหิว กระตุ้นให้ผ่อนคลาย หรือแม้แต่การหวนรำลึกถึงเรื่องเก่า ๆ ซึ่งทำให้ลูกค้านึกถึงประสบการณ์ที่เคยมาใช้บริการได้
คุณภรรธน์ จึงเกิดความคิดว่า 2 สิ่งที่เรียนมานี้ สามารถส่งเสริมกันได้
นั่นก็คือ การใช้ “กลิ่น” เพื่อสร้างอัตลักษณ์ให้กับแบรนด์นั่นเอง
หลังจากนั้น พอกลับมาทำงานที่ประเทศไทยได้สักพัก จึงเริ่มมองเห็นโอกาสทางธุรกิจ
เพราะไทยเป็นประเทศที่เน้นการท่องเที่ยว ทำให้มีโรงแรมเยอะ
ซึ่งก็อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น ว่าปัญหาของโรงแรมใหญ่ ๆ คือการอยากได้กลิ่นที่ไม่ซ้ำใคร
และเรื่องนี้เองที่เป็นจุดเริ่มต้นของ Vibeslab ในปี 2016
ที่น่าสนใจคือ Vibeslab เลือกใช้โมเดลธุรกิจแบบ Subscription ที่เก็บเป็นรายเดือน
ทำให้บริษัทมีรายได้เข้ามาเรื่อย ๆ และยังช่วยตอบโจทย์ลูกค้าด้านการบริการอีกด้วย
เริ่มจากการให้ลูกค้าเลือกกลิ่น ซึ่งสามารถเลือกได้ทั้งกลิ่นที่ออกแบบใหม่ หรือกลิ่นในสต็อกที่มีอยู่แล้ว โดยมีทีมงานคอยให้คำปรึกษา เพื่อให้ได้กลิ่นที่เหมาะสมกับแบรนด์นั้น ๆ
ต่อมาจึงจะเข้าสู่กระบวนการติดตั้งเครื่องกระจายกลิ่น
ซึ่ง Vibeslab จะใช้วิธีนำหัวน้ำหอมไปติดกับเครื่องปรับอากาศ
ทำให้กลิ่นกระจายตัวได้มากกว่าการใช้ก้านไม้หรือเตาอโรมา
จึงถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่น ที่ทำให้ต่างจากแบรนด์เครื่องหอมเจ้าอื่น ๆ
ที่น่าสนใจคือ Vibeslab ไม่ได้แค่ขายกลิ่นแล้วจบ
เพราะคำนึงถึงลูกค้า ที่อาจจะลืมเปิดปิดเครื่อง ลืมเติมน้ำหอม ใส่น้ำหอมมากไป หรือน้อยไป
จึงใช้โมเดลแบบ Subscription ซึ่งรวมค่าบริการทุกอย่างแล้ว
ตั้งแต่การเติมน้ำหอมแบบไม่จำกัด และค่าบริการดูแลรักษาระบบเครื่องปรับอากาศ เรียกได้ว่าเป็นบริการครบวงจรอย่างแท้จริง
แล้วถ้าอยากสร้าง “กลิ่น” เฉพาะตัวให้กับแบรนด์ของเรา มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ?
