11 มี.ค. 2021 เวลา 11:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
หรือรถยนต์แบบ EREV จะดีกว่า ในยุคคาบเกี่ยวระหว่าง รถยนต์น้ำมัน กับ รถยนต์ไฟฟ้า ?
สวัสดีครับทุกท่าน หลังจากที่ห่างหายไปนาน ผมก็ได้มีเวลาไปเปิดโลกทางด้านเทค อุตสาหกรรมSemicondutor (ถ้ามีเวลาอาจจะมาแชร์) รวมทั้งอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งนับว่าเป็นความสนุกสนานอย่างมาก และได้รับความรู้เพิ่มเติมมากมาย
และวันนี้ผมจึงอยากนำความรู้ ข้อมูล เกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าเหล่านี้มาแชร์ให้เพื่อนๆ ได้รับรู้กันครับ
ณ เวลานี้ แน่นอนว่า หลายๆคนคงเชื่อว่า อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้ากำลังบูมแน่ๆ ทั้งประสิทธิภาพดีกว่า ค่าซ่อมบำรุงถูกกว่า แถมลดมลพิษจากควันเสียได้มากมาย แต่รถยนต์ไฟฟ้าก็ยังมีอุปสรรคหลายอย่างที่จะต้องแก้ไขก่อนถึงจะทำให้ผู้คนหันมาใช้มากขึ้น
หนึ่งในปัญหาที่ว่านั่นก็คือ ระบบการชาร์จไฟ หรือ ปั้มชาร์จครับ เราลองคิดดูนะครับ หากเราขับออกต่างจังหวัดแบบไปทัวร์หลายๆที่ แล้วปรากฎว่า อ่าว รถแบตจะหมด แบตเตอรี่ต่ำ ไม่สามารถหาที่ชาร์จได้ กว่าจะชาร์จก็ใช้เวลาอย่างต่ำ 30นาที ถ้าหากเวลารีบๆจะเป็นอย่างไร
ซึ่งผมเชื่อว่า นี่คงเป็นปัญหาหลักที่หลายๆคนคงกังวัลเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า BEV(Battery Electric Vehicle) ซึ่งพึ่งพาพลังงานจากแบตเตอรี่อย่างเดียว
แต่ปัญหาที่ว่ามาจะหมดไปครับ เมื่อเราใช้รถยนต์ไฟฟ้า แบบ EREV (Extended Range Electric Vehicle) ซึ่งจะพึ่งพาพลังงานได้ถึง 2อย่าง คือ 1.แบตเตอรี่ไฟฟ้า 2.น้ำมัน
อ่าววว ถ้าอย่างนั้น มันก็ไม่ลดมลพิษสิ มันมีน้ำมันด้วยอะ ก็เหมือนรถ Hybrid ในปัจจุบันสิ หลายๆคนเมื่ออ่านแล้ว อาจจะรู้สึกอย่างนั้นครับ แต่ เครื่องยนต์ Hybrid นั้น หลักๆมันคือ เครื่องยนต์สันดาบนั่นแหละครับ แต่ตัว EREV นั้น เครื่องยนต์หลักมันคือ มอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ เพียงแค่สามารถเติมน้ำมันเข้าไป เพื่อให้มอเตอร์ไฟฟ้าทำงานได้ด้วยเท่านั้นเองครับ
https://www.sciencedirect.com/topics/engineering/extended-range-electric-vehicle
ภาพเครื่องยนต์ของรถ EREV ที่มาจาก https://www.researchgate.net/figure/Extended-range-electric-vehicle-EREV-powertrain-configuration-and-power-flow_fig1_321093822
อารมณ์เหมือน เครื่องปั่นไฟ ที่ใช้น้ำมันปั่นไฟให้มอเตอร์ทำงานได้ ซึ่งแน่นอนว่า แทบไม่มีการปล่อยมลพิษ แถมยังสามารถหาเติมได้ทุกที่ เพราะทุกวันนี้ ปั้มน้ำมันยังมีมากมาย ทั่วประเทศทั้งต่างจังหวัด ทั้งในเมือง เรียกได้ว่า ขับยาวๆ ไม่ต้องกลัวแบตหมดเลยครับ
