10 มี.ค. 2021 เวลา 15:43 • นิยาย เรื่องสั้น
เรื่อง “ศึกมหาเทพเจ้าพิชิตฟ้า”
ตอนที่ 3
เรียกได้ว่าครั้งนี้จินเป่าและจินจื่อเซวียน
โชคดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ท่านอาของพวกเขาช่วยไว้ ทั้งสามได้นั่งพูดคุยถึงความหลัง
กันอย่างสนุกสนานและชื่นมื่น...
เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจท่านอาจึงถือโอกาสเดินทางกลับไปยังตระกูลจินพร้อมกับจินเป่า
และจินจื่อเซวียนด้วย...
เมื่อทั้งสามคนเดินทางกลับไปถึง
จินเหมียนและฮูหยินจ้าวก็รีบออกมารับ
ในทันทีและยังได้ชวนให้ทั้งสามคนรีบไปทานข้าวด้วยกัน...
ทันใดนั้นเองประมุขจินก็เดินออกมาพอดี
จินเยว่หยางจึงพูดขึ้นว่า “คารวะศิษย์พี่”
ประมุขจินจึงกล่าวขึ้นว่า...
ศิษย์น้องเจ้าเป็นไงบ้างไม่ได้เจอกันหลายสิบปี...มาๆกินข้าวกันก่อน
หลังจากนั้นทุกคนก็พากันไปกินข้าวที่ห้องอาหารเมื่อกินเสร็จประมุขจินก็ได้เชิญให้
จินเยว่หยางไปคุยกันที่ห้องคัมภีร์
ส่วนจินเป่าและจินจื่อเซวียนก็ไปนั่งคุยกันกับฮูหยินจ้าวและจินเหมียนที่ห้องนั่งเล่น
“ห้องคัมภีร์”
ประมุขจินจึงกล่าวขึ้นว่าที่เจ้ามาในครั้งนี้คงไม่ใช่แค่มาเยี่ยมพวกเราหรอกใช่หรือไม่
จินเยว่หยางจึงตอบว่า ศิษย์พี่ช่างสายตาแหลมคมยิ่งนัก ใช่แล้วข้ามีเรื่องจะเล่าให้ท่านฟัง...
เมื่อประมาณครึ่งปีก่อนในช่วงที่ข้ากำลังออกท่องยุทธภพอยู่นั้นก็ปรากฏได้ยินข่าวลือในยุทธภพว่ามีปีศาจ...
“อสรพิษ 7 เศียร”
อาศัยอยู่บริเวณทะเลสาบไท่จง
ปีศาจอสรพิษนี้ได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวประมงและชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงเป็นอย่างมากมี ผู้กล้าจากทั่วทุกสารทิศอาสาที่จะไปปราบมัน แต่สุดท้ายก็ถูกมันฆ่าตายจนหมดสิ้น
เมื่อข้าได้ยินข่าวจึงได้รีบเร่งไปยังทะเลสาบไท่จงเพื่อสยบปีศาจอสรพิษ 7 เศียรตนนี้
แต่ทว่าปีศาจอสรพิษ 7 เศียรตัวนี้มีพลังอันมหาศาลยิ่งนักแรงอาฆาตของมันมีมากพอๆกับน้ำในทะเลสาบเลยก็ว่าได้
เมื่อข้าได้เผชิญหน้ากับมัน จึงได้เข้าต่อสู้กับมันหมายจะปลิดชีพและผนึกมันไว้
ข้าใช้ออกด้วยยอดเพลงกระบี่
“เด็ดบุปผาต่อหยก”
ซึ่งเป็นการ ใช้ออกด้วยเพลงกระบี่อันรวดเร็วว่องไวความไวของมันนั้นไวถึงขนาดที่แม้แต่แมลงที่เล็กแค่ไหนก็ยากจะได้ยินเสียงของมันที่กระทบกับอากาศ
ข้าใช้เพลงกระบี่เด็ดบุปผาต่อหยกฟันคอของปีศาจอสรพิษ 7 เศียรขาดไปคอแล้วคอยเล่าแต่มิคาด... มันกลับสามารถฟื้นคืนมาได้ครั้งแล้วครั้งเล่า
ช่วงแรกข้าดูเหมือนจะได้เปรียบแต่นานไปนานไปกลับเป็นฝ่ายข้าเสียเองที่เสียเปรียบแก่มัน...ผ่านไปครึ่งชั่วยาม
ข้าพลาดท่าถูกเขี้ยวของมันปักเข้าที่แขนด้านซ้ายจนได้รับบาดเจ็บทำให้ข้าจะต้องรีบม้วนตัวแล้วหลบถอยออกมา
ด้วยสถานการณ์ที่คับขัน ข้าจึงต้องรีบใช้นิ้วทั้งสองเขียนยันต์ลงบนพื้นดินแล้วเรียกอัญเชิญ ภูติรับใช้ “เสือดาวหิมะ”
ออกมารับมือในทันทีเสือดาวหิมะจึงได้ลอยขึ้นไปบนกลางอากาศหลังจากนั้นจึงได้ใช้พลังพยัคฆ์คำรณเป็นคลื่นพลังเสียงอันรุนแรง...