เริ่มจากทาง Vibeslab จะเข้าไปรับโจทย์ว่าเราต้องการกลิ่นแบบไหน
จากนั้นจะมีทีมงานที่ศึกษาว่าแบรนด์ของเรามีบุคลิกแบบใด ตกแต่งร้านแนวไหน
ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการออกแบบกลิ่น ทดลองกลิ่น และติดตั้งเครื่องกระจายกลิ่น
ลองยกตัวอย่างเคสเพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น
กรณีการออกแบบกลิ่นให้กับโชว์รูม Mercedes-Benz โจทย์ที่ Vibeslab ได้รับคือ “ช่วยพัฒนากลิ่นที่ลูกค้ารู้สึกถึงเบาะรถใหม่ของเบนซ์”
2
ซึ่งแม้ว่าจะเป็นกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของรถเบนซ์อยู่แล้ว แต่ก็ไม่สามารถนำมาใช้ได้ทันที
ต้องปรับให้ใกล้เคียง แต่ไม่มีกลิ่นคาวของหนังจนเกินไป จึงผสมกลิ่นแนวโคโลญจน์เข้าไป
เพื่อให้เหมาะกับแบรนด์ Mercedes-Benz ที่ดูมีความสุขุม และเป็นผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จ
กรณีของร้านแว่น Owndays ที่ต้องการสร้างกลิ่น ที่เป็นหนึ่งเดียวกับประสบการณ์ของลูกค้าที่มาใช้บริการ
เพราะจุดเด่นของร้านนี้คือ การส่งมอบแว่นให้ลูกค้าภายใน 20 นาที
ดังนั้นกลิ่นที่ออกแบบมาจึงเน้นความผ่อนคลายไปกับบริการของร้านจนจบกระบวนการ
และยังต้องสอดคล้องกับแสงไฟ และการตกแต่งภายในที่มีความมินิมัลแบบญี่ปุ่น
หรือกรณีของโรงแรม Sindhorn Kempinski ซึ่งมีการตกแต่งสไตล์อินโดไชนา
จึงมีการเลือกใช้วัตถุดิบที่โตในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างแซนดัลวูด
และออกแบบกลิ่นเป็นแนวเอเชียน แต่ก็ยังมีการผสมความเป็นน้ำหอมแบบฝรั่งเศสเข้าไปด้วย
ซึ่งถ้าพูดถึงสิ่งที่คุณภรรธน์ทำ ก็คงเป็นการ “ฉีดน้ำหอม” ให้เหมาะกับบุคลิกและเครื่องแต่งกาย หรือก็คือรูปแบบการตกแต่งภายใน ของแบรนด์นั่นเอง
โดยเป้าหมายระยะยาวของ Vibeslab ก็ไม่ได้มีแค่เรื่องกลิ่นเท่านั้น
แต่คุณภรรธน์ ยังมองไปถึงการออกแบบ “บรรยากาศ” ทั้งหมด
ปัจจุบัน Vibeslab ก็เริ่มจับประสาทสัมผัสอื่น
อย่าง “เสียง” ซึ่งถ้าใครมีโอกาสได้ไปที่ร้านกาแฟ Tim Hortons
ก็จะได้ยินทำนองเพลงแจ๊สสมัยใหม่สนุกสนาน ที่เป็นผลงานของ Vibeslab
นอกจากนั้นอีกหนึ่งประสาทสัมผัสที่คุณภรรธน์กำลังสนใจก็คือ “การมองเห็น”
ซึ่งก็เน้นเป็นของตกแต่งที่ผสมผสานกลิ่นที่เป็นจุดแข็งของ Vibeslab อยู่แล้ว
เช่นผลิตภัณฑ์ล่าสุด ที่เป็นขวดไวน์ แต่เทออกมาแล้วเป็นน้ำหอมที่หน้าตาเหมือนไวน์เป๊ะ
เรื่องนี้ยังทำให้ Vibeslab จับกลุ่มลูกค้าทั่วไปที่ไม่ใช่ธุรกิจมากขึ้น
อย่างในช่วงโควิดที่ผ่านมา โรงแรมและลูกค้าที่มีหน้าร้านส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบ
จึงต้องชะลอการรับบริการของ Vibeslab เพราะการใช้โมเดล Subscription
ก็มีความเสี่ยงที่ลูกค้าจะหยุดจ่ายค่ารายเดือน ถ้าไม่ได้ใช้บริการ
3
ประกอบกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค ที่เดินทางไปหน้าร้านน้อยลง
แต่หันมาทำทุกอย่างผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น
คุณภรรธน์ จึงมองว่าด้วยปัจจัยเหล่านี้ จะทำให้คนหันมาตกแต่งบ้านมากขึ้น
ซึ่งสินค้าของ Vibeslab ก็สามารถตอบโจทย์ได้พอดี
เมื่อต้องเผชิญกับรายได้ที่ลดลงจากกลุ่มลูกค้าธุรกิจ
จึงได้ยอดขายจากลูกค้ากลุ่มแมส มาช่วยพยุงเอาไว้อยู่
ซึ่งทั้งหมดนี้คุณภรรธน์ก็มองว่า นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น
เพราะในโลกยุคปัจจุบัน ไม่ใช่ปลาใหญ่กินปลาเล็กแล้ว
แต่เป็นปลาเร็ว ที่จะมากินปลาช้าต่างหาก..
Reference:
-สัมภาษณ์ตรงกับคุณภรรธน์ ปิลันธนากุล เจ้าของ Vibeslab
3
โฆษณา