4
ซึ่งถ้าถามว่ามีคนนิยมรถ EREV แบบนี้ไหมต้องบอกเลยว่า เรามีตัวอย่างจากประเทศจีนมาให้ดูกันครับ
บริษัท Li Auto ซึ่งผลิตรถ EREV รุ่นเดียว โมเดลเดียวในประเทศจีน ที่วางขายตอนนี้ คือ Li One SUV
Li One SUV เป็นรถที่ผลิตโดยบริษัท Li Auto ซึ่งบริษัทสตาร์ทอัพนี้ จัดตั้งขึ้นในปี 2015 ซึ่งช้ากว่าบริษัทสตาร์ทอัพที่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชื่อดัง อย่าง Nio หรือ Xpeng อยู่ 1ปี ทำให้เรื่องชื่อเสียงต่างกันมากทีเดียว แต่ยอดขายรถกลับไม่ได้ต่างกันเลย
อย่างตัว Nio ในปี2020 ยอดขายรถอยู่ที่ 43,728 คัน
Xpeng ในปี2020 ยอดขายรถอยู่ที่ 27,041 คัน
ส่วน Li Auto ในปี2020 ยอดขายอยู่ที่ 33,457 คัน ซึ่งบอกได้เลยว่า ไม่ธรรมดาสำหรับบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าหน้าใหม่ ที่มียอดขายสูงขนาดนี้
สิ่งนี้แสดงว่าอะไร ? สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า รถยนต์แบบ EREV ถือว่า ได้รับความสนใจในตลาดจีนค่อนข้างมากเลยทีเดียว อาจจะเป็นเพราะ สภาพทางภูมิศาสตร์ที่กว้างใหญ่ของประเทศจีนด้วย เพราะหากเวลาที่ผู้ใช้ต้องการเดินทางไปต่างจังหวัด แน่นอนต้องใช้ระยะทางที่มาก ข้ามไปแต่ละจังหวัด แต่ละมณฑล ก็คงใช้ระยะทาง หลายร้อยกิโลเมตร แบตอาจจะไม่เพียงพอ หากไม่มีปั้มชาร์จระหว่างทางก็คงไม่มีใครอยากเอารถยนต์ไฟฟ้าไป แต่รถแบบ EREV ซึ่งเราสามารถเติมน้ำมัน โดยที่ยังคงความลดมลพิษต่อโลกได้ สิ่งนี้ก็นับว่า เป็นการแก้ปัญหาที่ดีทีเดียว แถมผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าก็อาจจะไม่จำเป็นต้องลงทุนในปั้มชาร์จ ในการสร้าง infrastructure ต่างๆด้วย นับว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
ในความเห็นส่วนตัว ผมก็รู้สึกชอบลักษณะของ EREV นะครับ เพราะในปัจจุบัน ตัวสถานีชาร์จของBEV นั้นก็ยังมีไม่มาก ยิ่งตามตัวต่างจังหวัด ยิ่งไม่มีเลย ตัวนักลงทุนก็คงคิดหนักหากจะลงทุนสร้างปั้มชาร์จ เพราะจำเป็นต้องใช้เงินทุนเยอะ คงต้องเป็นบริษัทใหญ่ๆถึงจะกล้าทำ ดังนั้นแล้วหากรถยนต์ไฟฟ้าสามารถเติมน้ำมันได้แบบนี้ นับว่าเหมาะสมมากๆ กับยุคที่จะเกิดการสลับสับเปลี่ยนระหว่างรถยนต์น้ำมันและรถยนต์ไฟฟ้าครับ
ในอนาคต ส่วนตัวผมเชื่อแน่ว่า ยังไงๆรถยนต์ไฟฟ้าก็จะมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเราแน่นอนครับ แต่จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า แบบBEV หรือ EREV นั้น ก็ต้องมาดูกันต่อไป
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านบทความนี้จนจบ ขอบคุณทุกแรงสนับสนุน การกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกท่านนะครับผม ขอบคุณครับ
โฆษณา