สะท้อนร่างของปีศาจอสรพิษ 7 เศียรจนปลิวไปไกลหลายเมตรทำให้ปีศาจอสรพิษ 7 เศียรจำต้องถอยกลับลงไปใต้ก้นทะเลสาบ
เมื่อเหตุการณ์ทุกอย่างจบลงข้าจึงได้ไปพักฟื้นที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งเมื่อข้าหายดีแล้วจึงได้พิเคราะห์ขึ้นว่าเหตุที่ปีศาจอสรพิษตนนี้
มีพลังอันรุนแรงและแรงอาฆาตที่สูงเช่นนี้อาจจะมาจาก “ไข่มุกสวรรค์”ก็เป็นได้...
เรื่องทั้งหมดก็เป็นเช่นนี้แหละศิษย์พี่
ประมุขจินจึงพูดขึ้นว่า ฟังจากที่เจ้าเล่ามานี่ก็มีความเป็นไปได้สูงยิ่งนักเพราะเมื่อประมาณ 500 ปีที่แล้ว
ในตอนนั้นไข่มุกสวรรค์ 9 ลูกมีเพียง 4 ลูกเท่านั้นที่ได้อยู่กับสี่ตระกูลใหญ่ส่วนอีก
5 ลูกที่เหลือกับกระจัดกระจายกันไปคนละทิศละทาง
เอาล่ะเพื่อความไม่ประมาท ต่อให้ปีศาจตนนั้นจะมีไข่มุกสวรรค์หรือไม่มันก็เป็นภัยคุกคามต่อชาวบ้านยิ่งนักดังนั้นอีก 3 วันให้หลัง เจ้ากับข้านำศิษย์ตระกูลจิน 30 คน เดินทางไปที่ทะเลสาบไท่จง...
เพื่อความไม่ประมาท เดี๋ยวข้าจะให้คนนำหนังสือไปแจ้งต่อ 3 ตระกูลใหญ่เพื่อให้ส่งเหล่าศิษย์เอกมาเพื่อช่วยกำจัดปีศาจอสรพิษโดยแจ้งว่าอาจมีความเกี่ยวเนื่องกับ
ไข่มุกสวรรค์...
3 วันผ่านไป...
“ห้องโถงใหญ่”
ประมุขจินจึงพูดขึ้นว่าฟังให้ดีนะ
อาเป่า อาจื่อ อาเหมียน พวกเจ้า 3 คนจะต้องคอยเชื่อฟังแม่ของเจ้าให้ดีและช่วยกันดูแลตระกูลจิน ให้ปลอดภัย
พ่อกับท่านอาของเจ้า ไปไม่นานเดี๋ยวก็จะกลับมาแล้ว...
ทั้งสามคนจึงพูดขึ้นว่าท่านพ่อไม่ต้องเป็นห่วงทางนี้หรอกขอรับพวกเราดูแลได้
ท่านพ่อกับท่านอาดูแลตัวเองด้วยนะขอรับ...
ว่าแล้วประมุขจินและจินเยว่หยางจึงออกเดินทางในทันทีทั้งสอง เดินทางมาเรื่อยๆจนมาถึงทะเลสาบไท่จงในที่สุดประมุขจินจึงสั่งให้ศิษย์ตระกูลจินเร่งสร้างค่ายที่พักเพื่อใช้สำหรับพักผ่อนในคืนนี้
ในคืนนี้เองจินเยว่หยางได้วางยันต์ระเบิดไว้กว่า 20 จุดบริเวณโดยรอบ ณ ค่ายที่พักเพื่อคอยป้องกันเหล่าภูตผีปีศาจ
ประมุขจินจึงถามไปยังจินเยว่หยางว่า
ศิษย์น้องเจ้าคิดว่าคืนนี้ปีศาจอสรพิษมันจะปรากฏตัวหรือไม่...
จินเยว่หยางจึงตอบว่าข้าน้อยเอง ก็ไม่ทราบเหมือนกันเพียงแต่ว่าปีศาจตนนี้มันจะชอบออกหากินในตอนกลางคืนนี่ล่ะขอรับ
ทันใดนั้นเองบริเวณผิวน้ำก็ปรากฏรอยเลือดสีแดงกระจายอยู่ทั่วทุกที่ ที่แท้ปีศาจอสรพิษมันได้สังหารศิษย์ตระกูลจิน
ไปถึง 3 คนแล้ว...
ทางด้านประมุขจินและจินเยว่หยาง เมื่อเห็นเช่นนั้นจึงรีบกระโดดลอยขึ้นไปบนกลางอากาศทันใดนั้นปีศาจอสรพิษ 7 เศียรก็ผุดขึ้นมาจากใต้น้ำ จินเยว่หยางจึงรีบเรียก
อัญเชิญภูตรับใช้ “เสือดาวหิมะ”
ออกมาสยบมันในทันที...
เมื่อเสือดาวหิมะปรากฏตัวเขาจึงสั่งให้เสือดาวหิมะ ใช้พลังแช่ให้พื้นทะเลสาบส่วนหนึ่งกลายเป็นก้อนน้ำแข็งเพื่อยึดร่างของปีศาจอสรพิษไว้กับที่...
แต่ทว่า ด้วยฤทธิ์เดชของมันมันก็สามารถทำลายพื้นน้ำแข็งได้อย่างง่ายด้ายและเริ่มโจมตีชายฝั่งหมายจะสังหารเหล่าศิษย์
ตระกูลจิน...
ทำให้ประมุขจินจึงต้องรีบชักกระบี่แล้วเข้าไปต่อสู้กับมัน ประมุขจินเข้าฟาดฟันอย่างดุเดือด ทางด้านจินเยว่หยาง
ก็รีบสั่งให้เสือดาวหิมะเข้าไปจัดการ
เสือดาวหิมะจึงกระโจนเข้าแล้วใช้ท่า
พยัคฆ์คำรณอีกครั้งแต่ปรากฏว่าครั้งนี้
กลับไม่ได้ผล ยิ่งทำให้มันโมโหมากยิ่งขึ้น
ฝ่ายด้านประมุขจินเองก็เริ่มไม่ไหวจึงรีบถอยออกมา...
แล้วใช้คาถา “สี่ประสานมรกต” สร้างม่านพลังขึ้นมาทั้งสี่ด้านเพื่อกักขังมันไว้
ด้วยเหตุนี้ปีศาจอสรพิษจึงขยับไปไหนไม่ได้ หลังจากนั้นประมุขจินจึงใช้ต่อด้วย
คาถา “เพลิงสุริยัน” ทำการเผามันในทันที
ทำให้ปีศาจอสรพิษดิ้นรนร้องโหยหวน
อย่างทรมาน...
แต่ทว่าไม่นานแผลของมันก็หายอย่างรวดเร็ว มิหนำซ้ำมันยังใช้พลังยิงออกจากปากทำลายม่านพลังลงได้อีกด้วย...
จบตอนที่ 3
โฆษณา